มติสภาเฉียบ!  ไม่นิรโทษเยาวชน-คดี112แบบมีเงื่อนไข  ผลโหวต184ต่อ133เสียง

มติสภาเฉียบ! ไม่นิรโทษเยาวชน-คดี112แบบมีเงื่อนไข ผลโหวต184ต่อ133เสียง

วันพุธ ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

มติสภาเฉียบ!

ไม่นิรโทษเยาวชน-คดี112แบบมีเงื่อนไข

ผลโหวต184ต่อ133เสียง

หลังถกเดือด!ก.ม.สันติสุข

ปชน.ชงเหมาเข่งรวม112

สภาฯถก“ร่างก.ม.สันติสุข”วาระ 2 เดือด!ประธาน “เต้น”แจงปรับเนื้อหาหลายมาตรา หวังนิรโทษกรรม-ล้างผิดครอบคลุมทุกกลุ่ม-ทุกสีที่ต้องคดีการเมือง ย้ำไม่มีใครได้ทั้งหมด-เสียทั้งหมด “พรรคส้ม”ชงปรับนิรโทษฯเหมาเข่งผิด“ม.112”แบบ“มีเงื่อนไข”“เต้น” รับหวั่นถูก‘สว.’ตีตกทั้งฉบับ หลายพันคนอาจเสียสิทธิ์เจอรุมค้านหนัก ถึงขั้นพักประชุมไปเคลียร์ใหม่หลังพัก1ชม.เริ่มประชุมต่อสส.ปชน.ผิดหวัง ชี้เอาแบบนี้สันติสุขไม่มีทางเกิด ในที่สุดมติสภาฯ184 ต่อ 133 เสียง ไม่ให้นิรโทษกรรม เยาวชน- ผู้ต้องคดีม.112แบบมีเงื่อนไข

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. ..ซึ่งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธานได้พิจารณาแล้วเสร็จในวาระ2


ณัฐวุฒิ’แจงแจงปรับเนื้อหาหลายมาตรา

โดยนายณัฐวุฒิ นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมสภาฯ ตอนหนึ่งว่าการทำงานของกมธ.ได้พิจารณาขยายพื้นที่การนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมทุกกลุ่มบุคคล ทุกกลุ่มการเมือง ผู้เคลื่อนไหวที่มีแรงจูงในทางการเมือง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาให้มากที่สุด โดยอยู่ในกรอบหลักการของร่างพ.ร.บ.ทั้ง3ฉบับที่สภารับหลักการวาระแรก ทั้งนี้กมธ.ได้แก้ไขเนื้อหาหลายมาตราเช่นการนิรโทษกรรมคดีอาญา เสนอเพิ่มความผิดพินัย ให้ชัดเจน ครอบคลุมมากขึ้น กรณีความผิดทางแพ่ง กมธ.เห็นชอบให้ยุติบังคับคดีทางแพ่ง ส่วนการคืนเงิน ทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดนั้นตัดออก

สำหรับองค์ประกอบของกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุขได้ปรับให้ให้มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกฯที่นายกฯมอบหมายเป็นประธานและมีรมว.ยุติธรรมปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นกรรมการ ปลัดสำนักนายกฯเป็นกรรมการและเลขานุการและมีองค์ประกอบที่มาจากภาคประชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิผู้ที่เสนอชื่อจากวิปรัฐบาล มติวิปฝ่ายค้านและการเสนอชื่อจากประธานสภาฯพร้อมกับปรับบทบาทของกรรมการให้ครอบคลุมหลายด้านทั้งนี้ได้ปรับให้ กรรมการ นัดประชุมครั้งแรกภายใน 30 วันนับจากที่กฎหมายบังคับใช้เพราะมองว่าการลบเลือนเยียวยาบาดแผล การทำงานของกรรมการไม่ควรช้า

หวังนิรโทษ-ล้างผิดคลุมทุกกลุ่ม-ทุกสี

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่ามีประเด็นที่พูดถึงต่อกรณีของเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีซึ่งทำผิดกฎหมาย ที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง กมธ.ได้เพิ่มให้มีสิทธิเสนอเรื่องทำสู่กรรมการ เพื่อขอเข้ากระบวนการรอการกำหนดโทษ หากกรรมการเห็นชอบ ส่งเรื่องไปที่พนักงานอัยการ หากเรื่องอยู่ในชั้นอัยการพิจารณาได้ หากอยู่ในนั้นศาลจะถูกส่งเรื่องให้พิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งนี้ไม่ได้เติมหรือเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร แทรกแซงฝ่ายตุลาการ แต่เป็นไปภายใต้กรอบกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาเด็ก และเยาวชน ที่มีบทบัญญัติกำหนดไว้ ซึ่งกมธ.นำมาเขียนให้ชัดและให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเป็นรายกรณี โดยมีเงื่อนไข และวิธีการ ที่ผู้ที่ประสงค์เข้ากระบวนการอการกำหนดโทษรับปฏิบัติต่อไป

“ในบัญชีแนบท้ายของร่างพ.ร.บ.จากเดิมเสนอ12ฐานความผิด กมธ.พิจารณาหารือและแสวงหาข้อมูลจากรอบด้านได้ขยายเพิ่มฐานความผิดที่ได้รับนิรโทษกรรม อีกหลายฐานความผิด เพื่อครอบคลุมให้กว้างขวางที่สุด และแน่ใจวาการพิจารณาของกรรมการตามกฎหมาย น่าจะยื่นโอกาส และความพยายามเยียวยาบาดแผลจากความขัดแย้งไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกค่าย ทุกสีได้”นายณัฐวุฒิ กล่าว

ย้ำไม่มีใครได้ทั้งหมด-เสียทั้งหมด

ประธานกมธ.ฯกล่าวด้วยว่าสำหรับคนที่เคลื่อนไหวและต่อสู้ทางการเมืองที่คดีเดินเร็ว ถูกพิพากษาจำคุก เช่น คนเสื้อแดง กมธ.เห็นชอบให้เพิ่มบทลบล้างประวัติอาชญากรรม ล้างให้ทุกขั้นตอนและจากหน่วยงาน ให้เป็นผู้ไม่เคยทำผิด ไม่เคยถูกดำเนินคดี ไม่เคยต้องโทษจากความเคลื่อนไหวขัดแย้งทางการเมืองซึ่งเรื่องดังกล่าวใครไม่เจอไม่เข้าใจ เพราะมีผลกระทบต่อชีวิต เพราะมีประวัติถูกบันทึกไว้ในแฟ้มอาชญากรรม

“การออกกฎหมายฉบับนี้มีกมธ.พิจารณา32คนซึ่งการทำกฎหมายไม่ได้ทำให้ความเชื่อทางการเมืองของแต่ละฝ่ายสลายลงไปได้ แต่สิ่งที่จะบอกสังคมคือกมธ.พูดคุยกันได้และมีวิธีหาคำตอบสุดท้าย เพื่อให้งานสำเร็จ โดยไม่ปรากฏขัดแย้งจนคุยไม่ได้ไม่มีวอร์กเอาท์เสนอนับองค์ประชุมหรือทำให้การทำงานของกมธ.เดินหน้าไม่ได้ ทั้งนี้การทำหน้าที่ของกมธ.ไม่มีใครได้ทั้งหมดและไม่มีใครเสียทุกอย่าง แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายมีเป้าหมายประเด็นข้อเสนอของตัวเอง ในที่สุดแล้วตามร่างกฎหมายมีได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่การทำงานสามารถทำมาจนขอความเห็นชอบจากสภาฯร่วมกันได้”ประธานกมธ.ฯชี้แจง

‘หมอทศพร’ไม่ขอร่วมสังฆกรรม

จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณารายมาตรา วาระ2ช่วงหนึ่ง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย แจ้งต่อที่ประชุมสภาฯว่าไม่ขอร่วมพิจารณาร่างกฎหมายเนื่องจากเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองมาหลายครั้งและมีคดีติดตัว เพื่อให้ร่างกฎหมายบริสุทธิ์ และไม่ถูกมองว่าเป็นการผ่านร่างกฎหมายเพื่อตนเอง

เถียงหนักหน่วงไม่นิรโทษคดีใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงหนึ่งของการอภิปรายในมาตรา 3ว่าด้วยเงื่อนไขของการไม่นิรโทษกรรมให้กับผู้ที่มีคดีสำคัญติดตัวคือความผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112การกระทำความผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การกระทำผิดต่อส่วนตัว หรือการกระทำที่ต้องรับผิดต่อบุคคลที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐเป็นการเฉพาะรายหรือเฉพาะกลุ่ม ทั้งนี้พบว่ากมธ.แก้ไขเนื้อหาโดยเพิ่มเงื่อนไขห้ามนิรโทษกรรมในคดีที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297

ปชน.ชงนิรโทษเหมาเข่ง112มีเงื่อนไข

ในการอภิปรายพบว่ากมธ.เสียงข้างน้อยได้สงวนความเห็นให้ปรับแก้ไขเนื้อหาเช่นน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์สส.กทม. พรรคประชาชนขอให้ปรับแก้เนื้อหาโดยมีสาระให้เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18ปีที่กระทำความผิดนั้นได้รับการนิรโทษกรรม

ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ที่ได้สงวนความเห็น โดยเสนอให้นิรโทษกรรมคดี 112อย่างมีเงื่อนไข คือ เฉพาะผู้ที่ยอมรับมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำที่ให้อำนาจแก่กรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุขกำหนด เพราะตนได้พยายามพูดคุยกับหลายฝ่ายที่เห็นต่างกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ กลุ่มบุคคลที่แสดงออกทางการเมืองและดำเนินคดีมาตรา 112 หลายครั้ง จำนวนมากนั้นเข้าอกเข้าใจมากขึ้น และไม่ปฏิเสธเสียทีเดียวต่อการปรองดองสร้างเสริมสังคมสันติสุข ด้วยการนิรโทษกรรมคดี112เพียงแต่ว่าประเด็นร่วมที่สำคัญ คือความกังวลเมื่อนิรโทษกรรมผู้ทำผิดหรือถูกกล่าวหาว่าทำผิดคดี112ว่าจะกลับมาทำมาแสดงออกทางการเมืองกับสิ่งที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยหรือพึงประสงค์อีก

“ผมเชื่อมั่นว่ามาตรการนี้พยายามที่สุดที่หาจุดตรงกลางเข้าใจทุกฝ่าย เพื่อทำให้การนิรโทษกรรมตามกฎหมายฉบับนี้ บรรลุเป้าหมายสูงสุดที่บอกว่า จะสร้างเสริมสังคมสันติสุขได้อย่างแท้จริง หากการนิรโทษกรรมให้ความสนใจกับกลุ่มคนขัดแย้งในอดีต แต่กีดกันการดำเนินคดีที่มีนัยสำคัญในปัจจุบันและอนาคต อาจเป็นการบ่มความขัดแย้งในสังคมปัจจุบันให้มากขึ้น และอาจกดดันให้เกิดเหตุการณ์ขัดแย้งที่ไม่เคยเกิดในสังคมได้ ดังนั้นผมเชื่อว่าการนิรโทษกรรมคดี 112 จะยุติความขัดแย้งในอนาคต ทางออกของเรื่องนี้เป็นภาระของพวกเราที่ต้องทำให้การเมืองไทย ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเข้ารู้เข้ารอย ไม่ใช่การลงทัณฑ์กับคนรุ่นใหม่ ที่รับมรดกบาปจากคนเราไป ดังนั้นขอให้สภาฯ เห็นชอบกับสิ่งที่เสนอ หรืออย่างน้อยกับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อให้เป็นทางออกของสังคม”นายชัยธวัช ย้ำ

เจอรุมค้านหนักทุกด้านขัดหลักการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีสส.พรรคประชาชนรวมถึงนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้าอภิปรายสนับสนุนกมธ.เสียงข้างน้อย แต่ปรากฎว่าอภิปรายของกมธ.เสียงข้างมากรวมถึงสส.พรรคภูมิใจไทย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติและสส.พรรคเพื่อไทยกลับเห็นแย้งเนื่องจากมองว่าเป็นการขัดกับหลักการและเสี่ยงต่อที่ร่างกฎหมายจะไม่ผ่านในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภา

โดยช่วงหนึ่งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทยประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)หารือต่อที่ประชุมว่าขอให้พักการประชุมเพื่อให้กมธ.ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน เพราะมีเนื้อหาที่ขัดกันว่าเด็กต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับการให้อภัย แต่มาตรา 9/1เขียนไว้อยู่แล้ว ซึ่งตนเห็นด้วยกับการให้อภัยเด็กแต่ต้องมีขั้นตอน ซึ่งในมาตรา 9/1ลดขั้นตอน ขอให้กมธ.กับกมธ.เสียงข้างน้อยหารือกันเพื่อให้จบและสภาฯไปในทางเดียวกัน

‘เต้น’หวั่นสว.ตีตกทั้งฉบับ-กระทบพันคน

นายณัฐวุฒิชี้แจงว่าตนได้รับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย และได้ประเมินถึงการทำเนื้อหาร่างกฎหมายที่ไม่ต้องถูกวุฒิสภาตีกลับ เพราะหากวุฒิสภาตีกลับ ต้องใช้เวลาของสภาฯอีก 6เดือน แต่สถานการณ์วันนี้ ไม่มั่นใจว่าสภาฯจะมีอายุถึง 6เดือน จึงปรับแก้ไขเนื้อหา และเพิ่มมาตรา 9/1ไว้ ซึ่งประมวลดูแล้วว่าสามารถทำได้ในขั้นตอนต่างๆ ส่วนตัวไม่ขัดข้อง แต่ต้องยืนยันกับตนให้ได้ว่าจะไม่ตกไปในชั้นของสว.เพราะหาเป็นเช่นนั้นตนรับผิดชอบไม่ไหวต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งสภาฯ

“ผมกังวลคือจะไปตกในชั้นวุฒิสภาซึ่งจะมีความเสียหายทั้งฉบับ และเรามีข้อมูลว่าหากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่าน แม้จะไม่รวมความผิดตามมาตรา 112 คน หลายพันคนจะได้รับผลดังนั้นหากจะหารือกันผมไม่ขัดข้อง แต่อย่าให้เกิดความเสี่ยงที่จะตกไปทั้งฉบับ แล้ววันนี้หากดูตามกรอบระยะเวลาของสมัยประชุมพบว่าเหลือเพียงแค่หนึ่งวันที่กฎหมายนี้จะชี้ชะตาว่าจะเอาอย่างไร จะผ่าน หรือไม่ผ่าน และจะผ่านแบบไหน“ นายณัฐวุฒิ กล่าว

‘พท.’ค้านนิรโทษ/ชี้ด้อยความศักดิ์สิทธิ์กม.

ขณะที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายคัดค้านกมธ.เสียงข้างน้อยว่า ตนเห็นใจเด็กที่อาจทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อยากให้อภัยแต่สิ่งที่กระทบคือปัญหาบ้านเมืองในเชิงกฎหมาย การอภัยส่วนตัวเราให้อภัยได้ แต่เชิงกฎหมายทำไม่ได้ สำหรับมาตรา112เข้าใจอยู่ว่าอยู่ในหัวอกคนไทยทุกคนที่จะปกปักษ์รักษาเทิดทูนสถาบันไว้ หากปล่อยให้ละเมิดกฎหมายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย หลักนิติธรรมจะถูกด้อยลงไป

“ผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่าให้วิปไปตกลงกันซึ่งวิปตกลงกันแต่ต้องคำนึงถึงหลักของบ้านเมือง กรณีแปรญัตติ สงวนความเห็นที่ขัดหลักการทำไม่ได้ ไม่ใช่ตาขยิบกันแล้วจะต้องเห็นด้วยกัน ผมไม่สบายใจเพราะการทำงานในสภาฯไม่ใช่อะลุ่มอล่วยกันเพราะนัยของกฎหมายมีข้อจำกัด การเสนอญัตติที่เป็นร่างกฎหมายต้องไม่ขัดกับหลักการ ทั้งนี้บ้านเป็นบ้าน เมืองเป็นเมือง มีหลักนิติธรรม มีหลักนิติรัฐ มีหลักกฎหมายหากปล่อยให้คนละเมิดกฎหมาย แล้วแก้ไขโดยนิรโทษกรรม จะทำให้ด้อยความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายได้” นายประยุทธ์ กล่าว

สุดท้ายปธ.ต้องสั่งพักการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายดังกล่าวไม่สามารถหารือยุติได้ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ฐานะวิปฝ่ายค้าน เสนอให้พักการประชุมทำให้นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง ต้องขอพักประชุมเพื่อให้วิปและกมธ.หาข้อยุติร่วมกัน

เริ่มถกมาตรา3ต่อยังพักประชุม

จากนั้นเวลา 13.35น.หลังจากที่พักการประชุมไปประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีข้อเห็นแย้งระหว่างกรรมาธิการในร่างมาตรา 3 ว่าด้วยเงื่อนไขของการไม่ได้รับนิรโทษกรรมในบางคดี แต่กมธ.เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นให้ปรับเนื้อหาเพิ่มการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไขนั้น

ภายหลังการหารือแล้วเสร็จนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธาน กมธ.ได้แจ้งว่าที่ประชุมมีข้อยุติว่าร่างมาตรา 3 นั้นจะเป็นไปตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอ แต่ในร่างมาตรา 9/1นั้นได้ปรับแก้ไขเนื้อหาดังนั้น เชื่อว่าสภาจะเห็นชอบ

ปชน.ชี้เอาแบบนี้สันติสุขไม่มีทางเกิด

โดยน.ส.ศศินันท์ยืนยันว่าการปรับแก้เนื้อหาที่เพิ่มการนิรโทษกรรมให้เยาวเชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะเชื่อว่าไม่ขัดต่อหลักการ อีกทั้งการกำหนดประเด็นเยาวชนไม่จำเป็นต้องดูรายละเอียดขนาดว่าการถูกดำเนินคดีอยู่ในขั้นตอนใด จากที่ กมธ.พิจารณาคดีปิดสนามบิน คืนสิทธิล้มละลาย ระงับค่าเสียหายหรือการกระทำของผู้ใหญ่ที่หนักกว่ามาก ไม่ต้องถกเงื่อนไขต่างๆ

“รู้สึกผิดหวังว่าต้องหาทางออกแบบอ้อมๆ เลียบๆ เคียงๆ และไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าคนที่ได้รับประโยชน์ต้องการอะไรกันแน่ แม้โหวตวันนี้จะไม่ชนะ แต่ฝากที่ประชุมว่าพ.ร.บ.นี้ สร้างเสริมสันติสุขไม่ได้ หากมองคนอีกกลุ่มเป็นคนตรงข้าม หาวิธีเลี่ยงบาลี นิรโทษกรรมกับเยาวชน”น.ส.ศศินันท์กล่าว

มติ184:133 ไม่ให้นิรโทษเยาวชน-คดี112

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฎว่ามติเสียงข้างมาก 184 เสียง เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ขณะที่ 133 เสียงเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย ก่อนที่ประชุมได้พิจารณาในรายละเอียดของมาตราต่อไป

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top