‘นายกฯ’เปิดถกรมต.พลังงานอาเซีย ขอจำยิ้มสยาม ร่วมสร้างนวัตกรรมมิตรสิ่งแวดล้อม

‘นายกฯ’เปิดถกรมต.พลังงานอาเซีย ขอจำยิ้มสยาม ร่วมสร้างนวัตกรรมมิตรสิ่งแวดล้อม

วันพุธ ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562, 10.59 น.

“นายกฯ” เปิดประชุมอาเซียนพลังงาน ผลักดันนวัตกรรม สร้างพลังงานสะอาด-หมุนเวียน เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม  ขอทุกชาติ จดจำรอยยิ้มสยาม ระบุงานหนักแค่ไหน ขอให้ยิ้มไว้ก่อน 

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 09.30 น. ที่ห้องคริสตัล เอ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 “Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation” และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมี รัฐมนตรีพลังงานจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา รองเลขาธิการอาเซียน ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ  ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ ตัวแทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน และองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมงาน 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่สำคัญของประเทศไทย และมีความหมายอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทย เนื่องด้วยเป็นปีที่มีพระราชพิธีมหามงคลหลายพิธี รวมทั้งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียน และเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ในฐานะรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ขอต้อนรับผู้มีเกียรติทั้งหลาย หวังว่าแม้จะอยู่ในประเทศไทยในระยะเวลาสั้นๆ แต่ทุกท่านก็คงมีความสุข ประเทศไทยพร้อมต้อนรับทุกท่านเสมอมา และตลอดไป 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าภูมิภาคอาเซียนจะต้องเผชิญกับความท้าทายในภาคพลังงานเป็นอย่างมาก ซึ่งพลังงานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาสังคม และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางผลิตและการใช้พลังงานของแต่ละประเทศจะถูกกำหนดด้วยความสามารถในการปรับตัวต่อความท้าทายทางพลังงานของตามแต่สถานการณ์ของแต่ละภูมิภาค 

“ในเวลานี้ เรากำลังอยู่ช่วงเริ่มต้นของกระแสของโลกในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน  และกำลังก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานแห่งอนาคต ภูมิภาคอาเซียนของเรามีความต้องการพลังงานมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนอาจจะเป็นพลังงานหลักต่อไปในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นการพัฒนาตลาดและการลงทุนด้านพลังงาน รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานแห่งอนาคต ทั้งในส่วนของเชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่ใช่ฟอสซิล จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาค” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะเจ้าภาพอาเซียน ไทยได้ผลักดัน Key Deliverables ของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยผลการศึกษาที่เกิดขึ้น จะเป็นข้อมูลและแนวทางสำหรับการวางนโยบายและกรอบความร่วมมือของอาเซียนต่อไปในอนาคต อาทิ ในด้านไฟฟ้ามีการยืนยันการเพิ่มปริมาณการซื้อขายไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านราชอาณาจักรไทย ไปยังสหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งจะสามารถสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่อการขยายความร่วมมือสู่ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการเชื่อมโยงพลังงานไฟฟ้าในอาเซียน นอกจากนั้น ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะต่างๆ อาทิ ข้อเสนอแนะเรื่องการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กเพื่อรองรับก๊าซธรรมชาติ (Small-scale LNG)  แนวทางการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนในโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน จะช่วยกำหนดทิศทางและกิจกรรมที่ควรจะดำเนินการในอนาคต เพื่อให้อาเซียนสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านพลังงานอาเซียน (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation) ในด้านการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงโครงข่ายและตลาดการซื้อขายก๊าซธรรมชาติในอาเซียน ส่วนในด้านการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดนั้น อาเซียนได้เห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายด้านพลังงานทดแทนให้ถึงร้อยละ 23 ในปี 2025 และการปรับมาตรฐานด้านประสิทธิภาพพลังงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน และการผลิตและใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนต่อไป 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของอนาคตทางพลังงานนั้น ปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดพลังงานแห่งโลกอนาคต นั่นคือ พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนโดยระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์ การผลิตพลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า และการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานให้มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานสมัยใหม่โดยมีพลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานหลัก จึงไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานเท่านั้น แต่ยังพัฒนาความเป็นอยู่และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนชน และยังช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย 

“ดังนั้นแนวคิดหลักของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 หรือ 37th AMEM ใน ปีนี้ คือ Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation ซึ่งหมายถึง การมุ่งเน้นความร่วมมือ ร่วมใจ เพื่อพัฒนานวัตกรรมพลังงานอาเซียนในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานให้เข้าสู่ยุคพลังงานที่มีความยั่งยืน ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานเพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนสามารถก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดที่มีความยั่งยืนในอนาคตจึงเป็นหัวข้อที่เหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน” นายกฯ กล่าว 

นายกฯ กล่าวย้ำว่า หวังว่าทุกท่านจะมีความสุข ในระหว่างที่พำนักในประเทศไทย ประเทศไทยยินดีต้อนรับทุกท่านเสมอ และขอให้จดจำรอยยิ้มสยามของตนไว้ด้วย  เพราะคนไทยชอบยิ้ม ต่อให้งานหนักแค่ไหนอย่างไร ก็ยิ้มไปก่อน เพราะจะได้มีกำลังใจในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ตนมีภารกิจต้องไปเรื่องประชาชนที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือในช่วงบ่าย โดยไป 2 จังหวัดภาคเหนือ ช่วงนี้พายุกำลังเข้าแต่ก็คงผ่านหลายประเทศมาเหมือนกัน แต่ละประเทศก็ได้รับปัญหามากเหมือนกัน นี่เป็นเพราะโลกเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพลังงานด้วยในอนาคตในเรื่องพลังงานจากน้ำเหล่านี้เป็นปัญหาหมด เรื่องการผลิตน้ำจากเขื่อน ทั้งนี้ประเทศไทยประสบปัญหาเนื่องจากฝนตกใต้เขื่อน ซึ่งเขื่อนของเราสร้างมาก่อนแล้ว 20-30 ปี  สมัยก่อนน้ำเต็ม แต่สมัยนี้ฝนตกเลื่อนลงมาข้างล่างเรื่อยๆ นั้นคือ ปัญหา ที่เราต้องแก้ในอนาคตเพื่อให้เกิดความยั่งยืน  เพราะประชาชนเกิดความทุกข์เสียหายเสียหาย เกษตรกรเสียหายเราต้องดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเราต้องบริหารประเทศที่เรียกว่า ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เขาเดือดร้อน เราต้องดูแลสร้างความเข้มแข็งให้ เรียกว่า เพิ่มขีดความสามารถให้สูงขึ้น เพราะจะมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจด้วย ซึ่งวันนี้เศรษฐกิจก็กำลังมีปัญหาอยู่เหมือนกัน ตนคิดว่า ทุกคนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น เพียงแต่เราต้องช่วยเหลือกันได้อย่างไร  

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ดีใจไม่ว่า ประเทศที่อยู่ในอาเซียนด้วยกัน หรือประเทศที่อยู่ไกลออกไปและที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของประเทศไทยได้ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องของเศรษฐกิจไปด้วยกัน อาเซียนวันนี้มูลค่าทางการค้าขายเศรษฐกิจชายแดน มีมูลค่าสูงขึ้นรอบด้านของประเทศไทย จึงอยากให้ทุกท่านช่วยกันนำพาสิ่งเหล่านี้ไป นี่คือสิ่งที่อาเซียนจะกันในสถานการณ์ที่มีผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในวันนี้ ถ้าอาเซียนไม่ช่วยกันไม่ซื้อขายระหว่างกันมันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นนี่คือสิ่งที่จะช่วยลดผลกระทบลงได้  ขอขอบคุณทุกประเทศด้วยในด้านเศรษฐกิจ ตนยินดีร่วมมือทุกประการ เดี๋ยวพูดไปจะไปนอกเรื่องอีกแล้ว ดีใจเจอพวกเราเพื่อนๆหลายๆท่านเป็นยังเจเนอเรชั่น สมาร์ทเจนเนอเรชั่น และมีอาวุโส ตนก็อาวุโส ผู้สูงวัย  ฉะนั้นต้องไปด้วยกันทิ้งใครไม่ได้  วันนี้ประชาชนรอการทำงานของเราว่าจะเกิดประโยชน์ได้อย่างไร โดยเฉพาะด้านพลังงานทำอย่างไรจะได้ใช้พลังงานราคาถูก แต่มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ และคิดว่าการประชุมครั้งนี้จะได้ข้อสรุปออกมาว่าจะเดินหน้าอย่างไร เป็นยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของเราต่อไปในอนาคตซึ่งตนทราบว่ามีการทำแผนตรงนี้และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติของไทยด้านพลังงาน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top