9พรรคเล็กเหนียวแน่น
หนุน‘บิ๊กตู่’
อยู่ยาวบริหารต่ออีก4ปี
รบ.เตรียมเก้าอี้ตอบแทน
ชง‘ครม.’เคาะสัปดาห์หน้า
‘มงคลกิตติ์’แถลงถอนตัว
เป็นฝ่ายค้านอิสระเพื่อปชช.
“บิ๊กตู่”ไม่ตอบปมถวายสัตย์อีกแล้ว เชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาลแน่น รับปากนำพาประเทศผ่านช่วงยากลำบากให้ได้ วอนอย่าสนคนเลื่อยขา “มงคลกิตติ์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศถอนตัวพ้นรัฐบาล อ้าง 4 เหตุผล ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระเพื่อปชช. ขณะที่ 9 พรรคเล็กผนึกแน่น แถลงจุดยืนสวนขอสนับสนุนรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป “หมอระวี” เชื่อแก้วแตก ใช้กาวตราช้างติดหนึบ อยู่ยาว4ปี‘ธรรมนัส’ร่วมปิดจ็อบ เตรียมเคาะเก้าอี้ที่เหลือ ย้ำเคารพการตัดสินใจ’พี่เต้’ ด้านฝ่ายค้านบี้นายกฯแจงปมถวายสัตย์ฯก่อนยื่นอภิปรายโดยไม่มีการลงมติ
เมื่อวันที่ 13สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ซึ่งก่อนการประชุม นายกฯได้ตอบคำถามเพียงสั้นๆถึงกระแสข่าวนัดรับประทานอาหารกับ 10 พรรคเล็กร่วมรัฐบาล ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่า”ยังไม่มี”เมื่อถามว่าจะต้องคุยกับ10 พรรคเล็กหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า”เขามีคนคุยอยู่แล้วมั้ง”ก่อนนายกฯเดินเข้าประชุมระหว่างนั้นมีฝนโปรยลงมานายกฯหันมากล่าวกับสื่อมวลชนว่า“ฝนตกแล้วเดี๋ยวไม่สบาย ใครจะเลื่อย ก็ปล่อยเขาไปเหอะ”
บิ๊กตู่ไม่ตอบอีกแล้วปมถวายสัตย์
เวลา 12.30น.พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลังเป็นประธานการประชุม ครม.ถึงกรณีระบุว่า จะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณ จะใช้วิธีการใดในการแก้ไขปัญหา โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า”เรื่องการถวายสัตย์ ผมไม่ตอบเรื่องนี้อีกแล้ว” ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยืนยันว่าไม่ได้มีการนัดทานข้าวเพื่อหารือกับพรรคเล็ก ตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
เชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาลแน่นปึ้ก
เมื่อถามว่าประเมินความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไรกรณีฝ่ายรัฐบาลแพ้มติโหวตในสภา ร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ามีความเชื่อมั่นจากการทำงานร่วมกับรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งบรรยากาศทุกอย่างเป็นไปอย่างดีด้วยมิตรไมตรี และความเข้าใจซึ่งกันและกันในการทำงาน หากมีอะไร ครม.ก็มาถามตนว่าเรื่องใดทำได้และไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง ได้อธิบายถึงขั้นตอนการปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมารวมทั้งมีกฎหมายหลายตัวทุกคนก็ต้องระมัดระวังอยู่แล้ว ส่วนเรื่องในสภาก็เป็นเรื่องของในสภา ซึ่งตนเคยบอกไปแล้วว่า เรื่องใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน ควรร่วมมือกันให้ได้
“หากมุ่งกัน แต่เสียงข้างมากเสียงข้างน้อย ล้มกันไปมา ประเทศชาติก็เดินหน้าไม่ได้ สุดแล้วแต่ท่าน ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล ก็จำเป็นแต่ประชาชนจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจึงต้องขอร้องบรรดาส.ส.ต่างๆให้เห็นแก่ประเทศชาติไปด้วยกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนของการไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“โนคอมเมนท์”
ลั่นรัฐบาลนี้จะทำงานอย่างเต็มที่
นายกฯ ยังกล่าวอีกว่าอยากให้คนไทยสนใจในเรื่องที่เป็นสาระสำคัญให้มากขึ้นอีก โดยเฉพาะเรื่องรอบตัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นซึ่งต้องยอมรับบ้างว่าสถานการณ์วันนี้บางคนอาจจะต้องลำบากบ้าง จะต้องพิจารณาดูถึงการปรับตัว โดยวันนี้ก็ได้สั่งในที่ประชุม ครม.ว่าทำอย่างไรจะสามารถตอบสนองคนทุกกลุ่มได้ ถ้าใช้หลักการเดียวกันแล้ว ทำทั้งหมด ก็จะไม่ตรงกับความต้องการของคนทุกกลุ่ม
“ผมยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงนี้ไปให้ได้ ด้วยการทำงานร่วมกันของรัฐบาล ครม. รัฐมนตรีทุกคน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ชี้ แก้รธน.ทั้งฉบับยังไม่ถึงเวลา
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านรณรงค์ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)ว่าต้องดูขั้นตอนวิธีการทางกฎหมาย ซึ่งยังไม่ถึงเวลานั้น ก็ปรึกษากันอยู่ว่าจะทำตรงไหน กรอบไหนบ้าง อะไรก็ไปว่ากันมา แนวทางแก้ปัญหาตนไม่ตอบ
‘บิ๊กป๊อก’ไม่ขัดบางพรรคชิ่งหนี
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี 9 พรรคเล็กร่วมรัฐบาลจะแถลงจุดยืนทางการเมืองว่าตนก็ติดตามสถานการณ์ ทราบมาว่าส่วนใหญ่ ยังยืนยันว่าจะร่วมงานร่วมกันอยู่ แต่มีบางส่วนหากท่านมีการตัดสินใจอย่างไรก็ต้องเคารพการตัดสินใจ เมื่อถามว่าจะกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ก็ต้องอยู่กันได้ ไม่เช่นนั้นประเทศชาติก็จะยิ่งระส่ำระส่ายไปอีก ต้องทำงานร่วมกันได้ เพื่อประเทศชาติ เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงพรรคเล็กหรือไม่ เพราะมีการกลับไปกลับมา พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่าไม่ ตนยืนยันว่า ทุกคนมีสิทธิของตัวเอง เราต้องเคารพความคิดเห็น ท่านก็คงจะคิดได้ว่าจะต้องทำอย่างไร และเป็นสิทธิของท่านที่จะทำ
‘สมศักดิ์’ไร้ปัญหาไม่มีมงคลกิตติ์
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่าตนเองประสานจะให้ตำแหน่งกับพรรคประชาภิวัฒน์ว่าไม่ได้เป็นผู้ประสานงานกับพรรคเล็ก แต่เข้าไปรับทราบในบางครั้งและช่วยประสานให้อยู่ในทิศทางที่ได้ปรึกษาหารือกัน พร้อมไม่ได้เป็นผู้ประสานโดยตรง ถึงแม้ว่านายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์จะได้เคยพูดคุยกับตนบ้าง แต่ในเรื่องการเมืองเรื่องตำแหน่งต่างๆ
เมื่อถามว่าถ้าไม่มีพรรคไทยศรีวิไลย์หรือนายมงคลกิตติ์ จะกระทบการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ หัวเราะและกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา”
ธรรมนัสเผยนายกฯให้คุย9พรรค
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศแยกตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า ปัญหาพรรคเล็กทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้มอบหมาย ให้ตนเป็นผู้พูดคุยแล้ว และพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีการนัดกินข้าวกับพรรคเล็ก เพื่อพูดคุยกันอย่างที่มีกระแสข่าว ส่วนพรรคเล็ก มีทั้งหมด 13พรรค โดย 3 พรรค ได้แก่ พรรคประชาชนปฏิรูป พรรครักษ์ฝืนป่าประเทศไทย และพรรคพลังท้องถิ่นไท ไม่มีปัญหาอะไร
ชี้9พรรคยังปึ๊ก-แต่เคารพพี่เต้
“ยืนยันว่าทั้ง9พรรคนั้นยังอยู่กับรัฐบาล ขณะที่อีก 1พรรคคือพรรคไทยศรีวิไลย์ ของนายมงคลกิตติ์ ที่อาสาไปเป็นนักรบนั้น คิดว่า ถ้าจะถอยอย่าง ไม่มีเชิง คงเป็นไปไม่ได้ แต่เราให้ความเคารพการตัดสินใจ เขายืนยัน จะอยู่กับพี่น้องประชาชน ไม่ได้ออกไปเพื่อค้านทั้งหมดขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีเสียงปริ่มน้ำ ไม่ได้มี250เสียงแต่มีมากกว่านั้น เชื่อว่าในอนาคต จะไม่มีการตีรวนอีก จะพูดคุยกันตลอด”ร.อ.ธรรมนัส ย้ำ
เสนอตั้ง’บิ๊กป้อม’ปธ.ยุทธศาตร์
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าในเวลา15.00น.จะมีประชุมกรรมการบริหารพรรค พปชร.จะเสนอให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค เพื่อเป็นแกนหลักในการให้คำปรึกษาของหัวหน้าและเลขาธิการพรรครวมถึงทุกคนในพรรค ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคได้เพราะเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้คาดว่า พล.อ.ประวิตร จะหาโอกาสเดินทางเข้าร่วมประชุมพรรค พลังประชารัฐ ส่วนหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ยังเป็นคนเดิม ขณะที่ กรรมการบริหารพรรค จะมีการเพิ่มรองหัวหน้าพรรค ที่เป็นประธานยุทธศาสตร์ภาค เข้ามา ยืนยันเวลานี้พรรคพลังประชารัฐเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี แม้จะมีความเห็นต่างกันบ้าง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ตัดสินใจในการเข้าร่วมกับพรรค
มงคลกิตติ์แถลงถอนตัวจากรบ.
ช่วงเช้า ที่โรงแรมเซ็นทารา ถนนแจ้งวัฒนะ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมแถลงข่าวการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลและประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระอย่างเป็นทางการว่าพรรคได้ประชุมและมีมติเป็นเอกฉันท์ขอเปลี่ยนสถานะจากพรรคร่วมรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านอิสระยืนข้างประชาชนโดยไม่ได้เข้าร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งแนวนโยบายของพรรค อะไรที่รัฐบาลทำถูกต้อง ก็จะสนับสนุน สิ่งใดไม่ถูกต้องก็จะคัดค้าน การทำงานของพรรค จะเป็นเอกเทศ ในสภาผู้แทนราษฎร จะไม่ได้ มีแค่รัฐบาลและฝ่ายค้านแต่จะมีฝ่ายค้านอิสระอีก 1 คน พร้อมชี้แจงเหตุผลว่า รับไม่ได้ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐผิดสัญญา 2ครั้ง ไม่ให้ตำแหน่งผู้ช่วย รมต.กำกับคลัง
แจง4เหตุจุดยืนเป็นฝ่ายค้านอิสระ
นายมงคลกิตติ์ ได้แถลงจุดยืนทางการเมืองของพรรคไทยศรีวิไลย์ในการประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ ให้เหตุผล 4 ข้อคือ“1.ผมและผู้บริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองฝ่ายบริหารใดๆ นอกจาก ตำแหน่งผู้แทนราษฎร ที่ประชาชนมอบคะแนนให้ 2.จะใช้สถานะผู้แทนราษฎร รับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ 77จังหวัด นำเข้าสู้สภาฯเพื่อไขปัญหาต่อไป 3.ผมยังเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังสามารถบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ต้องแก้ไขสิ่งที่ผิด ให้ถูกต้อง ถึงจะบริหารประเทศต่อไปได้ 4.ผมยืนยันจะทำหน้าที่เป็น สส.ฝ่ายค้านอิสระ ยืนข้างประชาชน อย่างเต็มความสามารถและสร้างสรรค์ เรื่องที่ถูกต้องสนับสนุน เรื่องที่ไม่ถูกต้องทักท้วง เสนอแนะแนวทางแก้ไข”
ยืนยันมีสัมพันธ์ที่ดีกับ9พรรค
ทั้งนี้ เขาก็ยังยืนยันอีกว่ากับ9พรรคเล็กยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเวลาทำงานในสภาก็ยังนั่งทำงานในที่เดียวกัน และยังรักพี่ๆ ทุกคนโดยเฉพาะพี่พิเชษฐ์(สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย)ที่ผ่านมายอมรับว่าพรรคพลังประชารัฐพยายามส่งแกนนำมาประสานปรับความเข้าใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ฝ่ายบริหาร
เตือนรัฐบาลระวังเสียงปริ่มน้ำ
ส่วนการออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไรนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า รัฐบาลมี 254 เสียง เมื่อต้องมีการโหวต จะตัดเสียงประธานสภาและของตนออกไป จะเหลือ252และในอนาคตอาจมีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีทุจริตสนามฟุตซอล 3 คน ฝ่ายรัฐบาล ก็จะเหลือ 246 ขณะที่ฝ่ายค้านมี 246 เสียง หยุดปฏิบัติหน้าที่ 1คน เหลือ 245ก็ยังถือว่ารัฐบาลสามารถทำงานได้ แต่เสียงจะปริ่มน้ำ หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคล เสียงของรัฐบาลก็จะเหลือ 248เพราะรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจะไม่สามารถโหวตให้ตนเองได้ ถ้ารัฐบาลทำถูกต้อง ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลและไม่แน่ว่าในอนาคตอาจมี ส.ส.ถูกชี้มูลเพิ่ม เพราะกรณีฟุตซอล ยังมีอีกหลายจังหวัด ยังไม่นับรวมคดีทุจริตจำนำข้าวที่ยังเหลืออีกกว่าร้อยสำนวน ซึ่งถ้าป.ป.ช.ไม่เร่งดำเนินการ ก็จะถูกฟ้องฐานประวิงเวลา
9พรรคเล็กลั่นหนุนรัฐบาลต่อไป
เวลา14.50น.ที่พรรคประชานิยม กลุ่ม 9 พรรคเล็ก นำโดยนายสัมพันธ์ เลิศนุวัตร หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย น.พ.ระวี มาดฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ห้วหน้าพรรคประชาธรรมไทย พร้อมหัวหน้าพรรคอื่นอีก 6 คน โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีมาหารือครั้งนี้ ได้ร่วมแถลงข่าวจุดยืนกลุ่ม9พรรคเล็กต่อการร่วมรัฐบาล หลังการประกาศถอนตัวของนายมงคลกิติต์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ
โดยนายสัมพันธ์ระบุว่าที่ผ่านมากลุ่มพรรคเล็ก ได้ประสานงานผ่าน ร.อ. ธรรมนัส มาด้วยดีโดยตลอด แต่ที่มีกระแสข่าวออกไปเป็นเพราะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน นิดหน่อย ขอเรียนว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองมานาน ทุกคนอยากมีหน้าที่ในการทำงาน แต่ไม่ได้ต้องการตำแหน่ง ที่ผ่านมา เราได้ส่งประวัติหัวหน้าพรรคไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชนา นายกรัฐมนตรี ผ่าน ร.อ.ธรรมนัส มาโดยตลอด ซึ่งเราก็ไม่มีปัญหาอะไร หากไม่มีตำแหน่งว่าง
“แม้ตอนนี้จะเหลือ9พรรคครึ่งเพราะยังคงมีการประสานงานกับนายมงคลกิตติ์อยู่ แต่ก็ยังยืนยันว่าเรายังสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิมและสนับสนุนตลอดไป”นายสัมพันธ์ กล่าวย้ำ
เชื่อกาวตราช้างติดหนึบอยู่ยาว4ปี
ด้านน.พ.ระวี กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเคยชี้แจงไปแล้วร.อ.ธรรมนัสก็เคยพูดว่า แม้แก้วร้าวก็สามารถหลอมใหม่ได้ หรือแก้วแตกก็สามารถติดกาวตราช้างได้ ให้อยู่ถึง 4 ปีได้ แม้ตอนนี้เราจะมาแถลง 9พรรคโดยที่นายมงคงกิตติ์ อาจจะเลือกไปแถลงในแนวทางที่แตกต่างแต่มิตรภาพในสภาของเรายังคงอยู่ เรายังเป็นพี่เป็นน้องและมิตรสหายกัน ส่วนของการนัดรับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่15ส.ค.นี้นั้น ได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะเราแก้ปัญหาจบแล้ว ส่วนเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี แม้กลุ่มพรรคเล็กเราจะต่อรองจริงๆเราก็ต่อรองได้ แต่เพื่อบ้านเมือง เราก็ทำให้เห็นมาแล้วว่าเราสามารถก้าวข้ามได้
‘พิเชษฐ’ยืนกรานชัดหนุน’บิ๊กตู่’
ด้านนายพิเชษฐ ชี้แจงว่า การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ที่ทั้ง5พรรคเคลื่อนไหว เป็นเพียงการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลเพื่อขอความชัดเจนและคำตอบแก่ผู้สนับสนุนแต่ละพรรค ซึ่งคำตอบที่ออกมา ก็เป็นสัญญาณที่ดี อย่างตำแหน่งที่ขอก็คือประธานผู้แทนหอการค้า แต่เป็นไม่ได้เนื่องจากเงื่อนไขว่าหากจะไปดำรงตำแหน่ง ก็ต้องลาออกจากส.ส.ซึ่งตนคงลาออกไม่ได้ เนื่องจากในพรรคก็ยังมีปัญหาเรื่องการประสานงานกับรัฐบาล ตนก็ไม่ได้ผิดหวัง วันนี้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว เมื่อไม่สามารถดำรงแหน่งทางการเมืองได้จะส่งตัวแทนไป และขอยืนยันว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้
ตั้งเก้าอี้ขรก.การเมืองอังคารหน้า
ด้านร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า สิ่งที่ยืนมาตลอดคือทั้ง9พรรคที่มาร่วมแถลงวันนี้ยังเหนียวแน่นและสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ในเรื่องตำแหน่งทางการเมืองนั้น ทั้ง10พรรคได้เสนอคุณสมบัติแต่ละท่านไปแล้วซึ่งส.ส.ทั้ง10ท่าน ก็ตั้งใจจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมือง แต่เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนว่า ส.ส.ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้จึงส่งตัวแทนเข้ามา คาดว่ารายชื่อจะนำเข้าครม.ในวันอังคารที่ 20ส.ค.และเรื่องนี้ไม่ใช่การต่อรองทางการเมืองแต่อย่างใด
“สิ่งที่ผมแถลงไปในเรื่องของน้องเต้นั้นก็ต้องปล่อยให้น้องไปทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพราะวันนี้ปัญหาบ้านเมือง และปัญหาพี่น้องในระดับรากหญ้า เป็นปัญหาใหญ่ เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ขอสรุปว่าทั้ง 9 พรรคยังยืนยันเหมือนเดิม คือ จะร่วมพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกันกับรัฐบาล” ร.อ.ธรรมนัส ย้ำ
ย้ำเคารพการตัดสินใจมงคลกิตติ์
ร.อ.ธรรมนัส ยังยอมรับว่าเราได้คุยกับน้องมงคลกิตติ์ มาโดยตลอดและให้ความเคารพในการตัดสินใจเพราะเป็นส.ส.ที่มีอุดมการณ์ของตัวเอง หากเราติดตามการทำงานของเขา จะเห็นว่าเจ้าตัวลงพื้นที่ทุกจังหวัด ในเรื่องถวายสัตย์ฯเป็นกลไกที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ เราไม่สามารถพูดถึงประเด็นนี้ได้
เมื่อถามว่านายกฯฝากอะไรมาถึงกรณีนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าขอร้องว่าหลังจากวันนี้เราอย่ามาคุยกันเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลแต่ขอให้คุยกันเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนดีกว่า ส่วนตำแหน่งต่างๆนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่พรรคประชานิยมได้แกะป้ายของพรรคไทยศรีวิไลย์ที่ติดอยู่ด้านหลังเวทีการแถลงข่าวออก เหลือเพียงสัญลักษณ์ 9 พรรคเท่านั้น
วิปรบ.คุมเข้มพรรคร่วมก่อนโหวต
บ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรีพรรคประชาธิปัตย์โฆษกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)แถลงผลประชุมวิปรัฐบาลกรณีที่ฝ่ายค้านหยิบยกผลการลงมติ204 ต่อ205ร่างข้อบังคับการประชุมส.ส.ข้อ9เป็นชัยชนะต่อรัฐบาลว่าถือเป็นบทเรียนซึ่งได้สะท้อนปัญหาให้มีปรับปรุงแนวทางการทำงานวิปรัฐบาลครั้งต่อไปว่าวิปรัฐบาลจะต้องลงรายละเอียดกฎหมาย แต่ละข้อก่อนเข้าประชุมสภาและต่อไปนี้ก็ให้ส.ส.รัฐบาลทำตามมติวิปรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ วิปรัฐบาล กล่าวว่ามั่นใจว่าในการประชุมสภาฯวาระกฎหมายหรือญัตติที่สำคัญ จะไม่เกิดเหตุการณ์แพ้โหวตเหมือนที่ผ่านมา เพราะหากแพ้เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ โดยวิธีการ คือจะมีการประชุมวิปรัฐบาล ทุกวันจันทร์ เวลา 14.00 น. โดยจะย้ายไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.นี้ เพื่อให้รัฐมนตรีรับทราบความเห็น และชี้แจงรายละเอียดที่สำคัญ ขณะที่ วิปรัฐบาลที่มี ส.ส.ของแต่ละพรรค จะร่วมพิจารณาด้วยเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในรายละเอียดของรางกฎหมาย รวมถึงเพื่อให้การลงมติไม่เกิดความสับสน
ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือบทเรียนที่วิปรัฐบาลต้องนำเป็นบทเรียนไปพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาและทำให้การประชุมต่อไปมีเอกภาพ ส่วนกรณีของ ส.ส.พรรคเล็ก จำนวน 10 พรรคการเมืองนั้น เบื้องต้นอาจมีปัญหาเฉพาะนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศิวิไลย์ เพียงคนเดียว
ฝ่ายค้านบี้แจงปมถวายสัตย์ก่อน
เวลา 14.20น.ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า มติที่ประชุมวิปเห็นควรยื่นกระทู้สดโดยเรื่องแรกนายปิยะบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ จะสอบถามความคืบหน้า การถวายสัตย์ไม่สมบูรณ์ 2.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย จะสอบถามการติดตามผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในกทม.ที่วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลเท่าที่ควร ส่วนวาระอื่นๆเป็นเรื่องของการรับทราบรายงานของศาลรัฐธรรมนูญที่สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง
นายสุทินกล่าอีกว่าส่วนการเข้าชื่อเพื่อขอเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 จากการหารือวิปฝ่ายค้าน 7พรรค เห็นสอดคล้องกับคณะกรรมยุทธศาสตร์เพื่อไทยแต่ทางฝ่ายค้านจะขอประเมินสถานการณ์วันที่ 14 ส.ค.ก่อนว่านายกฯจะมาตอบ สิ่งที่ฝ่ายค้าน จะถามไปหรือไม่ ค่อยมาประเมินกัน เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องถวายสัตย์ แต่ยังมีกรณี นายกฯไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหลายข้อ เหตุที่ฝ่ายค้าน ต้องรีบทำสัปดาห์นี้ เพราะอยากเคลียร์สถานภาพรัฐบาลก่อนที่ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จะเข้าสู่วาระการพิจารณา
ดักคอ’ชวน’อย่าตุกติกไม่บรรจุวาระ
เมื่อถามว่าเป็นห่วงการทำงานของประธานสภาฯหรือไม่ เพราะระยะหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงาน นายสุทินกล่าวว่า ก็ห่วงการทำงานของนายชวน เพราะหลังๆมีหลายกรณีที่ประธานสภาฯ อาจจะไม่แม่นข้อบังคับ หรืออายุมาก หลงลืมไป ก็ไม่ทราบ อาจทำให้การวางน้ำหนักสองฝ่ายมีปัญหา ดังนั้นการจะบรรจุญัตตินี้หรือไม่ ทำให้เราต้องคิดหนักกว่าเดิม แต่เมื่อสมาชิกลงชื่อตามรัฐธรรมนูญบัญญัติ คงไม่มีเหตุที่ประธานสภาฯจะทำเป็นอย่างอื่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี