มท.ยุคขจัดระบบแท่ง! ‘บิ๊กป๊อก-นิพนธ์-ทรงศักดิ์’พบปะนัดแรก ลั่นไม่มีแบ่งฝ่าย– แทรกแซงขรก.ประจำ ย้ำงบฯต้องโปร่งใส หลังแถลงนโยบายชัดใครดูกรมไหน
18 ก.ค.62 เมื่อเวลา10.30น. ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) มีการประชุมหารือข้อราชการสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ร่วมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดีทุกกรมในสังกัด และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในกำกับเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง โดยมีการวีดีโอคอนเฟอเร็นซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้มีการลงนามปฏิบัติราชการของทั้ง 3 รัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ และนำเสนอประวัติ โครงสร้าง หน่วยงาน แผนปฏิบัติราชการ และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยต่อที่ประชุมรับทราบ
โดยพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนและอีก 2 รัฐมนตรีช่วย ถือเป็นส่วนหนึ่งของคระรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะต้องนำนโยบายของรัฐบาลไปปฏิบัติ รวมถึงกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดตามกฎหมาย โดยแนวทางทำงานเราจะหลีกเลี่ยงการทำงานแบบระบบแท่ง หรือแบ่งแยกการทำงาน ซึ่งทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วย มีประสบการณ์ในพื้นที่มาแล้ว และเป็นนักการเมือง ทำให้มีความใกล้ชิดกับประชาชน สำหรับการแบ่งหน่วยงานในสังกัดให้รับผิดชอบนั้น ได้มีการหารือกันคร่าวๆแล้ว แต่เนื่องจากยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงต้องรอให้มีการแถลงนโยบายก่อน จึงจะลงนามในคำสั่งแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนต่อไป
“สิ่งที่เราต้องการคือ เราจะเอานโยบายของพรรค และความต้องการของพื้นที่มาบูรณาการ ไม่มีแบ่งเซกเมนต์ หรือแบ่งกลุ่มแยกกันทำงาน ต้องมาร่วมกัน คุยกัน ไม่แบ่งเป็นแท่ง แม้จะมีการแบ่งหน่วยงานในสังกัดให้ดูแล แต่เราจะมุ่งให้บริหารตามอำนาจหน้าที่เป็นหลัก แต่เชิงความคิดริเริ่ม หรืองานตามวาระ ไม่ว่าจะส่วนกลางหรืองานในพื้นที่ทั้งหมด จะทำร่วมกัน รัฐมนตรีช่วยสามารถเสนอแนะข้ามกรมได้ ผมจะขจัดการทำงานแบบระบบแท่ง แต่ต้องขอความร่วมมือจากข้าราชการการในสังกัดทุกคนต้องร่วมกัน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นองค์กรที่อยู่กับประชาชน มีทุกกลไกตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงหมู่บ้านดังนั้นไม่ใช่แค่นโยบายของกระทรวงมหาดไทย แต่นโยบายของแต่ละกระทรวงเราต้องต้องช่วยอำนวยความสะดวก ในการขับเคลื่อน ประสานงาน และบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดผล ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือทั้งจากท้องที่และท้องถิ่น ส่วนการทำงานของข้าราชการในสังกัด ไม่ต้องกังวล สามารถทำตามบทบาทอำนาจหน้าที่ได้เต็มที่ เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานของข้าราชการประจำ แต่ต้องอยู่ในหลักการบริหารงานที่ดีตามกฎหมาย ยุติธรรม และให้เกิดความเรียบร้อย
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในเรื่องงบประมาณ ที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ รวมถึงพรรคการเมืองต่างๆ พูดถึง สิ่งแรกต้องโปร่งใส งานที่อยู่ในอำนาจหน้าที่สามารรถดำเนินการได้เลยตามกฎหมาย แต่ถ้าต้องใช้ความเห็นชอบของรัฐมนตรี เช่น เรื่องวงเงินงบประมาณ ก็เสนอมาให้พิจารณาได้ ไม่ต้องหนักใจ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประสานมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอลงพื้นที่ดูการบริหารจัดการน้ำ ในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิตติ์ ในวันที่ 19ก.ค.นี้ ขอความร่วมมือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 6 จังหวัด เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามรับทราบสถานการณ์น้ำด้วย
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า เมื่อมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ก็จะนำมาปรับเป็นนโยบายกระทรวง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีกลไกหลายฟันเฟือง การได้รับความร่วมมือเป็นปัจจัยสำคัญในการนำนโยบายไปสู่ความสำเร็จ ตนต้องอาศัยความร่วมมือทุกฟันเฟือง ภายใต้เวลาจำกัดของรัฐบาลไม่เกิน 4 ปี ก็หวังว่าจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันเพื่อช่วยกันทำงาน
ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า จากที่ตนผ่านการเป็นนักการเมืองมา 9 สมัย ทำให้มีความเข้าใจงานของกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน จึงต้องขอความร่วมมือทุกคน ขอให้คิดว่าตนเป็นเพื่อนร่วมงาน อย่าคิดว่าเป็นรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าตน และนายนิพนธ์จะอยู่คนละพรรคการเมืองกัน แต่จะบูรณาการทำงานร่วมกัน ขอให้สบายใจ อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราจะร่วมมือกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี