วิษณุเมินฝ่ายค้านแบ่ง 4 กลุ่มลากไส้รมต. ชี้นายกฯเปรยเล่น‘อย่าทิ้งผม’
22 กรกฏาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายกำหนดตัวรัฐมนตรีอยู่ในข่ายต้องถูกอภิปราย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 3 ป. , กลุ่มรัฐมนตรีที่มีคดีค้าง , กลุ่มรัฐมนตรีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ กปปส. หรือการชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และกลุ่มที่ 4 รัฐมนตรีถือครองหุ้นสื่อ จะทำให้รัฐบาลถึงกับสั่นคลอนได้เลยหรือไม่ ว่า ตนยังพูดอะไรไม่ได้ จนกว่าจะถึงวันแถลงนโยบายวันที่ 25-26 ก.ค.
ส่วนการจัดกลุ่มอภิปรายก็ถือเป็นการเตรียมการและเป็นการทำการบ้าน รวมถึงการบริหารเวลาที่มีกว่า 10 ชั่วโมง ให้มีเนื้อหาสาระครบถ้วน จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งไม่ใช่แค่ฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องเตรียมการ เพราะมีเวลาน้อย หากฝ่ายค้านฝากอะไรมาเราก็รับได้อยู่แล้ว และหากเข้าใจผิดรัฐบาลก็ต้องชี้แจง ถ้าถามมาก็ต้องตอบเพียงแค่นั้น ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเตรียมการและบริหารเวลา เช่น หากถามมาร้อยข้อ แต่ไม่มีเวลาตอบทั้งหมดก็ต้องมีการจัดลำดับก่อนหลังว่าใครจะเป็นคนตอบ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกฝ่ายต้องเตรียม รวมถึง สว. อย่างไรก็ตามขณะนี้ไม่มีใครมาปรึกษาตนแต่อย่างใด
นายวิษณุ กล่าวต่อถึงกรณีหากมีการอภิปรายเรื่องคุณสมบัติ 14 รัฐมนตรีว่า ไม่ทราบว่าตัวเลขดังกล่าวมาจากไหนอย่างไร เห็นเพียงในสื่อเท่านั้น
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้มีหลายคนมองว่าเนื้อหาที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปราย เหมือนเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว ทั้งที่ยังไม่ทำงาน นายวิษณุ กล่าวว่า “แต่ละคนก็เป็นสส.มาหลายสมัย เมื่อถึงเวลาท่านจะบลั๊ฟกันเองว่าผมเป็นมาเท่านั้นเท่านี้สมัย ท่านก็ต้องรู้กฎเกณฑ์ กติกาดีกว่าผมซึ่งไม่เคยเป็นกับเขาสักสมัย และดีกว่าอีกหลายคนที่ไม่เคยเป็นหรือเป็น สส.ใหม่ครั้งแรก”
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันก็มีประธานสภาที่มีความรู้ความสามารถที่จะนั่งบัลลังก์และควบคุมการประชุมให้อยู่ในกฎเกณฑ์และร่องรอย แม้กติกาใหม่ยังไม่มี กติกาเก่าก็อนุโลมใช้กันได้ ขณะเดียวกันสถานที่ก็ไม่อำนวยที่จะทำเหมือนสภาจริง เพราะต้องระมัดระวังมากมายหลายอย่าง และมีการถ่ายทอดออกอากาศ ซึ่งหากเข้าข่ายมีความผิดก็จะเป็นความผิดได้
ทั้งนี้การแถลงนโยบายเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะแถลงว่าทำอะไรต่อจากนี้ แล้วสมาชิกสภาก็อภิปรายนโยบายนั้น เพื่อบอกว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ทำได้หรือไม่ได้ ในที่สุดก็จบลงโดยฝากให้รัฐบาลรับไป นายกฯทุกสมัยก็จะขึ้นประโยคสุดท้ายว่า รัฐบาลขอน้อมรับสิ่งที่ให้คำแนะนำ และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือในโอกาสต่อไป ขอบพระคุณและโค้งหนึ่งที ก่อนนั่งลงจบประชุมสภา ไม่มีการลงมติใดๆ ซึ่งเป็นแบบแผนการประชุมทุกยุคสมัย
เมื่อถามว่า การอภิปรายในสภามีเอกสิทธิ์ไม่สามารถฟ้องร้องกันได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ แต่เราเชื่อมั่นในองค์ 4 คือ 1.เกียรติยศศักดิ์ศรีของสมาชิกรัฐสภา 2.เชื่อมั่นในประธานสภาและรองประธานสภา 3.เชื่อมั่นในกฎเกณฑ์กติกา และ4.เชื่อมั่นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การพูดกันเอง 750 คน แต่พูดกับคนทั้งประเทศ ดังนั้นทุกคนก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า “อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว” เป็นการสะท้อนถึงความกังวลของนายกฯ ในการแถลงนโยบายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้สะท้อนอะไร เพราะปิดประชุมกันเรียบร้อย เดินออกกันไปครึ่งหนึ่งแล้ว นายกฯถึงเปรยขึ้นมาเล่นๆ อาจพูดเล่นบ้าง พูดจริงบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ถึงกับเป็นมติครม. ส่วนนายกฯ จะสื่ออะไรตนไม่ทราบและไม่ได้ยินประโยคดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี