เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม ที่ผ่านมา นางสาวศุภมาส เสนะเวส อดีตผู้ก่อตั้ง “ขบวนผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง” หรือ WeMove โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นในประเด็นการคุกคามทางเพศ โดยมีเนื้อหาดังนี้ "อยากจะพูดประเด็นนี้ ที่มีการขยายผลกันออกไป จากคำเรียกขานที่นายกรัฐมนตรีใช้สื่อถึง พรรณิการ์ วานิช เมื่อคืนนี้(25 กรกฏาคม)
ในฐานะที่ก็มีส่วนเคลื่อนไหวในประเด็นความเสมอภาคทางเพศมาบ้าง และเคยเป็นคณะทำงานศูนย์ต้านภัยทางเพศในที่ทำงาน ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เมื่อสักสิบปีมาแล้ว
การคุกคามทางเพศ คืออะไร ? #คือการกระทำใดๆที่ผู้หญิงรู้สึกไม่สบายใจ ว่ามีนัยยะไปในทางเพศ แม้จะไม่ถูกเนื้อตัวร่างกาย เช่น
- "เธอนี่เซ็กซี่ขึ้นทุกวัน วันนี้ไปกินข้าวกับหัวหน้าหน่อย "
- "ใส่ชุดนี้แล้ว อยากนอนกอดสักคืน"
-จับแก้ม ,จับมือ
-ตีก้น
-ใช้สายตาแทะโลม
-มองแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก
แต่มิได้หมายความว่าผู้ชายกับผู้หญิงจะพูดจาชื่นชม ทักทาย หยอกเย้ากันมิได้ หรือขนาดเดินสวนกันต้องกลั้นหายใจ เก็บสายตา เป็นต้นว่า หากเพื่อนชายในที่ทำงาน ทักว่า
-"เออ ตัดผมทรงนี้แล้วสวยขึ้นนะ"
- ใส่ชุดนี้แล้วสวยนะ
-(แต่งหน้าแต่งตาเตรียมไปงานตอนเย็นแล้วเพื่อนทัก )วันนี้สวยเป็นพิเศษนะครับ ซึ่งอาจจะปราศจากนัยยะใดๆ นอกจากการปฏิสันถาร ทักทายด้วยไมตรีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ต้องเอา #ความรู้สึกของผู้หญิงเป็นตัววัดว่า รู้สึกไม่สบายใจในทำนองถูกคุกคามหรือไม่
ความสัมพันธ์ระหว่างหญิง-ชาย แม้การถูกเนื้อต้องตัวกัน อาจไม่ได้มีนัยยะทางเพศเสมอไป อย่างในภาพประกอบนี้ พ่อหนุ่มนั้น เป็นโชเฟอร์อายุอ่อนกว่าดิฉันสักสามสิบปี สุภาพ น่ารัก ท่าที่โพสต์นี้ไอเดียมาจากไกด์สาวกับพี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เราเลยลองโพสต์บ้างขำ ๆ สนุกสนานกันไป ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีใครอึดอัดใจ เหมือนลูกเหมือนหลานมากกว่า ในประเด็นเมื่อคืนนี้
ย้อนกลับไปในช่วงเปิดสภาแรก ๆ ดิฉันเองเคยโพสต์บทความในเฟซบุค ชื่อมีผู้หญิงยืนขึ้น โดยดาลใจ จาก บทกวีของพนม นันทพฤกษ์เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ว่า ผู้หญิง ควรได้รับความยอมรับนับถือในสภาฯ และในการทำงาน เสมอเหมือนกับผู้ชาย พิจารณาจากเนื้อหาสาระและความสามารถเป็นหลัก ควรมีโอกาสเท่า ๆ กัน
ในโลกแห่งการทำงานใด ๆ หญิงชายล้วนมีมิติความสามารถและมุมมอง ตลอดจนประสบการณ์จำเพาะของแต่ละเพศ ที่ควรนำมาหลอมรวมกัน เป็นดุลยภาพที่จะสร้างให้ผลงานออกมาเป็นประโยชน์แท้จริง
ควรได้รับโอกาสและการยอมรับในฐานะมนุษย์เท่า ๆ กัน
(โดยยกเว้น ทางกายภาพบางเรื่อง เช่น ย้ายของจัดห้องทำงาน คนงานผู้หญิงอาจมีแรงยกของน้อยกว่าผู้ชาย ก็แบ่งงานมาปัดกวาด เช็ดถู เป็นหลัก ดังนี้เป็นต้น)
ดังนั้น ในสภาผู้แทนราษฎร ในรัฐสภา ในองค์กรระดับสูง ควรก้าวข้ามมิติในเรื่องเพศกำเนิด เพศสภาพ แต่มองว่าทุกคนคือสมาชิกผู้ทรงเกียรติที่เข้ามาทำหน้่าที่เป็นตัวแทนประชาชนเหมือน ๆ กัน คำนึงถึงการทำบทบาทหน้าที่ว่าดีหรือไม่ดี มีคุณภาพเพียงใด เป็นสำคัญ
ทุก ๆ คน จึงควรระมัดระวังการแสดงออกต่อบุคคลอื่นในนัยยะเกี่ยวกับเพศสภาพ เพศกำเนิด และควรใช้ถ้อยคำที่เป็นทางการ เป็นการเป็นงานต่อกัน
การใช้สรรพนามสื่อว่า "คุณคนสวย" ของนายกรัฐมนตรีเมื่อคืน จึงเป็น #การใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เป็นการหยอกเย้า จะโดยอารมณ์ขัน หรือนึกคำไม่ออก หรือเอ็นดูแบบผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก อะไรก็แล้วแต่ ซึ่ง #ไม่สมควร และนายกฯก็ได้ยอมรับและกล่าวขอโทษไปแล้ว
#เรื่องจึงควรจบในสภา
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ชมอยู่ในขณะนั้น คิดว่านายกรัฐมนตรีมิได้มีเจตนาสื่อนัยยะทางเพศ แต่ประการใด เป็นเพียงการไม่ระวังคำพูดแบบที่อาจชอบใช้กับกองทัพสื่อหรือคนแวดล้อมมาเสมอ ๆ ซึ่ง #ควรปรับปรุง #เป็นอุทาหรณ์ที่ต่อไปจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
สำหรับผู้ที่เคลื่อนไหวในประเด็น Gender ดิฉันว่า เอาพอดีๆ อย่า Over re-act /อย่ามีอคติเกิน สิ่งที่พึงทำ คือ Educate สังคมให้เข้าใจร่วมกัน ถึงคุณค่า และความเสมอภาคของทุกๆเพศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี