‘ศรีสุวรรณ’ค้านถมทะเล! ซัดเอื้อประโยชน์เอ็กซอน ส่อขัดรธน.กระทบมั่นคง

‘ศรีสุวรรณ’ค้านถมทะเล! ซัดเอื้อประโยชน์เอ็กซอน ส่อขัดรธน.กระทบมั่นคง

วันเสาร์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 08.04 น.

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาะโลกร้อน ได้ออกแถลงการณ์ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่อง “คัดค้านการถมทะเลเอื้อประโยชน์ให้เอ็กซอน โมบิล ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ”  มีเนื้อหาว่า  ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ออกมาเปิดเผยว่ากลุ่มบริษัท เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น ได้ยื่นข้อเสนอที่จะลงทุนเพื่อก่อสร้างท่าเรือ-โรงงานปิโตรเคมีมูลค่า 3.3 แสนล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่า ภาครัฐจะต้องจัดหาพื้นที่ให้ได้ในรัศมี 5 กม. จากโรงกลั่นเอสโซ่แหลมฉบัง โดย กนอ.มีแผนที่จะถมทะเลในพื้นที่แหลมฉบังเพื่อรองรับ 1-3 พันไร่ให้นั้น

การถมทะเลเพื่อประกอบการท่ารเรือ-โรงงานปิโตรเคมี ซึ่งเป็นเพียงอุตสาหกรรมผลิตเม็ดพลาสติกในอุตสาหกรรมต้นน้ำไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ ตามนโยบายของ EEC ที่ต้องการให้เกิดอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างนวัตกรรม หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยี จึงขัดหรือแย้งต่อพรบ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 โดยตรง


ทั้งนี้ การถมทะเลดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งผลกระทบต่อวิถีทางการประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยวของชุมชนในบริเวณทะเลแหลมฉบัง อ่าวอุดม เกาะสีชัง อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ซึ่งสังคมไทยมีบทเรียนที่เจ็บปวดในการถมทะเลที่มาบตาพุดมาแล้ว และอาจส่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติตามมาอีกด้วย เพราะท่าเรือสามารถปรับใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธได้ และเป็นฐานสอดแนมข่าวกรองสารสนเทศในพื้นที่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นพื้นที่นี้ก็จะกลายเป็น พื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทหาร ที่มีขอบเขตตลอดทั้งอ่าวไทยและทะเลจีนใต้รวมถึงฝั่งทะเลภาคใต้ทั้งหมดด้วย ซึ่งรัฐบาลจะต้องศึกษาใคร่ครวญให้จงดีด้วย มิฉะนั้นอาจกลับกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้านที่อันตรายที่สุด ตามที่ ทษป.รองนายกฯเคยโพสต์ไว้ก็ได้

นอกจากนั้น การถมทะเลเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทต่างชาติอาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิการจัดการ บำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความ หลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนตามกฎหมายไทยได้ อันเป็นการขัดต่อ ม.43(2) ประกอบ ม.50(2) (8) โดยชัดแจ้ง นอกจากนั้นยังถือว่าเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยหน้าที่ของรัฐ ตาม ม.52 ม.53 ม.57 และ ม.58 ของรัฐธรรมนูญ 2560 อีกด้วย ซึ่งหากรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงเดินหน้าผลักดันการถมทะเลเพื่อตอบสนองทุนจากต่างชาติดังกล่าว ประชาชนคนไทยทุกคนก็สามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.41(3) ในการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อระงับการใช้อำนาจดังกล่าวได้ทันที ดังนั้น รัฐบาลและ กท.อุตสาหกรรมควรล้มเลิกการกระทำที่เสี่ยงต่อความมั่นคงและการสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าวเสีย ไม่เช่นนั้นคงต้องไปจบลงที่ศาล แน่นอน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top