‘หมอเลี๊ยบ’เล่าเรื่องพบ‘อนุทิน’ เปิดเหตุผลไม่รับตำแหน่ง เมินหวนคืนการเมือง
7 สิงหาคม 2562 นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เขียนบทความ “30 บาทรักษาทุกโรค" ควรก้าวต่อไปอย่างไร (ตอนที่ 1)” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เล่าถึงข่าวก่อนหน้านี้ที่มีภาพตนไปหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่านายอนุทินค่อนข้างให้ความสนใจกับประเด็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง 30 บาท แต่ยืนยันว่าตนจะไม่รับตำแหน่งในคณะกรรมการใดๆ ที่ได้รับค่าใช้จ่าย ดังนี้
“ทำไมผมจึงไปนำเสนอข้อมูลเรื่อง ‘30 บาท’ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข..ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ข่าวคราวเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นข่าวที่มี ‘อารมณ์ข่าว’ แตกต่างไปจากหลายครั้งที่ผ่านมา 4-5 ปีก่อนหน้านี้ เราได้รับฟังแต่ปัญหาของนโยบาย 30 บาท ในเรื่องงบประมาณไม่พอบ้าง ต้องให้มีการร่วมจ่ายเมื่อเจ็บป่วยบ้าง (ซึ่งไม่มีการลงรายละเอียดว่า จะให้ร่วมจ่ายอย่างไร เท่าไร) ผู้ป่วยมารักษาพยาบาลจนแออัดทั้งตึกผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในบ้าง ความขัดแย้งระหว่างแพทย์ พยาบาลกับผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินบ้าง”
“สารพัดปัญหาเหล่านั้น ทำให้เกิดการโยนหินถามทางว่า ควรยกเลิกระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ใช้อยู่หรือไม่ แต่คนที่โยนหินก็กล้าๆกลัวๆ สองจิตสองใจ ไม่มั่นใจว่าควรทำอย่างไรต่อไป ผมรับฟัง ‘ข่าวร้าย’ ด้วยความรู้สึกหดหู่และหงุดหงิด แต่ก็บอกกับตนเองว่า ‘ปล่อยวางเถอะ’ เราได้ทำสิ่งที่เราควรทำแล้ว เดี๋ยวนี้และต่อจากนี้ ปล่อยให้เป็นบทบาทหน้าที่ของผู้รับผิดชอบ ให้เขาทำต่อไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนเถิด ใครทำอะไรก็ย่อมได้รับผลของการกระทำนั้น”
“หลังพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเดือนตุลาคม 2545 ผมไม่ได้กลับไปที่กระทรวงสาธารณสุขอีกเลย ส่วนที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผมมีโอกาสไปร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2 ครั้งในช่วงเวลา 16 ปี ผมติดตามและเอาใจช่วยการพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งเริ่มต้นอย่างมีชีวิตชีวาในยุคของนายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ต่อเนื่องมาถึงยุคของนายแพทย์วินัย สวัสดิวร แต่ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับปัญหาที่เริ่มผุดโผล่ขึ้นมาในช่วงหลัง ซึ่งบั่นทอนความเข้มแข็งของระบบ”
“สื่อมวลชนหลายแขนงทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ มาขอความเห็นผมเมื่อใด ผมก็แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยและระมัดระวัง ไม่ข้ามเส้น ไม่ทำให้ใครคาดการณ์ไปได้ว่า ผมจะหวนกลับมาผลักดัน 30 บาทอีกครั้ง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบางท่านเอ่ยปากเมื่อมีโอกาสพบกันว่า อยากให้ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผมรับปากด้วยความยินดี แต่เมื่อท่านไม่นัดหมาย ผมก็ไม่ขวนขวายขอเข้าพบแต่อย่างใด”
“วันนี้ ผมเป็นประชาชนที่อยู่ในวรรณะ ‘จัณฑาลทางการเมือง’ มีเพียงสิทธิในการไปลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆ ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต แต่ผมก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ แต่กลับสบายใจที่ไม่ต้องหาเหตุผลมาตอบมิตรสหายที่แวะเวียนมาสม่ำเสมอเพื่อชักชวนเข้าสู่การเมืองอีกครั้ง”
“ผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ผมไปโหวตไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ผมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ผมสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมืองกันให้มากๆ ผมไปลงคะแนนในวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ด้วยการเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ตามแนวทาง ‘เลือกอย่างมียุทธศาสตร์’ และผมไม่เห็นด้วยการสืบทอดอำนาจ”
“แต่ผมก็ไม่ยอมเห็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าพังทลายลงต่อหน้าต่อตา โดยนิ่งดูดาย ไม่ทำอะไร ดังนั้นเมื่อทีมงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ติดต่อมาว่า รัฐมนตรีอยากแลกเปลี่ยนความคิดเรื่อง 30 บาท ผมจึงตอบรับ (แต่ก็แอบคิดไม่ได้ว่า คงไม่ตั้งใจนัดหมายจริงจังเหมือนรัฐมนตรีท่านก่อนๆนั่นแหละ)”
“ในวันแรกที่พบกัน ผมเล่าความคิดเห็นของผมอย่างคร่าวๆ คุณอนุทินตั้งใจฟังและจดประเด็นสำคัญๆ ในสมุดบันทึกไปด้วย ผมเอ่ยปากชัดเจนในวันนั้นว่า ผมพร้อมให้ความเห็นทั้งในที่ประชุมย่อย ที่ประชุมใหญ่ และในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผมพูดกี่ครั้งก็จะพูดเหมือนเดิม เพราะหลักการที่ถูกต้องของระบบ 30 บาทไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่เงื่อนไขสำคัญที่ผมแจ้งคุณอนุทินไปคือ ‘ผมไม่ใช่ทีมงานของท่าน’ ผมไม่รับตำแหน่งใดๆ ไม่รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการหรือคณะทำงานใดๆ ไม่รับเบี้ยประชุม ไม่รับค่าเดินทางหรือค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น”
“ผมมาในฐานะประชาชนชื่อ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่อยากเห็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พัฒนาไปอย่างยั่งยืน เป็นกำแพงพิงหลังให้ผู้ทนทุกข์ ไม่มีใครต้องล้มละลายจากการเจ็บป่วย และเป็นแบบอย่างที่งดงามให้กับองค์การอนามัยโลกและนานาประเทศ หลังจากนั้น ทีมงานรัฐมนตรีติดต่อประสานงานกับผมอีกหลายครั้ง จนผมรู้สึกได้ว่า ‘คราวนี้ รัฐมนตรีฯท่าจะเอาจริงแฮะ’ และนำไปสู่การนัดหมายครั้งที่ 2 เพื่อให้ผมร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ”
“วันที่ 2 สิงหาคม 2562 ผมจึงขับรถเข้าไปในกระทรวงสาธารณสุข ด้วยความตื่นเต้น เพราะเป็นการเข้าไปในกระทรวงสาธารณสุขครั้งแรกในรอบ 16 ปี”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี