‘เต้น’ประกาศสู้คดีที่เหลือต่อ ลั่นชัยชนะทางการเมืองของ นปช.ยังมาไม่ถึง
15 สิงหาคม 2562 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ยกฟ้องกล่าวหานปช. ‘ณัฐวุฒิ’ ไม่ถือเป็นชัยชนะฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นความยุติธรรมแก่ประชาชนผู้บาดเจ็บล้มตาย พิสูจน์ ‘เราไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย’ ไม่ควรประสบชะตากรรมโดนยิงเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง - ฝากถึงรัฐบาล ‘อภิสิทธิ์’ ชัยชนะร่วมกันของสังคมคือปกครองโดยหลักการประชาธิปไตย ไม่ใช่นับจำนวนความสูญเสีย – หวังอนาคตประเทศอยู่ร่วมกันได้แม้ความเห็นแตกต่าง
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษา ‘ยกฟ้อง’ คดีก่อการร้ายจากเหตุการณ์ปี 2553 ซึ่งมี 24 นปช. เป็นจำเลย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน บริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ‘เราเคารพและน้อมรับในคำพิพากษา อย่างที่ผมได้เคยเรียนไปแล้วว่า เรามั่นใจในข้อเท็จจริงและบริสุทธิ์ใจที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมว่าการต่อสู้ การชุมนุมของกลุ่มนปช. ยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นี่คือเป้าหมายเดียวของเรา
ภายใต้หลักการสันติวิธี ไม่มีกองกำลังอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง เมื่อกระบวนการพิจารณาคดีมาถึงวันนี้ ก็ต้องเรียนกับทุกท่านว่า นี่ไม่ใช่ชัยชนะใดๆ ของพวกผม ไม่ใช่เป็นชัยชนะต่อฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นผู้ฟ้องร้อง
ไม่ได้เป็นชัยชนะต่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่นี่เป็นกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยมีศาลท่านวินิจฉัยและมีคำพิพากษา
สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ สำหรับผม ผมคิดว่าเป็นความยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนที่บาดเจ็บล้มตายจากการต่อสู้ ถ้าผมสามารถจะส่งข้อความนี้ถึงคนที่บาดเจ็บล้มตายในเหตุการณ์ดังกล่าว ผมก็อยากจะบอกว่า พี่ครับ น้องครับ เพื่อนครับ วันนี้ศาลท่านชี้แล้วว่าพวกเราไม่ใช่ขบวนการก่อการร้าย
วันนี้ศาลท่านชี้แล้วว่า ความสูญเสียของเพื่อนของพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์ทุกคน ไม่ได้เป็นไปเพราะพี่น้องเป็นผู้ก่อการร้ายเลยถูกเขายิงจนเจ็บจนตาย แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเรียกร้องหลักการประชาธิปไตย ภายใต้ข้อเรียกร้องในสถานการณ์นั้นก็คือการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่
ส่วนหลังจากนี้ ถ้ากระบวนการของคดีนี้จะมีความคืบหน้าต่อไปอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่พวกผมกับฝ่ายกฎหมาย ก็จะต้องเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์ ส่วนคดีความอื่นๆ ก็ยังมีอีกมากนะครับ ที่พวกเราก็จะต้องต่อสู้กันต่อไป
อยากจะบอกกล่าวไปถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งถือเป็นคู่กรณีโดยตรง จากการชุมนุมเมื่อปี 2553 ว่า เราไม่ได้ถือแพ้ชนะกันเรื่องคดีนี้ เราไม่ได้ถือแพ้ชนะกันที่ใครเจ็บใครตายมากกว่าน้อยกว่า
ชัยชนะ ถ้าจะมีจากการต่อสู้ทางการเมือง มันต้องเป็นชัยชนะร่วมกันของสังคมไทย ดังนั้น ชัยชนะของนปช. ยังมาไม่ถึง จะมาถึงก็ต่อเมื่อเราปกครองโดยหลักการประชาธิปไตยอันแท้จริง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น
ผมยังจำความรู้สึกในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 ได้แม่นยำทุกวินาที หลังความสูญเสียเกิดขึ้น แล้วผมเจรจากับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เวลานั้น เพื่อเรียกร้องให้ยุติสถานการณ์
หลังเวทีมีผู้คนมากมายวิ่งมาร้องไห้กับผม เพราะญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท คนในครอบครัวบาดเจ็บ เสียชีวิตและสูญหาย อกเสื้อผมยังเปียกน้ำตาประชาชน แล้วน้ำตาที่เปียกอกเสื้อมันซึมเข้าไปในใจ หนาวเหน็บจนวันนี้
วันนี้มันอบอุ่นขึ้นครับ เพราะผมย้ำอีกทีว่าพี่ผม เพื่อนผม น้องผมที่เสียชีวิต พวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย พวกเขามาเสียสละ ประสบชะตากรรมที่ไม่มีใครควรเจอเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง ดังนั้น ขอพี่น้องประชาชนและสังคมได้โปรดรับรู้สิ่งนี้นะครับ
ส่วนคนที่ให้กำลังใจกันอยู่เสมอมา ก็ขอกราบขอบพระคุณ สำหรับคนที่เห็นต่าง ก็อยากจะเรียนว่า เราไม่ได้เคยมีความรู้สึกเป็นศัตรู เราไม่เคยมีความโกรธแค้นชิงชังกันเป็นการส่วนตัว ความเห็นต่างยังดำรงอยู่ได้ แต่ว่า การคิดถึงอนาคตของประเทศไทย การทำให้ความเห็นต่างนี้ เป็นความงดงามของระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายน่าจะร่วมมือกัน ขอบคุณทุกท่านครับ’นายณัฐวุฒิกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี