เรียกว่าคง “อัดอั้น” มานานสำหรับท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในยุครัฐบาลทหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นทั้งนายกฯ และหัวหน้า คสช. “ถูกฝ่ายต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘ล้มเหลว’ ในด้าน ‘เศรษฐกิจปากท้องของคนระดับฐานราก’ ตลอดมา” ทั้งที่ระดมทั้งกำลังคนทั้งงบประมาณลงไปยังพื้นที่ทุกระดับ 

ล่าสุดในการแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อที่ประชุมร่วมของรัฐสภา 25-26 ก.ค. 2562 ปัญหาเศรษฐกิจของคนระดับฐานรากก็ยังถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงครั้งแล้วครั้งเล่าจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายท่าน จนทำให้เมื่อค่ำวันที่ 26 ก.ค. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ ที่ ณ วันนี้เป็นนายกฯ แบบไม่พ่วงตำแหน่งหัวหน้า คสช. และไม่มีอำนาจพิเศษมาตรา 44 ก็ได้ขอ “ระบายความในใจ” ในเรื่องนี้ในที่ประชุม โดยยอมรับว่าอาจจะพูดเสียงดังไปบ้าง ซึ่ง “แนวหน้าออนไลน์” ก็ขอนำคำพูดของท่านแบบ “คำต่อคำ” มานำเสนอไว้ ณ ที่นี้ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา : เรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลก็ไปพูดทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งเศรษฐกิจมหภาคจุลภาค ยังไงมันก็ต้องเกี่ยวข้องกัน การกระจายรายได้มันต้องมาจากข้างบนบ้าง ข้างล่างบ้าง ห่วงโซ่ข้างล่างบ้าง ถ้าท่านไม่ช่วยผมคิด ไม่ช่วยผมแก้ ไม่ช่วยกันสร้างการรับรู้ ประชาชนไม่ยอมปรับเปลี่ยน มันจะทำได้ไหมครับ ท่านพูดมาทั้งหมดมันก็ทำไม่ได้ ถ้าตราบใดยังสร้างความขัดแย้ง สร้างความไม่เข้าใจอยู่อย่างนี้ ไอ้นี่ไม่ใช่ ไอ้นี่ไม่ดี 

ที่ผ่านมามันดีนักหรือไง เงินทองที่ออกมา วันนี้เงินมันหายไปเท่าไหร่ ท่านรู้ไหมว่าปล่อยปละละเลยกันมาเท่าไหร่ เงินที่เอามาใช้จ่ายในธุรกิจ หรือในการใช้จ่ายของประชาชนที่มีรายได้น้อย รายได้มาจากอะไร ผิดกฎหมายหรือเปล่า ขายของผิดกฎหมายไหม เงินจากตรงโน้นตรงนี้ไหม ปล่อยปละละเลยจนกระทั่งเงินมันใช้กันว่อนไปหมด พอรัฐบาลเข้มงวด เอาล่ะ! กลายเป็นรังแกคน ถ้าอยากจะกลับแบบเดิมก็ไปเลือกตั้งมาใหม่ 

นาปรังไม่ได้ห้าม เขาเพียงแต่เตือนว่าอย่าทำนาปรังในช่วงที่น้ำน้อย ปริมาณน้ำมันมีแค่นี้ แล้วท่านจะบอกว่าผมไปห้าม ผมไปห้ามได้ยังไง คุณห้ามเขาได้ไหม คุณห้ามชาวนาของคุณได้ไหม คุณบอกต้องอย่างนี้ต้องอย่างนั้นแล้วไปบอกให้เขาทำได้ไหม เฮ้ย!..อย่าปลูกเลย ไปปลูกตรงนี้เปลี่ยนตรงนี้ เขาเปลี่ยนไหม เพราะคุณไปสอนเขาแบบนั้น เพราะคุณสอนแบบนี้ไงมันถึงเปลี่ยนอะไรไม่ได้สักอย่าง 

เคยทำนาปรังปีละ 2 ครั้ง วันนี้ทำไปปีละ 3 ครั้ง ข้าวราคาเท่ากันหมดไม่ว่าจะพันธุ์อะไรก็แล้วแต่ ความชื้นเท่าไหร่ก็เท่ากันหมด บิดเบือนกลไกตลาดทั้งหมด ฉะนั้นท่านก็ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าเงินทองมันจะหาไม่ได้ การเก็บภาษีผมก็เห็นว่าดำเนินการได้ ไอ้การจะไปขึ้นภาษีไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็จะไปขึ้น ต้องพร้อมอธิบาย หาเหตุหาผลให้เกิดความสมดุลกัน 

ท่านบอกว่าเอื้อคนรวย ผมไม่ได้แก้ตัวให้คนรวย ผมยกตัวอย่างบริษัทบางบริษัท มีบริษัทลูกไม่กี่บริษัทหรอกครับ แต่เขาทำหลายกิจการที่มันเป็นนวัตกรรม ที่มันมีราคา มีมูลค่า แล้วท่านทำไมไม่สร้างให้ประชาชนตรงนี้เขาเข้มแข็งด้วยตัวเขาเองบ้าง รอแต่รัฐบาลช่วย แนะนำอะไรก็ไปบอกว่าไม่ใช่ มันจะเกิดขึ้นมาได้ไหมครับ ผมพูดนี่เรื่องจริงนะครับ ถ้าผมพูดผิดก็บอกมา ผมเสียงดังอย่างนี้ละ!!!