เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงว่าที่ประชุมร่วมซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และวิปของพรรค ได้พิจารณาเรื่องการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาล ล่าสุดทราบว่ารัฐบาลให้เวลาเพียง 2 วันนั้น ถือว่าให้เวลาน้อยมากเมื่อเทียบกับในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ให้เวลาอภิปรายถึง 3 วัน 3 คืน ขอเรียกร้องว่า การอภิปรายนโยบายรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ และครั้งนี้ประชาชนให้ความสนใจมากกว่าทุกครั้ง ขอให้สนองความต้องการของชาวบ้านอย่างเต็มที่ ไม่ควรที่จะขี้เหนียวเวลา 5 ปีกว่าที่ผ่านมาสังคมไม่ได้ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลและไม่ได้เสนอแนะอะไรเลย ครั้งนี้ชาวบ้านจึงฝากมาเสนอแนะด้วย อีกทั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จำเป็นต้องมีความรอบคอบ จึงจำเป็นต้องมีการท้วงติงและชี้แนะ จึงต้องใช้เวลามากกว่าเดิมอย่างแน่นอน ขอให้รัฐบาลทบทวนว่า เวลา 3 วันนั้นไม่ได้มากไปกว่าเดิม แต่เราขอเพียงแค่เท่าเดิม
“ซึ่งวันนี้พรรคเปิดให้ส.ส.แสดงความจำนงที่จะอภิปรายเป็นวันสุดท้าย โดยขณะนี้มีผู้แสดงความจำนงแล้วเกือบ 50 คน สำหรับเนื้อหาการอภิปรายนั้นจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม มีหัวหน้าชุดและวิทยากรเป็นพี่เลี้ยงในแต่ละชุด อาทิ อดีตผู้บริหารพรรค อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมถึงนักวิชาการทั้งภายในพรรคและนอกพรรค ในวันที่ 19 ก.ค. วิทยากรจะได้พบกับผู้แสดงความจำนงขออภิปราย จากนั้นในวันที่ 22 ก.ค.จะเริ่มติวเข้ม ส่วนเรื่องของเทคนิคและคำพูดต่างๆ จะมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายอดิศร เพียงเกษ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นวิทยากรให้ ยืนยันว่า การอภิปรายนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้จะเกิดประโยชน์กับการทำงานของรัฐบาลเอง แต่ถ้าหากรัฐบาลทำไม่ได้จริงๆ คำตอบสุดท้ายจึงจะเป็นการล้มรัฐบาล”นายสุทิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี