วิปรบ.มัดปากฝ่ายค้าน
ซักฟอกวันเดียว
ปมนายกฯถวายสัตย์ฯ
ถ้าตีรวนเสนอปิดประชุม
ประยุทธ์แจงผู้ตรวจฯแล้ว
‘พท.’ร้าวสอบสส.สุรินทร์
แห่อวย‘บิ๊กตู่’สาวไส้พรรค
บิ๊กตู่ทำหนังสือแจงเรื่องถวายสัตย์ฯ ถึงผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ประธานวิปรัฐบาล แย้มให้ฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องดังกล่าววันเดียว ถ้าตีรวนออกนอกประเด็นจะเสนอปิดประชุมสภาทันที ส่วนเพื่อไทยร้าวหนัก สอบกลุ่ม สส.สุรินทร์ ที่ไปต้อนรับนายกฯช่วงแก้ภัยแล้ง แล้วเปิดถล่มพรรคที่ตัวเองสังกัด ส่วนรัฐมนตรี พปชร.ยังไม่ลาออกจากสส.ตามใบสั่งบิ๊กป้อม แต่งดลงพื้นที่วันประชุมสภา แก้ปัญหาฝ่ายค้านตีท้ายครัว
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายดิสทัต โหตระกิตย์เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งหนังสือชี้แจงผู้ตรวจการแผ่นดินเกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ส่งหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปถึงผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว เพื่อชี้แจงตามที่มีหนังสือมา แต่ขอไม่ตอบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร และมีเนื้อหาจำนวนเท่าไหร่ แต่ได้ชี้แจงไปเพียงสั้นๆและได้ใจความตามระเบียบและขั้นตอน โดยหนังสือจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้มีการตั้งคำถาม เพียงแต่ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนเนื้อหาการชี้แจงดังกล่าวจะนำไปชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่ ต้องรอดูก่อน
รัฐมนตรีตอบญัตติได้ทุกคน
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณีถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และการแถลงนโยบายรัฐบาลโดยไม่ระบุที่มาของแหล่งเงิน ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะบรรจุเป็นกรณีพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ดังนั้น การอภิปรายน่าจะอยู่ช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ ส่วนจะเป็นวันไหนนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่าจะหารืออีกครั้งหนึ่ง แต่ในส่วนของรัฐบาลได้ขอไปดูในเรื่องเกี่ยวกับญัตติที่เปิดอภิปรายและข้อเสนอแนะ ซึ่งมี 2 เรื่อง คือเรื่องถวายสัตย์และเรื่องเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี แต่เกี่ยวกับรัฐมนตรี ดังนั้น หากฝ่ายค้านถามรัฐมนตรีคนใด รัฐมนตรีคนนั้นจะเป็นผู้ตอบ แต่ถ้าถามเรื่องโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่คิดว่านายกรัฐมนตรีคงจะมาตอบ
ให้ฝ่ายค้านพูดได้แค่วันเดียว
นายวิรัช กล่าวต่อว่า ในส่วนของรัฐบาล จะดูการอภิปรายให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับ และเสนอแนะได้บ้าง แต่ถ้ามีอะไรที่ขัดกับข้อบังคับก็คงต้องทักท้วง ส่วนเรื่องเวลาในการอภิปราย ตนคิดว่าถ้าดูตามญัตติที่เสนอมา คิดว่า 1 วันน่าจะเพียงพอและครบถ้วนแล้ว เพราะมีหัวข้อการอภิปรายเพียงแค่นี้ และการจะอภิปรายนอกกรอบในเรื่องที่เสนอมา ก็คงพูดไม่ได้ และหากผู้อภิราย อภิปรายวกไปวนมา เราก็คงต้องขออนุญาตปิดการอภิปราย เพราะหากเกินกว่านี้ ตนคิดว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า อย่างไรก็ตาม หากการอภิปรายไม่พูดซ้ำในเรื่องเดิม มีเรื่องใหม่ ก็อาจจะอนุโลมให้พูดได้ แต่ยืนยันว่า 1 วันเพียงพอแล้ว โดยเริ่ม ประชุมในเวลา 09.00 น. คาดว่าในช่วงเย็นคงเสร็จสิ้น
เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีมาตอบญัตติดังกล่าวด้วยตัวเอง จะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ถ้าเป็นการถามอยู่ในกรอบ คงไม่มีอะไร และอย่าไปถือว่าเป็นองครักษ์หรืออะไรเลย แต่เราคอยดูให้การอภิปรายอยู่ในกรอบข้อบังคับ
‘สมพงษ์’ตื้อขอซักฟอก3วัน
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การเตรียมการอภิปรายทั่วไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ กรณีที่ถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ว่า ทางพรรคจะสลับตัวบุคคลที่จะอภิปรายให้คนที่ยังไม่ได้อภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาลได้อภิปรายบ้าง ซึ่งระยะเวลาในการอภิปรายขึ้นอยู่กับประธานสภาฯ จะกำหนด แต่ส่วนตัวคิดว่าจะใช้เวลาอภิปราย 2-3 วัน ส่วนที่วิปรัฐบาล ระบุว่าใช้เวลาอภิปรายวันเดียวก็เพียงพอ ตนมองว่าผู้รับฟังกับผู้ที่จะพูดคงเห็นสวนทางกัน ก็ต้องคุยกันเพราะไม่มีอะไรกำหนดตายตัวได้ ว่าจะเป็นเวลาเท่าไร
เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่พร้อมมาชี้แจงต่อสภาฯ กังวลหรือไม่ว่าจะไม่สามารถเปิดอภิปรายได้ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายกฯจะมาตอบหรือไม่มาตอบ แต่ที่ผ่านมาตนเห็นว่านายกฯไม่ได้มาตอบ แม้จะพูดว่าไม่ได้กลัวสภา ตนยินดีและเชื่อว่าในการอภิปรายทั่วไปนายกฯจะมาตอบด้วยตัวเอง ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว ท้ายสุดแล้วสื่อมวลชนกับพี่น้องประชาชนจะเข้าใจเอง ตนคงจะไปตอบแทนนายกฯไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่าจะเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่สมควรเรียกร้อง เพราะเราเรียกร้องมาหลายครั้งแล้ว สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันเชียร์ให้พล.อ.ประยุทธ์ มา
‘ชวน’แจงตั้งนายกฯไม่ขัดรธน.
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งคำชี้แจงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นคำร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและมีความเห็นเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. มีการรวบรัดขั้นตอนเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา159 วรรคสองหรือไม่ มายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว และอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่สรุปข้อเท็จจริงต่างๆ ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินคาดว่าจะในวันประชุมที่ 27ส.ค.ซึ่งวันดังกล่าวก็จะมีการพิจารณากรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย โดยขณะนี้สำนักงานอยู่ระหว่างรอคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีอยู่ และคาดว่าในการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินวันที่ 27 ส.ค. จะมีข้อสรุปในทั้งสองประเด็นว่าผู้ตรวจจะมีความเห็นอย่างไร
“ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้เจ้าหน้าที่ไปรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งเป็นหลักการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายของผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่แล้ว เพราะถ้าเราจะไปคิดเองโดยพลการไม่ถามไถ่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็อาจจะทำให้ผู้ตรวจฯละเลยบางประเด็นไปอีกทั้งบางประเด็นก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณาไม่เช่นนั้นอาจเกิดความไม่รอบคอบเป็นธรรมกับผู้กล่าวหา”
ยื่นสอบสส.พท.ต้อนรับบิ๊กตู่
ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือขอให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยและจริยธรรม นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล และนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม 2 ส.ส.สุรินทร์ ของพรรค พร้อมแนบคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ในวันที่มีการต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยนายยุทธพงศ์ ระบุว่า ตนไม่ติดใจกรณีของนายคุณากร ปรีชาชนะภัย ส.ส.สุรินทร์ ที่ไปต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน เพราะไม่ได้มีการพาดพิงถึงพรรค แต่พฤติกรรมของทั้ง นายครูมานิตย์ และ นายตี๋ใหญ่ เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียชื่อเสียงและจริยธรรมของความเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง เพราะส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ยินญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ซึ่งเป็นวิถีทางประชาธิปไตย และต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่พฤติกรรมของ ส.ส.ดังกล่าว กลับใช้คำพูดดูถูกเหยียดหยาม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยด้วยถ้อยคำรุนแรง
ด้าน นายสมพงษ์ กล่าวว่า จากนี้จะรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการเพื่อพูดคุยกับคณะกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรม และความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งเราต้องพิจารณาเรื่องเอกสิทธิ์ของส.ส. ว่าทำอย่างไรจะให้อยู่ในขอบเขต และแนวทางของพรรค หลายคนผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่บางครั้งอาจจะพลั้งเผลอไปบ้าง ไม่มีใครสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งสำคัญต้องดูที่ความตั้งใจของเขาว่าเป็นอย่างไร ซึ่งในคนหมู่มากแบบพรรคเพื่อไทย อาจจะมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะกระทบต่อเสถียรภาพของพรรค และการดำเนินการเพื่อความถูกต้องก็ควรมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบถาม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 – 3 สัปดาห์
‘สุทิน’ให้เอกสิทธิ์ฝ่ายค้านโหวต
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ขอเอกสิทธิ์ในการโหวตบางเรื่อง ว่า พรรค พท.ให้อิสระในการโหวตกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่แล้ว เช่น ร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ก็ให้เอกสิทธิ์พรรคอนาคตใหม่และพรรคประชาชาติ ดังนั้นการที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ต้องการผลักดันเรื่องของเศรษฐกิจ ก็ต้องให้เอกสิทธิ์เช่นกัน และที่ผ่านมา จะเห็นว่าพรรคฝ่ายค้านเดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าการเป็นฝ่ายค้านจะไม่สามารถขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจได้เท่ากับรัฐบาล ซึ่งพรรคเศรษฐกิจใหม่เป็น ส.ส.ใหม่ อาจจะไม่เข้าใจในเรื่องนี้
ส่วนการที่มีกระแสข่าวพรรคเศรษฐกิจใหม่จะย้ายไปอยู่ฝ่ายรัฐบาลออกมาอย่างต่อเนื่อง จะกระทบต่อเอกภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พื้นฐานของพรรคเศรษฐกิจใหม่มีปัญหาภายในพรรคอยู่แล้ว มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค จึงทำให้เกิดความระแวงภายในสังคม แต่เชื่อว่าหลังจากนี้สังคมจะจับตาพรรคที่นอกลู่นอกทาง ก็จะถูกสังคมท้วงติงลงโทษเอง
ธรรมนัสมั่นใจพปชร.ไม่แตกแถว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ยอมรับกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ตั้งเป้าเพิ่มเสียงรัฐบาลให้ได้ 270 เสียง โดยขอให้รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลาออกจาก ส.ส.พล.อ.ประวิตร ได้ตั้งถามคำว่า รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะต้องลาออกจาก ส.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงปริ่มน้ำหรือไม่ แต่เรื่องนี้ได้ให้เป็นสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคนพิจารณา เบื้องต้นรัฐมนตรีจะแก้ไขปัญหาด้วยการสับหลีกตารางการลงพื้นที่ในวันพุธ-พฤหัสบดี ซึ่งตรงกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน ไม่ได้มีความประสงค์จะคัดค้านรัฐบาลทุกเรื่อง ดังนั้น ยืนยันว่า แม้เสียงของรัฐบาลจะมีอยู่เพียง 250กว่าเสียง ก็จะไม่เกิดปัญหาเสียงปริ่มน้ำแน่นอน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เปิดเผยว่า ตนจะเลิกทำพรรคการเมืองดังกล่าวเนื่องจากกรรมการบริหารพรรคมีมติเอกฉันท์ให้เลิกทำพรรค เพราะเห็นว่าพรรคมีสส.แค่คนเดียว และกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ไม่มีเวลาในการทำกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเมื่อยุบพรรคแล้วก็จะย้ายไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี