สภาต้องซักฟอก
‘วิษณุ’ย้ำ‘บิ๊กตู่-ครม.’ไปแจง
ฝ่ายค้านลั่นลุยถล่มเต็มที่
ขอคำพิพากษาศาลออสซี่
เล่นงาน‘ธรรมนัส’อีกยก
“ชวน”ยันสภาเปิดซักฟอก ไม่ลงมติตามกำหนด ปมถวายสัตย์ฯ แม้ศาลรธน.ตีตก“วิษณุ”ยัน“นายกฯ-ครม.”ต้องไปชี้แจง แต่อภิปรายเปลี่ยนไป ต้องระวังละเมิด
คำวินิจฉัยศาล “ฝ่ายค้าน” ประสานเสียงลั่นลุยซักฟอกเต็มที่ อ้างสภามีความชอบธรรม ขณะที่“บิ๊กตู่”ระบุตรวจสอบคุณสมบัติรมต.ครบถ้วน
ถ้าไม่ผ่านก็จบตั้งแต่แรก‘บิ๊กป้อม-เฉลิมชัย’โดดป้อง’ธรรมนัส’เจ้าตัวยันจบจากแคลิฟอร์เนีย ซัดพวกแก่ไม่รู้เรื่อง ’เสรีพิศุทธ์’’จ้องลุยสอบปมวุฒิฯเก๊ในสภา จ่อเปิดต้นฉบับคำพิพากษา จี้”บิ๊กตู่-ธรรมนัส”ลาออก “ฝ่ายค้าน”เตรียมขอคำพิพากษาจริงศาลออสซี่
จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญนั้น
เมื่อวันที่ 12กันยายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 ในวันที่ 18 กันยายนนี้ว่า ทุกอย่าง ยังเป็นไปตามกำหนดวาระปกติของสภาฯ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับเรื่องไว้พิจารณา ก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานของสภาฯ เพราะ ในการอภิปรายแบบไม่ลงมตินี้ เป็นเรื่องการตรวจสอบทางกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เขียนกำหนดไว้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิอภิปราย ซักถาม เสนอแนะและให้คำแนะนำซึ่งการอภิปรายก็จะเป็นไปตามกรอบข้อบังคับการประชุมสภาฯ
เมื่อถามว่าเรื่องที่นายชวนเคยเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ช่วงที่เกิดคดีความนั้น นายชวนกล่าวว่าส่วนนั้นก็เป็นไปตามระบบราชการสามารถไปดูข้อมูลย้อนหลังได้ว่ามีการประกาศพระบรมราชโองการว่าอย่างไร
‘วิษณุ’ชี้ขอบเขตอภิปรายเปลี่ยน
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณ สภาผู้แทนราษฎรจะต้องถอนญัตติดังกล่าวหรือไม่ว่า แล้วแต่ว่าจะมีใครทำอะไรและแล้ว แต่วิปรัฐบาลที่จะไปประสานงาน ถ้ามีการถอนญัตติดังกล่าวออกรัฐบาลก็ไม่ต้องไปชี้แจง หรืออาจจะอภิปรายให้สั้นลง ไม่ต้องใช้เวลามาก หรือ อาจจะเป็นอย่างที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะพูดกันไป โดยที่ไม่มีความเกรงใจเพราะฉะนั้นอย่างไรก็ได้ หากญัตติยังอยู่ ก็ไปชี้แจง
“ญัตตินี้ไม่ได้ตกไปโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องมีใครไปทำอะไรสักอย่างหนึ่ง หากผู้ยื่นญัตติไม่ถอนรัฐบาลต้องไปชี้แจงกันเหมือนเดิม แต่ขอบเขตอภิปราย จะต้องเปลี่ยนจากเดิมที่คิดไว้ ถือว่าจะดีขึ้น”
ติงระวังละเมิดคำวินิจฉัยศาลรธน.
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะที่ขอบเขตในการอภิปรายจะต้องอยู่ภายในข้อบังคับของสภาที่มีอยู่แล้วและผู้อภิปรายจะต้องระมัดระวังกรณีจะไปวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560แต่ศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลไว้อย่างชัดเจนว่าทำไมถึงไม่รับ ถือเป็นเหตุผลที่สำคัญและเป็นไปตามที่ผมเคยบอกไว้ว่าเรื่องนี้จะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่าไม่รับถือว่าจบและศาลยังได้อธิบายเหตุผลที่เป็นประโยชน์ทั้งนั้นในทุกคำพูด ส่วนจะเป็นผลดีกับรัฐบาลหรือไม่ ไม่แน่ใจ เพราะมีหลายเรื่องที่จะเข้าข่ายเช่นนี้ แต่ถ้าจะไปดำเนินการทางการเมืองใดก็แล้วแต่ ไปว่ากันเอง
ย้ำ’นายกฯ-ครม.’ยังต้องไปชี้แจง
เมื่อถามว่าเมื่อได้คำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญเช่นนี้ รัฐบาลสามารถส่งใครไปชี้แจงต่อสภาก็ได้ใช่หรือไม่ หรือจำเป็นที่นายกฯจะต้องไปชี้แจงเอง นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่มีใครคิดไปถึงขั้นนั้น คิดเตรียมการไว้อย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ โดยเฉพาะนายกฯไปตอบเอง ไม่ต้องสงสัยเป็นอย่างอื่นเลย ดูจากวาระงานวันที่ 18 ก.ย.แล้ว นายกฯ จะออกมางานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เมืองทองธานี แล้วจะกลับเข้าไปประชุมสภาต่อ หรือแม้แต่ตนเองก็เช่นกัน กำลังให้ทีมงานประสานเลื่อนวาระงานบางงานของตนอยู่ ส่วนครม.ก็ต้องเข้าด้วยกันเพราะยังไม่รู้ว่าการอภิปราย จะมีใครโดนหางพายุไต้ฝุ่น
ฝ่ายค้านลุยซักฟอก-ไม่เกี่ยวศาล
ในส่วนพรรคฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปรัฐบาล)กล่าวยืนยันว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง
วินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญแต่ฝ่ายค้านจะเดินหน้าต่อในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ซึ่งจากคำชี้แจงของศาลรัฐธรรมนูญระบุไม่มีอำนาจวินิจฉัยและไม่มีองค์กรตามรัฐธรรมนูญใด มีอำนาจวินิจฉัย ซึ่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ว่านั้นคือองค์กรอิสระเช่นป.ป.ช. ปปง.เป็นต้น
“ก็ยิ่งชอบธรรมที่สภาต้องตรวจสอบเรื่องนี้ สภายิ่งโล่งและต้องพูดคุยเพื่อหาข้อสรุป ประกอบการอภิปรายดังกล่าว ยังมีเรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลไม่แสดงที่มาของงบประมาณ ดังนั้น ต้องเดินหน้าอภิปรายตามมาตรา 152 เชื่อโดยสุจริตใจว่าศาลต้องการให้สภาดำเนินการเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป”นายสุทินระบุ
‘ปิยบุตร’ลั่นสภาเดินหน้าซักฟอก
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่(อนค.)กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับวินิจฉัยกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาว่าคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ออกมายิ่งแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของสภาผู้แทนราษฎรที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการอภิปราย เหตุผลที่ศาลหยิบยกขึ้นมาใช้คือ มองว่าประเด็นการถวายสัตย์นั้นเป็นเรื่องของการกระทำของรัฐบาล องค์กรตุลาการ จะไม่เข้าไปตรวจสอบ
เมื่อเป็นเรื่องทางการเมืองอย่างนี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรมีความชอบธรรมที่จะแก้ปัญหาทางการเมืองเรื่องนี้ ซึ่งตนมองว่าการถวายสัตย์ไม่ครบของนายกฯ นี้ แสดงถึงความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญว่าหากมีนายกฯท่านหนึ่งกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบเราจะทำเช่นไรและจะมีบรรทัดฐานอย่างไร ส.ส.ในฐานะผู้แทนราษฎร ที่เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด เรามีความชอบธรรม จะต้องอภิปรายตรวจสอบเพื่อหาทางออกให้กับครม.”นายปิยบุตรย้ำ
ชี้อภิปรายเปิดเผย-ไม่ประชุมลับ
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ในการจัดสรรตัวผู้อภิปรายนั้น เรายังไม่ได้คุยอย่างละเอียดแต่เรามีเวลาอยู่ประมาณ 10 กว่าชั่วโมง ยังไม่ได้พูดกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า จะจัดสรรเวลากันอย่างไร ส่วนที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ ขอร่วมอภิปรายพร้อมจะขอเวลาในฐานะฝ่ายค้านอิสระนั้น ส่วนนี้ต้องมาคุยกัน อยากให้มีการอภิปรายแบบเปิดเผย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่โปร่งใสที่สุด เนื่องจากในทางปฏิบัติ หากมี ส.ส.คนหนึ่งที่นั่งฟังอยู่แอบเดินมาบอกสื่อ ก็เท่ากับไม่ลับอยู่ดี
นายกฯย้ำคุณสมบัติครม.ครบถ้วน
ช่วงสายวันเดียวกัน ที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ชี้แจงต่อสภาผู้แทนฯถึงการต้องโทษจำคุกในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลียว่าจากการฟังคำชี้แจงแล้วก็พบว่าชี้แจงเป็นเหตุเป็นผล โดยเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายเขาและทุกอย่างไม่ใช่ว่านายกฯไม่ได้ตรวจสอบ เพราะนายกฯตรวจสอบด้วยระบบการตรวจสอบของรัฐบาล เท่าที่มีมาก็มีคณะทำงานในการตรวจสอบคุณสมบัติของ ครม.ทุกคนและสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ศาล อัยการซึ่งทุกคนก็ผ่านมาทั้งหมดถึงจะแต่งตั้งขึ้นมาได้
“ถ้าตรวจสอบครั้งแรก ไม่ผ่านก็คือไม่ผ่านตั้งแต่แรก รวมถึงเรื่องของวุฒิการศึกษาด้วยและคิดว่าเขาได้ตรวจสอบแบบนี้มาทั้งหมดแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นความคิดเห็นของแต่ละคน”นายกฯ กล่าวย้ำ
ยันไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบเอง
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ร.อ.ธรรมนัสให้ข้อมูลการตรวจสอบไม่ครบถ้วนนายกฯกล่าวว่าน่าจะไม่ใช่ แต่หากข้อมูลไม่ครบถ้วนจริง ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบใหม่ หากมีปัญหาภายหลังก็สามารถตรวจสอบได้ เรื่องนี้ต้องไปดูว่ามีเป้าประสงค์อะไรหรือไม่และถ้ามองย้อนกลับไปในอดีต ก็เคยมีปัญหาแบบนี้เยอะแยะลืมกันไปหมดแล้วหรือ ส่วนจะมีการเรียกดูหลักฐานเพิ่มหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องของนายกฯที่จะต้องไปตรวจสอบเอง แต่มีกลไกและกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้วสามารถสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบ และส่งเรื่องกลับมายังตนได้
หงุดหงิดโดนซักกรณี’ธรรมนัส’
ส่วนจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ในฐานะที่เป็นผู้คัดเลือกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“อ้าวผมก็เป็นคนคัดคนเข้ามา เพราะมีคนเสนอเข้ามาแต่ทั้งหมดได้ผ่านกลไกการตรวจสอบคุณสมบัติคุณสมบัติ ก็จบลงแค่นั้น ผมจบแล้ว”ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามซักถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าหงุดหงิด โบกมือก่อนบอกว่า”ไม่เอาพอแล้ว มีแต่คำถามเดิมๆคนถามก็เดิมๆ”
“บิ๊กป้อม-เสี่ยต่อ”ป้อง“ธรรมนัส”
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 11ก.ย.กรณีถูกดำเนินคดียาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลียว่าได้ติดตาม และสิ่งที่เขาชี้แจงในสภาฯ ก็ต้องพูดเรื่องจริงทั้งนั้น
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีร.อ.ธรรมนัส ถูกขุดคุ้ยประวัติในอดีตรวมทั้งมีการอภิปรายในสภาเรื่องปลอมวุฒิการศึกษา จะส่งผลกระทบคุณสมบัติจะต้องลาออกหรือไม่ว่าไม่ต้องลาออก เพราะไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติซึ่งผ่านการตรวจสอบหมดแล้ว มีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีซึ่งในคณะรัฐบาลได้ดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างละเอียดครบจบไปหมดแล้ว สำหรับเรื่องคดีเก่า รมช.เกษตรฯ ก็จบไปแล้ว ชี้แจงไปตามปกติ
ธรรมนัส’ยันจบ แคลิฟอร์เนีย
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กบางรายระบุว่าร.อ.ธรรมนัสจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Calamus International Universityประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สถาบันนี้ถูกพบว่าไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องว่า เป็นความเข้าใจผิด บางคนกล่าวหาว่า ตนจบการศึกษาจากประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งที่จริง ตนจบจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในประเทศสหรัฐอเมริกา ข้อมูลที่มีบางกลุ่มนำมาเปิดเผย เป็นข้อมูลมั่วและมีการเปลี่ยนแก้ข้อความในภาพปริญญาบัตรของตนด้วย ซึ่งคนที่ทำแบบนี้ ระวังจะถูกมหาวิทยาลัยดังกล่าว ฟ้องร้องเอาผิด
ซัดแก่ไม่รู้เรื่อง-แจงหลายรอบ
เมื่อถามว่ายังมีสำนักข่าวบางแห่งเสนอข่าวกรณี ร.อ.ธรรมนัส เคยถูกไล่ออกจากราชการ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าเขาเอาหนังสือตัวเดิมมาใช้ ตอนที่มียศร้อยโท และ ยืนยันว่าได้ยศกลับมาแล้วเป็นผลพวงจาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้แจ้งหลายครั้งแล้ว พูดกันไม่รู้กี่รอบ แต่ก็ยังไม่เข้าใจกันบางท่านก็แก่ไม่รู้เรื่อง”
เสรีพิศุทธ์ลั่นสอบปมวุฒิฯเก๊
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่เริ่มมีการขุดคุ้ยประวัติของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จนไปถึงเรื่องประวัติการศึกษาปลอมและการถูกให้ออกจากราชการว่าเรื่องการให้ออกจากราชการเป็นเรื่องจริงในตอนนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนฯ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนให้ไปถามนายชวนได้ ส่วนเรื่องการศึกษาปลอมหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบและพิสูจน์ซึ่งในฐานะฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว เรื่องนี้เล็กกว่าเรื่องยาเสพติด ส่วนที่ยืนยันว่าปลอมแน่ๆคือเรื่องการถวายสัตย์ฯที่เพิ่มเข้าหรือตัดออกข้อความเอกสารราชการที่อาจมีความผิดทางอาญาและรัฐธรรมนูญจึงขอให้รอฟังการอภิปรายของตัวเองในวันที่ 18 ก.ย. นี้
เมื่อถามถึง กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุทำนองไม่รับรู้ รับทราบกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นกับร.อ.ธรรมนัส พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าเมื่อร่วมรัฐบาลกันแล้ว นายวิษณุ เป็นนักกฎหมายจะต้องตรวจสอบว่าการแต่งตั้งรัฐมนตรีแต่ละคนมีประวัติอย่างไรต้องเลือกคนดีมาบริหารบ้านเมือง เพราะการจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย อยู่ที่การยกย่องคนดี สนับสนุนคนดีให้มีอำนาจ และ อย่าให้คนไม่ดีปกครองประเทศ ตอนนี้กลับตาลปัตรจึงต้องเรียกความถูกต้องชอบธรรมกลับคืนมา
ขู่เตรียมเปิดต้นฉบับคำพิพากษา
เมื่อถามต่อ การตอบกระทู้สดของร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงถึงกรณีต่างๆในสภาฯเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นคำโกหก หลังจากนี้ต่อไปตัวเองจะนำต้นฉบับคำพิพากษาของศาลมาเปิดเผย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องนำเรื่องนี้ไปพิสูจน์ในชั้นศาล เพียงต้องการให้รัฐบาลรู้จักรับผิดชอบ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะก่อนการตั้งคณะรัฐมนตรี ควรทราบประวัติของรัฐมนตรีแต่ละคน อย่างไรก็ดี ยังได้เรียกร้องให้ร.อ.ธรรมนัส ควรต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก รวมถึงหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ฝ่ายค้านเล็งขอคำพิพากษาออสซี่
ขณะที่ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตอบคำถามในสภาผู้แทนราษฎรของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาว่าเขาตอบเพียงแค่ครึ่งเดียว ไม่ได้ตอบความจริงทั้งหมด และยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัสได้กระทำผิดแล้ว เพียงแต่มีการต่อรองโทษกันเท่านั้น ไม่ใช่ไม่ผิด ตรงนี้จะเข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101 (3) และมาตรา160(7)เป็นเหตุให้ขาดคุณสมบัติ ซึ่งเราเตรียมให้มีการพิจารณาในส่วนของจริยธรรมนักการเมืองต่อไป ทั้งนี้ ตนก็คงจะไม่ยื่นญัตติเพิ่มแล้ว แต่พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมทำหนังสือในนามของสภาผู้แทนฯเพื่อยื่นไปยังศาลประเทศออสเตรเลียเพื่อขอคำพิพากษาตัวจริงออกมาซึ่งจะทำให้รู้ว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไร
รายชื่อประธานกมธ.35คณะสภาฯ
ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 35 คณะไปเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งในวันนี้คณะกรรมาธิการทั้ง 35 คณะได้ประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ดังนี้
โดยพรรครัฐบาลจำนวน 17 คณะ พรรคพลังประชารัฐ 8 คณะ 1.กมธ.การตำรวจ มี นายนิโรจ สุนทรเลขา เป็นประธาน 2.กมธ.กรรมาธิการการสื่อสารมวลชน โทรคมนาคม ดิจิทัลเเละเศรษฐกิจ มี นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย เป็นประธาน3.กมธ.การเงิน การคลัง เเละสถาบันทางการเงิน มี นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม เป็นประธาน 4.กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร มี นายอนันต์ ผลอำนวย เป็นประธาน 5.กมธ.การทหารมี นายสมชาย วิษณุวงศ์ เป็นประธาน 6.กมธ.การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว มี นายสุชาติ อุสาหะ เป็นประธาน7.กมธ.การป้องกันเเละปราบปราม การฟอกเงินและยาเสพติด มี นายนิพันธ์ ศิริธร เป็นประธาน 8.กมธ.การวิทยาศาสต์รและเทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม มี นายอัครวัฒน์ อัศวเหม เป็นประธาน
พรรคประชาธิปัตย์ 4 คณะ 1.กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา มี นายอันวาร์ สาและ เป็นประธาน 2.กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ มี นางกันตวรรณ ตันเถียร เป็นประธาน3.กมธ.แก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ มี นายวุฒิพงษ์ นามบุตร เป็นประธาน 4.กมธ.การสวัสดิการสังคม มี นางสาวรังสิมา รอดรัศมี เป็นประธาน พรรคภูมิใจไทย 4 คณะ 1.กมธ.การคมนาคม มี นายโสภณ ซารัมย์ เป็นประธาน 2.กมธ.การท่องเที่ยว มี นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ เป็นประธาน 3.กมธ.การกีฬามี นายบุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน .กมธ.การสาธารณสุข มี นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร เป็นประธาน ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา 1 คณะ คือ กมธ.ส่งเสริมแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม มี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นประธาน
ชื่อปธ.กมธ.พรรคฝ่ายค้าน 18 คณะ
ในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย 10คณะ 1.กมธ.การศึกษา มีนายนพคุณ รัฐผไท เป็นประธาน 2.กมธ.การพลังงาน มีนายกิตติกร โล่ห์สุนทร เป็นประธาน 3.กมธ.อุตสาหกรรม มี นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ เป็นประธาน 4.กมธ.การศึกษา จัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ มี นายไชยา พรหมา เป็นประธาน 5.กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค มี นายมานะ โลหะวณิชย์ เป็นประธาน 6.กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ มี นางมุกดา พงษ์สมบัติ เป็นประธาน
7.กมธ.การปกครอง มีนายไพจิต ศรีวรขาน เป็นประธาน 8.กมธ.การต่างประเทศ มีนายศราวุธ เพชรพนมพร เป็นประธาน 9.กมธ.กิจการองค์กรศาล รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นประธาน10.กมธ.การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย มี นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร เป็นประธาน
พรรคอนาคตใหม่ 6 คณะ 1. กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน 2.กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ มี พล.ท.พงศกร รอดชมภู เป็นประธาน 3.กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน มี นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน 4. กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นประธาน 5.กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ มี นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เป็นประธาน 6.กมธ.การแรงงาน มี นายสุเทพ อู่อ้น เป็นประธาน
พรรคเสรีรวมไทย 1 คณะ คือ กมธ.การป้องกันปราบปรามการทุจริต เเละประพฤติมิชอบ มี พลต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส เป็นประธาน และพรรคประชาชาติ 1 คณะ คือ กมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ มี นายซูการ์โน มะทา เป็นประธาน
ภท.ยื่นร่างกม.12ฉบับเข้าสภาแล้ว
ที่รัฐสภา คณะส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคฯได้เสนอร่างกฎหมายจำนวน 12 ฉบับต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ทางพรรคฯได้รวบรวมจากนโยบายหาเสียงของพรรคเช่นการปลูกกัญชาได้ไม่เกินครัวเรือนละ 6 ต้น,การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายของกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นต้น โดยนายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทยแถลงข่าวว่า ร่างกฎหมายทั้งหมด เป็นเรื่องที่ทางพรรคฯ สัญญาไว้กับประชาชนและได้ทำในวันนี้
‘ยุทธพงศ์’สมองสะเทือนลาประชุม
ที่โรงพยายบาลกรุงเทพ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่เข้ารักษามีแผลที่ศีรษะหลังเกิดเหตุวิวาทกับนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเดียวกันเมื่อวันที่10ก.ย.ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ว่า ยังคงรักษาตัวอยู่ที่รพ. เพราะแพทย์ยังไม่อนุญาตให้ไปปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจาก มีอาการที่กระทบกระเทือนที่สมองเพราะที่กระโหลกศีรษะมีแผลแตก และมีความดันสูงต้องเฝ้ารอดูอาการ อย่างน้อย48-72ชั่วโมงและไม่ต้องการให้เกิดความเครียด จึงจำเป็นต้องลาการประชุมสภาตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยฯส.ส.ไปแจ้งลาป่วยต่อสภาฯเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งแต่วันเกิดเรื่อง จนถึงขณะนี้ยังพักรักษาตัวที่รพ.ซึ่งมีส.ส.หลายพรรคการเมืองทั้งเพื่อไทย พลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ แวะมาเยี่ยมให้กำลังใจที่รพ.จำนวนมาก
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมเองไม่ได้ติดใจ หรือ มีปัญหาอะไรพร้อมทำงานกับพรรคฯในฐานะส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทยต่อไป ส่วนเรื่องคดีความกับนายนวัธก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องว่าไปตามกฎหมายบ้านเมือง ต่อไป ผมแยกเยอะได้ ระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวม ไม่ได้มีปัญหาอะไร”ส.ส.มหาสารคาม ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี