‘พปชร.’ถก19พรรคร่วม
จัดรวมนโยบาย
ชง‘บิ๊กตู่’แถลงต่อรัฐสภา
‘ชวน’ใช้ห้องTOTเปิดประชุม
วิษณุการันตีคุณสมบัติธรรมนัส
หม่อมเต่าไขก๊อก-น้องพลัมเสียบ
“สนธิรัตน์” นั่งหัวโต๊ะ นำ 19 พรรคร่วมรัฐบาลถกนโยบาย พร้อมชงบิ๊กตู่แถลงต่อรัฐสภา ด้านประธาน“ชวน”เตรียมหอประชุมใหญ่ TOT พร้อมรองรับ คาดลงตัว24 กรกฎาคมนี้ ขณะที่“วิษณุ”ระบุรัฐบาลทำหนังสือขอพระราชทานวันเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนของครม.ใหม่ ส่วน“สมคิด”มั่นใจ “รัฐนาวาลุงตู่ 2” เรียกความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยได้
ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ที่เพิ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งแล้วเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้วจะประชุมคณะรัฐมนตรีต่อเลยทันทีหรือไม่ ว่า ส่วนตัวตนไม่ทราบ และยังไม่ทราบด้วยว่าจะถวายสัตย์ฯเวลาใด ยังไม่มีกำหนดการและไม่ทราบว่าจะเป็นวันที่ 16กรกฎาคมนี้หรือไม่
แต่วันนี้รัฐบาลจะทำหนังสือขอประทานวันเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ อย่างไรก็ตามในการประชุมครม.ครั้งแรกจะยังไม่มีการแบ่งงานรัฐมนตรีใหม่ แต่จะพูดเรื่องนโยบายเป็นหลัก หรือเรียกเป็นการประชุมเพื่อเตรียมแถลงนโยบายที่ทำมาทุกรัฐบาล ขณะเดียวกันการแบ่งงานจะเกิดขึ้นภายหลังมีการแถลงนโยบายไปแล้ว
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่เหมาสมตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากเคยถูกคดีจากต่างประเทศมาแล้ว ว่า ตามข้อกฎหมายเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนความเหมาะสมและความควรไม่ควรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องหลักจริยธรรมในตัวรัฐมนตรีนั้น ก็สามารถทำได้เป็นสิทธิ อย่างไรก็ตามให้ไปไล่ดูคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามที่มีอยู่ในมาตรา 98 และมาตรา 101 ว่าขัดหรือไม่ขัดอย่างไร หากใช่ก็คือใช่ หากไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เมื่อถามว่า การที่ถูกต้องโทษในต่างประเทศแล้วย้ายกลับมาที่ประเทศไทย จะต้องรับโทษและติดคุกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบ
‘สมคิด’ชี้มีนโยบายคล้ายกัน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.ชุดใหม่มีนโยบายคล้ายกัน โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจที่หลายพรรคมุ่งพยายามทำให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง มีความสามารถสูงในอนาคต ช่วยเหลือฐานรากให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละพรรคส่งรายละเอียดเข้ามาเพื่อนำมาแก้ปัญหา และนายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว
“ส่วนความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ หลังจากนี้สถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้น เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับรัฐบาลชุดนี้ เพราะทุกประเทศจะต้องพบกับปัญหาสงครามทางการค้า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบ คงยากที่จะรอดพ้นจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แต่จะต้องผ่านไปให้ได้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ครม.ชุดใหม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วนได้ เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่นโยบายของประเทศ หากทุกคนดำเนินการตามนโยบายที่วางไว้ ความเชื่อมั่นจะตามมา ต้องสร้างความเชื่อมั่นในประเทศ ก่อนที่จะให้ต่างชาติมาเชื่อมั่นในประเทศไทย
นายสมคิด กล่าวถึงนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา ว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐดำเนินการเสร็จแล้ว เหลือประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น รัฐบาลนี้รับฟังนโยบายของทุกพรรค รวมถึงนโยบายพรรคฝ่ายค้านด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้นำมารวบรวมประกอบในร่างนโยบายรัฐบาลด้วย ส่วนจะมีนโยบายออกมาเซอร์ไพร์สหรือไม่ ต้องดูที่ความตั้งใจ การสร้างความเชื่อมั่นและใช้โอกาสของประเทศอย่างเต็มที่
ฟันธงเศรษฐกิจจะดีขึ้น
นายสมคิด กล่าวถึงกรณีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีรัฐมนตรีมากถึง 4 คน ว่า กระทรวงเกษตรฯเป็นกระทรวงใหญ่ รับผิดชอบภารกิจเกี่ยวกับประชาชนทั้งประเทศ จึงมีความเหมาะสมที่จะมีรัฐมนตรีเข้ามาดูแลเรื่องสำคัญของประชาชน
ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ปรับลดจีดีพีปีนี้ลดลงเหลือร้อยละ 2.9-3.3 นายสมคิด กล่าวว่า ครึ่งปีแรกอาจจะพบกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ทุกคนคงเข้าใจ แต่หลังจากครึ่งปีหลังนี้ จะต้องเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ทราบว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีนัก โครงการลงทุนต่า งๆ จะต้องไม่ติดขัด ขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ขณะนี้รอรัฐมนตรีใหม่มาขับเคลื่อน เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา ทุกอย่างสามารถประคับประคองไปได้ การที่ ธนาคารโลกประมาณค่าจีดีพีไทยให้ปีนี้ให้เหลือร้อยละ 3.5 จาก ร้อยละ 3.8 ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีพอสมควร ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้
ปชป.ยึด3เงื่อนไขสำคัญ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวหลังหารือกับรัฐมนตรีของพรรคเกี่ยวกับการจัดทำนโยบายรัฐบาล ว่า มอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตร นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรี รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หารือกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อจัดทำนโยบายรัฐบาลร่วมกัน
โดยยังยึด 3 ประเด็นหลักที่เป็นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล คือ การประกันรายได้เกษตรกรเรื่องข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด การบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้กำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดจะต้องแก้หมวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นในอนาคตและทำได้ง่ายขึ้น
สำหรับการทำงานในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ กล่าวว่าต้องรอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน จึงจะเข้าทำหน้าที่ เรื่องเร่งด่วนที่ต้องผลักดันคือนโยบายประกันรายได้ เพราะเป็นเป้าหมายหลักที่พรรคจะต้องเข้าไปดูแล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้นัดหารือกับรัฐมนตรีช่วย
“เสี่ยหนู”พร้อมดันกัญชา
ที่ห้อมประชุมทีโอที นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข กล่าวยืนยันที่ที่จะขับเคลื่อนนโยบายหลายเรื่องที่สำคัญที่เกี่ยวกับการสาธารณสุข ซึ่งไม่ใช่นโยบายกัญชาเสรีเท่านั้น แต่ยังมีนโยบายอื่น ๆ อาทิ การยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) การพิจารณาอัตรานักเรียนแพทย์ที่อยากให้บรรจุหลังเรียนจบ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนในงานของกระทรวงคมนาคม ที่พรรครับผิดชอบนั้น จะมีการสานต่องานเดิมพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้ประชาชนในฐานะผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเดินหน้าตามโรดแมปและจะเป็นกระทรวงหลักในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ทำงานสอดประสานกันทุกภาคส่วน และทุกคนจะทำงานตามหน้าที่ ยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลกี่พรรคก็ตาม เราจะทำหน้าที่ของเรา อย่าก้าวก่ายซึ่งกันและกัน อย่าอิจฉาประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ
“ไม่รู้สึกหนักใจกับการขับเคลื่อนนโยบายกัญชา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีแสดงเจตนารมณ์ในการผลักดันเรื่องนี้แล้ว ซึ่งในคณะรัฐมนตรีชุดเดียวกันก็ต้องช่วยกันทำงาน และเท่าที่ทราบผู้ที่ปฏิบัติก็ไม่มีใครปฏิเสธหรือต่อต้านนโยบายนี้ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดันในเรื่องการผลักดันนโยบายกัญชาเสรี ที่หลายคนมองว่าอาจจะไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะหากใช้อย่างถูกต้องถูกวิธีตามเป้าหมาย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์ อะไรที่อยู่นอกระเบียบ เราก็จะหาทางแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางที่ดี” นายอนุทิน กล่าว
เป็นรมต.ต้องพ้นสส.บัญรายชื่อ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ปัญหาปากท้องของประชาชน ถือเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเหล่านี้เป็นหลัก เพราะประชาชนให้การคาดหวังและเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะต้องเร่งดำเนินการก่อนเรื่องอื่น ๆ ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยจะประเมินผลการทำงานทุก 3 เดือน และจะปรับการทำงานไปเรื่อย ๆ ผลักดันให้เกิดความสำเร็จ ส่วนแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี ก็จะทำให้เกิดความสำเร็จให้ได้ เพราะเชื่อมั่นในข้าราชการประจำและภาคการเมืองจะสามารถร่วมมือกันทำงาน และทำให้ผลที่จะออกมาเป็นบวกอย่างแน่นอน
“หลังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ผมและนายศักดิ์สยาม จะทำหน้าที่ ส.ส.ควบคู่ไปด้วย เพราะถือว่างานสภาฯ เป็นงานที่สำคัญ เช่นเดียวกับงานบริหารราชการแผ่นดิน จึงจะทำงานโดยไม่มี OT ส่วนรัฐมนตรีท่านอื่นที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค เราก็จะดำเนินการยื่นใบลาออกให้หลังถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว เพื่อให้บุคคลในบัญชีรายชื่อของพรรคลำดับต่อ ๆ ไปเลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่แทน” นายอนุทิน กล่าว
อนุพงษ์แบ่งงานรัฐมนตรีช่วย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นรมว.มหาดไทยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงโปรดเกล้าฯให้ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการทำงานขณะนี้ ความคาดหวังของสังคมมีสูง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ ความโปร่งใส ความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้ทันต่อสังคมโลกดิจิทัล และยังมีงานที่ต้องบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงาน ข้าราชการ ซึ่งต้องเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมจึงจะประสบความสำเร็จ ถือเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันในอนาคต
“สำหรับการหารือกับ2รัฐมนตรีช่วยว่าการ นายนิพนธ์ บุญญามณี และนายทรงศักดิ์ ทองศรี ซึ่งเป็นการทำงานกับฝ่ายการเมืองครั้งแรกนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการติดต่อทางธุรการก่อน และคงจะเชิญทั้ง2ท่านมาหารือในวาระที่เหมาะสม เพราะมีงานใหญ่ที่ต้องทำ2เรื่อง คือการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และเตรียมการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็คงจะมีนัดหารือกันก่อน อาจมีการบรรยายสรุปให้ฟังถึงบทบาท และภารกิจของกระทรวงมหาดไทย และแนะนำให้รู้จักกับบรรดาข้าราชการ จากนั้นเมื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ และแถลงนโยบายต่อสภาฯเรียบร้อยแล้ว จะตรวจเยี่ยมกระทรวง พบปะข้าราชการ ควบคู่ไปกับการทำงาน” รมว.มหาดไทย กล่าว
“ณัฏฐพล”ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้โพสต์เฟสบุกระบุว่า ตนและครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เป็นมงคลสูงสุดในชีวิต ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ได้รับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตนขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กรุณาทูลเกล้าเสนอชื่อตน ให้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งนี้ ตนจะทำหน้าที่ที่ท่านนายกฯ ให้ความไว้วางใจอย่างสุดความสามารถ ใช้ประสบการณ์ที่มีเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหา ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการให้มีความก้าวหน้าและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาและการเรียนรู้ในโลกที่กำลังโดนเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนทำคนเดียวไม่ได้ครับ หากขาดความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะจากเจ้าหน้าที่กระทรวงทุกท่าน คุณครูทุกคน เด็ก นักเรียน รวมถึงผู้ปกครอง และทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาของบ้านเราครับ
ดังนั้นตนจึงอยากขอเชิญให้ทุกคน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันครับ มาร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ยังคงมีอยู่ในระบบการศึกษา มาร่วมกันสร้างและพัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ทำให้เด็กนักเรียน ลูกหลานของพวกเราทุกคน สามารถเติบโตมีศักยภาพและเป็นกำลังหลักของประเทศ อย่างไรก็ตามตนจะรีบดำเนินการรับฟังข้อมูลทุกด้านไม่ว่าแผนงาน แนวทางการพัฒนาการศึกษา และปัญหาที่ยังคงมีอยู่ในกระทรวงฯ และระบบการศึกษา หลังจากผมวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด ผมจะมานำเสนอและแบ่งปันต่อทุกท่านครับ มาร่วมทำงานด้วยกันกับผมนะครับ เราจะเดินหน้าไปด้วยกันครับ
หม่อมเต่า ไขก๊อก สส.บัญชีรายชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (พปชร.) ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อ เพื่อเปิดทางให้ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อของพรรค ในลำดับถัดไป ได้เข้ามาเป็นสส.โดยผู้ที่จะได้เป็นสส.บัญชีรายชื่อแทน หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล คือ ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อลำดับที่5 นายทวีศักดิ์ ณตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค แต่เนื่องจาก นายทวีศักดิ์ ติดภารกิจ เป็นทีมทนายความให้กับ กปปส.ในการต่อสู้คดี รวมถึงมีโรคประจำตัว จึงจะลาออกจากการเป็นผู้สมัครแล้วให้ น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ หรือน้อมพลัม หลานสาว นายเอนกเหล่าธรรมทัศน์ ผู้สมัครลำดับที่6 ได้เป็นสส.บัญชีรายชื่อแทน
ใช้ห้องประชุมทีโอทีแถลงนโยบาย
วันเดียวกัน ที่หอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งในวาระพิจารณา ร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ....ที่ประชุม ที่มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ จำนวน 39 คน ด้วยเสียงข้างมาก 242 เสียง ต่อ 232 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง
ก่อนหน้านี้ในการประชุมนายชวน ระบุว่า การตั้งกมธ.วิสามัญ จะมีเวลาพิจารณา ช่วง 22 - 24 กรกฎาคม ซึ่งจะสอดคล้องกับการนัดแถลงนโยบายของรัฐบาล ช่วงวันที่ 24 ส่วนเรื่องการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายชวน ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวว่า คงต้องใช้ห้องประชุมชั่วคราวที่สำนักงานใหญ่ TOT แจ้งวัฒนะ ซึ่งปกติแล้วเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว ก็จะรอการประชุมไว้ไม่เกิน 15 วัน เพื่อนัดประชุมรัฐสภารับฟังการแถลงนโยบายกรกฎาคมนี้
สนธิรัตน์ถกนโยบาย19พรรค
เวลา 15.00น. ที่อาคารหอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 19พรรคร่วมรัฐบาล ได้ประชุมหารือถึงการจัดทำนโยบายรัฐบาล เพื่อเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน มีผู้ร่วมประชุม อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร.,นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) , นายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพรรค ซึ่งได้รับมอบหมายจากเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาเป็นตัวแทน นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรค ประชาชนปฏิรูป นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ฯลฯ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกพรรคที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ได้ทำงานพิจารณานโยบายของพรรคต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว โดยนโยบายของทุกพรรคนั้น ได้ขึ้นโครงร่างไว้แล้ว และจะพิจารณาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนที่มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ก็จะหาหรือร่วมกันต่อไป โดยจะเร่งรัด เพื่อที่จะสามารถสรุปให้เห็นพ้องต้องกัน ก่อนที่จะนำนโยบายเหล่านี้ เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาว่า จะมีความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างไร เพื่อที่นำไปใช้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาต่อไป ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวก่อนหน้านี้หลังได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมว. พลังงานว่า จากนี้ต้องเตรียมพร้อมในการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ส่วนความพร้อมในการทำงานได้เตรียมนโยบายและบุคลากรที่เป็นทีมงานไว้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี