ฉุนถูกถล่มแก้นํ้พท่วมช้า
บิ๊กตู่ท้าคนตปท.
มาก็ทำไม่สำเร็จมีแต่เจ๊ง
ลั่นพร้อมดูแลทุกจว.
เปิดรับบริจาค17กย.
จัดรายการช่วยคนไทย
นำครม.ร่วมซับน้ำตา
นายกฯยันไม่เคยนิ่งนอนใจสั่งเร่งแก้น้ำท่วมมาตั้งแต่แรก ย้ำพร้อมช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบ เป็นหน้าที่รบ.ดูแลคนทุกพื้นที่ ขอความเป็นธรรมให้รบ.ด้วย ซัดคนที่ชอบพูดสร้างความสับสนน่าเบื่อหน่าย ตอกคนชอบเสนอ สมัยรัฐบาลก่อน อดีตผู้นำยังไม่เชื่อ ฟังแต่ ผบ.ทบ. ท้าเอาคนต่างประเทศมาก็แก้ไม่ได้ ทำเจ๊งเหมือนเดิม รัฐบาลพร้อมแล้วจัดรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” 17 กันยายน “บิ๊กตู่”
นำครม.ออกทีวีนั่งโต๊ะรับบริจาคเอง
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2562 ตอนหนึ่งถึงการแก้ปัญหาอุทกภัยว่า สิ่งสำคัญช่วงนี้มีปัญหาอุทกภัยในภาคอีสาน ซึ่งตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้ความสำคัญมาตลอด ดังนั้น ขอให้ย้อนกลับไปดูว่าตนสั่งการอะไรลงไปบ้างในการเตรียมการ แต่เนื่องจากพายุเข้าและมีปริมาณน้ำฝนเกินที่เราจะรับได้ ดังนั้น ขณะนี้เราจะทำให้คนที่ประสบอุทกภัยอยู่ได้อย่างไร จึงต้องจัดอาหาร ที่อยู่อาศัยให้ทั้งคนและสัตว์
ขอความเป็นธรรม-อย่าพูดให้สับสน
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวยืนยันว่า การดูแลประชาชนนั้น รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาอยู่แล้ว มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีงบประมาณและงบฯฉุกเฉินลงไปในพื้นที่อยู่แล้ว และงบประมาณที่จะลงตามไปทีหลังในการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงดูแลเรื่องที่ดินทำกินและการเกษตรซึ่งมีอยู่ทั้งหมด ดังนั้น ขออย่าทำให้ทุกอย่างสับสน ยืนยันนายกฯ ให้ความสำคัญทั้งหมด จะเห็นได้ว่า 5 ปีที่ผ่านมามีโครงการลงไปในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของใคร รัฐบาลนี้ทำให้ทั้งหมด ดังนั้น อย่าทำให้คนไม่เข้าใจเรามากขึ้น เพราะไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล
ย้ำหน้าที่รบ.ดูแลทุกคนทุกจว.
“การลงพื้นที่ ผมไปมาหมดแล้ว ไปติดตามโครงการที่อนุมัติลงไปหลายพันและหลายหมื่นล้าน ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่จ.นครศรีธรรมราช เพราะเดี๋ยวฝนก็เลื่อนลงไปตกภาคใต้ ผมไปดูระบบระบายน้ำให้เสร็จเร็วขึ้น นั่นคือหน้าที่ของนายกฯ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนทุกคน ทุกครัวเรือน ไม่ใช่ไปเป็นพื้นที่ ไปจังหวัดนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดูจังหวัดอื่น สิ่งที่พูดวันนี้คือ ต้องการสร้างการรับรู้ใหม่ขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่เหมือนเดิม ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรขึ้นมา ผมไม่ได้โมโหใคร พยายามจะเข้าใจว่าเขาพยายามทำและพูดไปเพื่ออะไร ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ถ้าผมเป็นเขาก็คงไม่ทำแบบนั้น” นายกฯ กล่าว และว่า น้ำท่วมเป็นเรื่องสำคัญที่ตนต้องพูด นักข่าวถามแต่ชาวบ้านว่าน้ำท่วมเป็นอย่างไรลำบากหรือไม่ ตนไม่เข้าใจว่าจะไปถามเรื่องนี้ทำไม ไม่มีคำถามที่ดีกว่านี้อีกแล้วหรือ แทนที่จะบอกกับชาวบ้านว่ารัฐบาลกำลังดูแลอยู่ แต่สื่อไม่เคยช่วยเรื่องเหล่านี้เลย
ย้อนอดีตนายกฯยังฟังผบ.ทบ.
นายกฯกล่าวด้วยว่า หลายคนเคยอยู่ในรัฐบาลมาก่อน ตนก็ไม่เข้าใจว่าเขามาเรียกร้องหมายความว่าอย่างไร เมื่อก่อนเขาก็เป็นรัฐบาล แล้วตนก็ไม่เห็นว่าคนที่ออกมาพูดวันนี้ ตนไม่เห็นว่าอดีตนายกฯคนก่อนจะฟังคุณเท่าไหร่เลย อยู่รัฐบาลเดียวกันด้วย น้ำท่วมเมื่อครั้งนั้นผมก็อยู่ด้วย เห็นมาเสนอนู่นเสนอนี่นายกฯท่านก่อนก็ไม่เอาตามนั้น บอกให้เอาตามผบ.ทบ. ซึ่งสมัยนั้นตนก็เป็นผบ.ทบ.อยู่ ก็ได้ไปช่วยน้ำท่วม แล้ววันนี้มาพูดนู่นนี่กับตน น่าเบื่อหน่าย
โวยพวกพูดสร้างความขัดแย้ง
ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในงานสัมมนาบุคลากรภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ ภาคปฏิบัติ : ร่วมขยับขับเคลื่อนภาครัฐ เพื่อประชาชน (National Strategy in Action: Integrated Implementation for THAIS) ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)ตอนหนึ่งเรื่องนี้ว่า เรื่องน้ำท่วม มีคนพูดว่า ทำไมนายกฯไม่ไปช่วย ทำไมไปภาคใต้ ไม่ไปภาคอีสาน สิ่งเหล่านี้คือการสร้างความขัดแย้งในสังคมขึ้นทุกวัน ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจตั้งแต่ระดับพื้นที่ การบริหารจัดการน้ำต้องมาดูเรื่องกักเก็บน้ำว่าเพียงพอหรือไม่ 5 ปีที่ผ่านมาใช้งบฯประจำปี ดำเนินการมาตลอด แต่ประชาชนไม่ทราบ หรือถ้ารัฐบาลต้องการให้ไปขุดพื้นที่บางแห่ง เพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ แต่ประชาชนบางรายก็ไม่ยอม
ท้าเรียกคนตปท.กลับมาก็แก้ไม่ได้
“เรื่องการบริหารจัดการน้ำนั้น มีการโจมตีรัฐบาล เรื่องนี้ไม่มีใครทำได้ ต่อให้เรียกใครที่อยู่เมืองนอกกลับมาก็ทำไม่ได้ ใครก็ไม่รู้ เพราะทำแบบเดิมก็เจ๊งแบบเดิม หากตนพูดมาก ก็จะทำให้อารมณ์เสีย”นายกฯกล่าว และในช่วงท้าย นายกฯกล่าวอีกว่า ขอพูดเปิดอกกับทุกคน ถึงเวลาแล้ว ที่เราควรต้องเปลี่ยนประเทศด้วยตัวของเราเอง ภายใต้หลักการ และกฎหมาย ไม่ใช่เอากฎหมายมาขัดแย้งกันแบบนี้ ถ้าแบบนี้ไปกันไม่ได้
บิ๊กตู่มาเองรบ.จัดรายการช่วยน้ำท่วม
ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯสั่งการให้ทุกภาคส่วนของรัฐบาลระดมความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เต็มที่เป็นระบบ ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทุกภาคส่วนร่วมแสดงน้ำใจไมตรีแก่ประชาชนที่เดือดร้อน รัฐบาลจะได้จัดรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ในวันที่ 17 กันยายน เวลา 19.30 -22.00 น. ที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คณะรัฐมนตรีจะมารับบริจาคด้วยตนเอง โดยบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ถ่ายทอดสดการออกอากาศตลอดการจัดรายการผ่านช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 และเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อขอเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศ เข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0
โต้รัฐบาลช่วยเหลือช้า
อย่างไรก็ตาม สามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนสิ่งของขอความร่วมมือนำไปบริจาคได้ที่ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) สำหรับกองทุนนี้มีงบประมาณอยู่แล้ว 790 ล้านบาท ส่วนการรับบริจาคครั้งนี้จะเป็นเงินส่วนที่เพิ่ม เพื่อนำไปช่วยประชาชนได้ทันท่วงที กรณีมีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลดำเนิน การช่วยเหลือล่าช้านั้น ไม่เป็นความจริง รัฐมนตรีในรัฐบาลทุกคนผลัดเปลี่ยนกันลงไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ทุกวัน ทุกกระทรวงต่างช่วยกันเร่งรัด แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ลงไปหลายรอบแล้ว เพียงแต่การรับบริจาคทางทีวีนั้นเพิ่งจะเริ่ม
รบ.แจงมาตรการเยียวยาย้ำต้องโปร่งใส
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า นายกฯให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก รัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการ หากมีผู้เสียชีวิตครอบครัวจะได้รับเงินตามหลักเกณฑ์รายละ 50,000 บาท ส่วนกรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจะได้เงินช่วยเหลือประมาณ 200,000 บาทต่อหลัง เพื่อใช้เป็นค่าวัสดุก่อสร้าง และบ้านเรือนที่เสียหายบางส่วนจะช่วยเหลือตามความเป็นจริงตั้งแต่ 15,000 - 70,000 บาท รวมทั้งยังมีการช่วยเหลือจากสถาบันเฉพาะกิจต่าง ๆ เช่น ธ.ก.ส. ธอส.ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติที่ผ่านมา จึงขอให้พี่น้องผู้ประสบภัยมั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน ส่วนการจัดการเงินสิ่งของที่ได้รับบริจาคมานั้น จะดำเนินการโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกจังหวัดมีคณะกรรมการดูแล นายกฯสั่งการให้ทุกหน่วยทำงานรอบคอบรัดกุม ต้องไม่มีการร้องเรียนเรื่องทุจริตอย่างเด็ดขาด
ท่วมอุบลฯขาลงน้ำมูลต่ำกว่าตลิ่ง12ซม.
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจ.อุบลราชธานีว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานีอยู่ที่ 4,920 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม../วินาที) ลดลงจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน ซึ่งอยู่ที่ 5,130 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนระดับน้ำสูง 10.73 เมตรลดลงจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน ซึ่งอยู่ที่ 10.88 เมตรลดลง 7 เซนติเมตร ขณะนี้ระดับน้ำฝั่งอ.เมืองอุบลราชธานีต่ำกว่าตลิ่ง 12 เซนติเมตรแล้ว ส่วนฝั่งอ.วารินชำราบซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำล้นตลิ่งอยู่กว่า 3.73เมตร ซึ่งสถานการณ์น้ำอยู่ในช่วงขาลงและกลับสู่ตลิ่งวันที่ 29 กันยายน ทั้งนี้ การระบายน้ำลงแม่น้ำโขง ทำได้เร็วขึ้นเป็นผลจากการเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำ ซึ่งติดตั้งบริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร ที่อ.โขงเจียมซึ่งแม่น้ำมูลจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง มากกว่า 200 เครื่อง ช่วงนี้ระดับน้ำแม่น้ำโขงยังต่ำ ทำให้การดันน้ำออกปากแม่น้ำมูลได้สะดวก ลดความเดือดร้อนของประชาชนให้น้อยที่สุด ตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯเร่งดำเนินการให้คลี่คลายอุทกภัยภาคอีสาน แนวลุ่มน้ำชี-มูล ให้กลับสู่ปกติทุกพื้นที่ก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้
น้ำเหนือลดเขื่อนลดปล่อยน้ำอีก50ลบ.ม.
นายทองเปลวกล่าวถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาว่า ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้ระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 750 ลบ.ม.ต่อวินาที จากการติดตามสถานการณ์น้ำเหนือจากสถานีวัดน้ำ C 2 จ.นครสวรรค์ลดลงตามลำดับ คาดว่า วันที่ 17 กันยายน อาจปรับลดการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงอีก 50 ลบ.ม.ต่อวินาทีเป็น 700 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะนี้พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณคลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อ.เสนาและผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยาน้ำอยู่ที่ระดับตลิ่ง ไม่เอ่อล้นท่วมพื้นที่นอกคันกั้นน้ำแล้ว เมื่อลดการระบายน้ำอีก พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จึงสบายใจได้
สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้วมี 16 จังหวัด ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมรวม 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สกลนคร นครพนม ศรีสะเกษ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และตราด
ยอดบริจาคสมทบบิณฑ์ทะลุร้อยล.
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวกรณี บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมที่จ.อุบลราชธานีด้วยตัวเอง หลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้วพบว่าหลายครอบครัวเดือดร้อนหนักมากว่า หลังประชาชนทราบข่าวดังกล่าว ต่างร่วมบริจาคสมทบกับบิณฑ์จำนวนมากจนทะลุเกิน 100 ล้านบาทแล้ว
โดยบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแสว่า ตอนแรกตั้งเป้า มีครอบครัวผู้ประสบภัยกว่า 12,500 ครอบครัว จะมอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวละ 1,000 บาท แต่ตอนนี้ยอดเงินได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ตอนนี้ยังบริจาคได้เรื่อยๆ เพราะถ้าน้ำลดแล้ง ยังต้องมีการฟื้นฟูอีกมาก หากใครต้องการบริจาค ทำบุญด้วยกันคนละ 20-50 บาท จะช่วยได้อีกเยอะ กับหมายเลขบัญชี 0541226540 ธ.กสิกรไทย ชื่อบัญชี บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นอกจากนี้ บิณฑ์ยังระบุด้วยว่า คิดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญมาก ถ้ามีเงินเข้ามามากพอ จะซื้อพัดลม หม้อหุงข้าวให้ชาวบ้านที่ไม่เหลืออะไรเลย ตั้งใจว่าจะช่วยเหลือตลอด หลังน้ำลดต้องเข้าไปฟื้นฟูจิตใจให้เขาสบายใจด้วย
เกาะช้างน้ำลดบ้านรีสอร์ทเสียหายอื้อ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมเกาะช้าง เกาะกูด จ.ตราด หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องนั้น วันเดียวกันนี้ นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนันต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราดเผยว่า หลังฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติม ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเกาะช้างคลี่คลายสู่สภาวะปกติ และทิ้งร่อยรอยความเสียหายจำนวนมาก โดยที่บ้านเรือน โรงแรม และรีสอร์ท ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งยังต้องสรุปความเสียหายจากทางอำเภออีกครั้ง ส่วนสะพานที่คลองพลูขาดนั้น ต้องซ่อมแซมอีกนาน แต่เบื้องต้นการไฟฟ้าเกาะช้างนำเสาไฟฟ้ามาวางเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าข้ามไปขึ้นรถยนต์ที่อ.เกาะช้างเตรียมไว้ส่งกลับกรุงเทพแล้ว
อ.เมืองตราดอ่วมฝนถล่มน้ำป่าทะลัก
ที่อ.เมืองตราด มีฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะบนเขาบรรทัด ทำให้น้ำป่าไหลจากเขาบรรทัดลงมาที่ต.ตะกาง และต.ชำราก นายสมเดช โสภณดิเรกรัตน์ ผู้อำนวยการแขวงการทางตราด เปิดเผยว่า ถนนสุขุวิทกม.ที่423+200 ในต.ชำราก มีน้ำท่วมทางระดับความสูงเกือบ 1 เมตรและเพิ่มระดับต่อเนื่อง รถยนต์ทุกชนิดผ่านไม่ได้ เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 3271ตอน เนินสูง-ด่านชุมพลระหว่างกม4+100-4+400 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม. ระดับน้ำ ท่วมขัง 2 ช่องจราจร สัญจรผ่านไปมาไม่ได้ นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง อ.เมืองตราด มีน้ำล้นลงมาจากอ่างเก็บน้ำ และไหลลงคลองห้วยแร้งทำให้หลายหมู่บ้านในต.ท่ากุ่ม และต.ห้วยแร้งมีน้ำท่วม สวนยาวพาราและพืชผลทางการเกษตรได้รับผลกระทบจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี