18 มิ.ย. 62 ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงข่าวการประชุมนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ตามที่ กกต. ทำหนังสือถึงพรรคชาติไทยพัฒนา ร้องเรียนว่า พรรคการเมืองไม่ปฏิบัติตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าด้วยรายละเอียดของนโยบายที่ใช้หาเสียง การเกษตร ศึกษา กระจายอำนาจ สังคม พัฒนาเมือง และท่องเที่ยว ประชุมห้กรรมการนโยบายละยุทธศาสตร์พรรค ยื่นต่อ กกต. ถือว่า ทำถูกต้องตามมาตรา 57 และรัฐธรรมนูญ งบประมาณที่ใช้ เป็นไปตามที่เสนอไว้
นายนิกร กล่าวด้วยว่า สำหรับวาระที่สอง พิจารณานโยบายของกรรมการนโยบายต่อการทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ตามที่ตกลงร่วมรัฐบาล นำนโยบายของพรรคพิจารณาในกรรมการหารวมทำนโยบาย ซึ่งมอง 2 มิติ คือ แผนปฏิบัติการเร่งด่วน 7 ด้านตามคำสัญญาของพรรคให้ประชาชน และนโยบาย 9 ด้านหลักของพรรค อาทิ สิ่งแวดล้อม, การต่างประเทศ, การเมือง ได้สรุปไปยังพรรคที่แกนนำจัดตั้งรัฐบาลเท่าที่จะปฏิบัติได้ เขียนไว้ได้ในนโยบายรัฐบาล โดยไม่กระทบกระเทือนกับบุคคลใด
ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวด้วยว่า ขณะที่การทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ หรือ ส.ส. นั้น 10 คนจะยื่นกฎหมายต้องมีจำนวน 20 คนต้องหาสมาชิกสภาฯ ที่เห็นด้วยและร่วมลงนามเสนอร่างกฎหมาย ทั้งนี้จะพิจารณาด้วยว่านโยบายของพรรคที่หาเสียงมีประเด็นใดที่จะต้องออกเป็นกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ตนมีประเด็นที่เตรียมผลักดัน คือ การจัดศาลจราจร รวมถึงมาตรการความปลอดภัยทางจราจร ผ่านการร่างกฎหมายของพรรค เพื่อเป็นร่างกฎหมายที่จะนำไปพิจารณาควบคู่กับร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งตนเคยเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และรัฐบาลชุดก่อนหน้านั้นรับไปพิจารณา
ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวต่อว่า ช่วงบ่าย กรรมการมาตรฐานจริยธรรมของพรรคจะหารือ ยกร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ให้พิจารณา หากเห็นชอบจะเสนอหัวหน้าพรรค และเข้าสู่การประชุมกรรมการาบริหารเพื่อบังคับใช้ กรณีที่สมาชิก กรรมการบริหาร ส.ส. ทำผิดจริยธรรมจะใช้กรรมการมาตรฐานจริยธรรมพิจารณา นอกจากนั้นจะประชุม ส.ส.ของพรรค ทุกวันอังคาร การประชุมดังกล่าวจะให้กรรมการบริหาร ประธาน และเลขานุการคณะทำงานของพรรค เพื่อพิจารณาระเบียบวาระประชุมสภาฯ ว่า พรรคจะมีมติอย่างไรในการขับเคลื่อนงานด้านนิติบัญญัติ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนต่อโควตารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิกร กล่าวว่า เป็นไปตามข่าว ทั้งนี้เพื่อรักษามารยาทและขั้นตอนในกระบวนการ เช่น การตรวจสอบคุณสมบัติ และการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เตรียมประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระหากไม่ได้รับโควตากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิกร กล่าวว่า ตนไม่ขอให้ความเห็นใดๆ และในที่ประชุมของพรรคตกลงว่าจะไม่คุยเรื่องตำแหน่งหรือผลกระทบใดๆ ที่เกิดขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า กรณีต่อรองจะทำให้เกิดความปั่นป่วนหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ไม่เกิดความปั่นป่วน ฐานะที่เป็นพรรคอยู่มานาน เรื่องพวกนี้เป็นปกติ ที่จะจัดตั้งรัฐบาล และผลกระทบทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่แกนนำพรรครัฐบาลจะพิจารณา
“ที่หลายคนกังวลว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะทำให้เป็นปัญหาต่อการทำงานในสภาฯ นั้น ฐานะที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำ การเมืองมา 30 ปี มองว่า รัฐบาลเสียงมาก ก็อันตราย และน้อยก็อันตราย เสียงปริ่มน้ำที่ว่า อาจเกิดปัญหาได้ ไม่เฉพาะ การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ แต่ยังมีกฎหมายการเงินที่อาจเป็นอันตราย ทั้งนี้ในภาวะที่รู้สึกว่าอันตรายและล่อแหลมคนจะระวังตัวเป็นพิเศษ เมื่อเป็นแบบนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง” นายนิกร กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคหารือต่อการให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ลาออกจากส.ส.หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย แต่เชื่อว่าจะจัดการได้ ทั้งนี้ยุคหนึ่งเคยบังคับให้ส.ส.ลาออก แต่หากปรับครม. จะเกิดภาวะ ลอยกลางหาว ส.ส. ก็ไม่ได้เป็น รมต. ไม่ได้เป็น ทำให้เป็นปัญหา ทั้งนี้ ครม. และรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนด ไว้ ดังนั้นจึงเป็นการบริหารจัดการกันเองของพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี