‘เสรีพิศุทธ์’ชี้ปมลูกพรรคค้ายาเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหายังไม่ถึงที่สิ้นสุด อ้างไม่รู้จักสนิทสนมเป็นการส่วนตัว ส่วนภาพชูมือที่ถูกนำไปแชร์บนโลกออนไลน์นั้นเจ้าตัวมาขอถ่ายไว้ก่อนที่จะลงสมัครสมาชิกพรรค เผยแม้แต่กกต.ก็ไม่มีทางรู้พฤติกรรมเป็นแบบนี้ พร้อมท้าให้ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 20.20 น.วันที่ 27 มิถุนายน 2562 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีกรณีนายสุบรรณ มหาชนนท์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ถูกชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมในข้อหาค้ายาเสพติด ผ่านรายการ “ตอบโจทย์” ทางสถานีไทยพีบีเอส ตอนหนึ่งว่า ตอนเราจัดตั้งพรรคและประกาศหาสมาชิกพรรคนั้น ไม่มีใครเข้ามาร่วม เพราะเราเป็นพรรคเล็ก จึงประกาศหาผู้สมัคร ซึ่งเข้ามาสมัครกว่า 1,000 คน จากนั้นก็ให้กรรมการพรรคคัดกรองว่าใครเหมาะสมที่จะลงเขตไหนบ้าง ซึ่งการตรวจสอบคุณสมบัติก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เมื่อลงสมัครเขตครบ ต้องมาดูว่าคนที่เหลือเพื่อที่จะลงส.ส.แบบรายชื่อตามลำดับถัดไป
พล.ต.อ.เสรีพิศทธ์ กล่าวอีกว่า ผู้สมัครมีหลายแบบ มาเพื่อหวังผลประโยชน์ หรือเอาชื่อพรรคไปแอบอ้างและเป็นที่พึ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถคัดได้ อย่างนายสุบรรณ ประวัติของเขาเรียนจบปริญญาตรี จึงได้ดับดับส.ส.ที่ 50 กว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับนายสุบรรณ ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะตรวจสอบหาหลักฐาน ซึ่งทางพรรคจะต้องรอดูตำรวจก่อน เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วอาจจะไม่สั่งฟ้องนายสุบรรณก็ได้ การที่กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดทันที เพราะหากจำเลยจะมีความผิดจะต้องถึงที่สุดก่อน แต่ถ้ายังเป็นการไต่สวนชั้นต้นถือว่ายังไม่ผิด
“ตอนนี้ขั้นตอนของตำรวจเพียงจับนายสุบรรณ ถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา ถ้ามีความเห็นสั่งไม่ฟ้องก็จบ แต่ถ้าหากฟ้อง กรรมการพรรคจะต้องมาประชุมกันว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง หากเขายังไม่มีความผิดพรรคดำเนินการตรวจสอบก่อน ก็อาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ กล่าวอีกว่า มีคนถามว่ารู้จักกับนายสุบรรณ เป็นการส่วนตัวหรือไม่ ตนก็ตอบว่าไม่รู้จัก ไม่มีความสนิทสนมกัน ส่วนที่บนโซเชียลมีการแชร์ภาพที่ตนจับมือนายสุบรรณ ชูขึ้นแล้วบอกว่าสนิทกัน จะบอกว่าภาพดังกล่าวถ่ายไว้ก่อนที่จะลงสมัครสมาชิกพรรคในวันที่ 25 มกราคมเท่านั้นเอง ซึ่งเขามาขอถ่ายรูปด้วย ทั้งนี้ พรรคต้องส่งรายชื่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่ง กกต.เองก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าเขาจะมีพฤติการณ์แบบนี้ การลงสมัครส.ส.เป็นการรวมตัวกันแบบหลอมๆ เท่านั้น จะไปวันไหนก็ได้ อย่างส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ก็ย้ายไปอยู่พรรคอื่น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ แต่อย่างตนไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ เพราะอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย
“ผมไม่กลัวการถูกตรวจสอบ เพราะก่อนหน้านี้ลูกน้องเก่าเตือนมาว่าให้ระวัง เขาอาจจะสืบมาถึงหัวหน้าพรรค ซึ่งผมพร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้ว ผมรู้อยู่ว่าทำอะไร ผมพูดดี คิดดี ทำดี คงไม่มีปัญหา ตอนนี้อยากให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะเราต้องการปราบปรามยาเสพติดอยู่แล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี