'เสรีพิศุทธ์'เช็คบิล'ธรรมนัส’ตั้งอนุกมธ.สอบ"ธรรมนัส"ทั้งกรณีถูกกล่าวหาพัวพันยาเสพติด-ปมวุฒิฯป.เอก เตรียมเบิอกงบหลวงเดินทางไปหาข้อมูลต่างประเทศ พร้อมเรียกเจ้าตัวมาชี้แจง พิลึกถ้า‘บิ๊กตู่’ ปรับออกพร้อมยุติเรื่อง
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 25612 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ) สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ว่า การที่มีข่าวปรากฏหน้าสื่อมวลชนว่า ทางคณะกรรมาธิการฯ หลายคณะ จะมีการใช้งบประมาณที่เหลือให้หมด เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งเงินให้คลังนั้น ทางคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.จะต้องทำตามกรอบ ระเบียบและกฎหมายเพื่อให้เป็นตัวอย่างของ ส.ส. และประชาชน
เพราะฉะนั้นตนจึงกำชับกรรมาธิการฯ ทุกคนว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่ไม่กี่วันนั้น การจะใช้งบประมาณ ที่ไม่จำเป็นต่างๆ ห้ามใช้เด็ดขาด เพราะถือเป็นเงินภาษีของประชาชน ส่วนเรื่องที่ค้างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ตั้งแต่ปี 2555 – 2556 เป็นต้นมาทั้งหมด 135 เรื่องนั้น ทางกรรมาธิการ ป.ป.ช. ก็จะมีการเร่งพิจารณา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และข้าราชการให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว โดยจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเรื่องเหล่านี้ ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน และจะนำมารายงานให้ทางคณะกรรมาธิการทราบ รวมทั้ง ขณะนี้ก็มีเรื่องร้องเรียนให้พิจารณาอีก 5 – 6 เรื่อง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจคือ คุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีข้อครหาในคดีคดีค้ายาเสพติด และกรณีถูกกล่าวหาเรื่องวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาเอกนั้น ทาง กมธ. ป.ป.ช. ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว 2 คณะ คือ ซึ่งมี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย และ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ รับผิดชอบตรวจสอบ
ทั้งนี้ ทั้ง 2 กรณี ซึ่งมีความจำเป็นในการเดินทางไปยังต่างประเทศ โดยจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ หาข้อเท็จจริง ทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลที่ต่างประเทศ โดยมีกรอบเวลาตรวจสอบ และหาพยาน ใน 30 วัน อย่างไรก็ตามการใช้งบประมาณที่จะเดินทางไปยังต่างประเทศนั้น กมธ.ฯเตรียมเสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อนุมัติ โดยระหว่างรออนุมัติงบประมาณนั้น จะดำเนินการติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของต่างประเทศไปพลางก่อนการเดินทาง
"ความจริงกรณีนี้ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ในการที่จะตรวจหาข้อเท็จจริง ก่อนที่จะตั้งคุณธรรมนัส เป็นรัฐมนตรี เพราะนายกฯ เป็นผู้ที่ตรวจสอบว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งในช่วงนั้น ก็ปรากฏเป็นข่าวอยู่แล้ว แต่ก็มีการผลักดันให้คุณธรรมนัส เป็นรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลใช้คุณธรรมนัส เป็นไม้เป็นมือในการทำงาน แม้กระทั่ง เอากล้วยไปให้ลิงกินก็ยังใช้เลย ซึ่งตรงนี้ ถือเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องตรวจสอบ ขณะนี้ประชาชนผู้หวังดี ต่างส่งข้อมูลเกี่ยวกับกรณีร.อ.ธรรมนัส เป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง กมธ.ป.ป.ช. ก็จะมีการค้นหาพยานบุคคลมาประกอบให้ชัดเจนด้วย ซึ่งจะมีการเดินทางไปยังออสเตรเลีย เพื่อค้นคำพิพากษา และต้องไปที่สหรัฐอเมริกา เพื่อตรวจสอบวุฒิการศึกษาด้วย ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวด้วยว่า กล่าวด้วยว่าหลังจากที่อนุกมธ.ฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แนวทางต่อไปคือการพิจารณาเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง อาทิ ร.อ.ธรรมนัส และบุคคลที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาชี้แจงต่อที่ประชุมด้วย อย่างไรก็ตามการตรวจสอบดังกล่าวกมธ.ฯ ไม่ตั้งใจที่จะให้ศาลประเทศออสเตรเลียนำตัวพล.อ.ธรรมนัส กลับไปจำคุก แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นตนมองว่าเข้าข่ายขัดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ทั้งนี้กมธ. พร้อมยุติการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปรับรัฐมนตรีที่มีปัญหาออก และนำคนดีมาทำงานรับใช้ประชาชนแทน
“ผมยืนยันว่าการทำงานของกมธ.ไม่มีปาหี่ และไม่เกรงกลัวใคร ทั้งนี้กมธ.ปราบทุจริตที่มีกมธ.มาจากหลายพรรคการเมืองรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยนั้น หากจะนำข้อมูลไปแจ้งกับฝ่ายรัฐบาล ไม่มีปัญหาเพราะสิ่งที่กมธ.ฯ พิจารณานั้นไม่มีประเด็นใดเป็นความลับ ทั้งนี้ผมยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวผมเป็นผู้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องนี้เอง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี