ฝ่ายค้านรุมถล่มทั้งวัน
‘บิ๊กตู่’ไม่ตอบ
มอบให้วิษณุชี้แจงแทน
รองนายกฯย้ำถวายสัตย์
ศาลรธน.วินิจฉัยชัดแล้ว
รบ.เดินหน้าทำงานต่อไป
วันนอร์ขู่เอาผิดจริยธรรม
“ชวน” เปิดเวทีอภิปราย “บิ๊กตู่” ปมถวายสัตย์ฯไม่ครบ “สมพงษ์” ย้ำจงใจทำขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่ “อนุดิษฐ์” จี้ลาออกเพื่อรับผิดชอบ “ปิยบุตร’” ซัดเป็นโรคไม่แยแสรธน.ขาดภาวะผู้นำ “เสรีพิศุทธ์” ชี้เข้าข่ายลบหลู่สถาบัน หวั่นทำรัฐประหารซ้ำอีกไม่แก้ไขเท่ากับ“รบ.โจราธิปไตย”แนะยึดคำ“ป๋าเปรม”พอแล้วและลาออก ด้าน“วันนอร์”ขู่ยื่นป.ป.ช.สอบนายกฯผิดจริยธรรมร้ายแรงต้องพ้นเก้าอี้-ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง แนะลาออกก่อนดีกว่า
เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 18กันยายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดประชุมเพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไป ตามญัตติที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านกับพรรคฝ่ายค้านอีก 205คน ได้เสนอเพื่อสอบถามกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ
‘ชวน’ไฟเขียวเปิดซักฟอกนายกฯ
โดย นายชวน ได้ชี้แจงถึงขั้นญัตติขั้นขั้นตอนในการอภิปราย กระทั่ง นายวีระกร คำประกอบ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ทักท้วงว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งไม่รับวินิจฉัยกรณีดังกล่าว เนื่องจาก เป็นการกระทำระหว่างรัฐบาลกับองค์พระมหากษัตริย์จึงถือว่า ญัตตินี้ไม่มีผล รวมทั้ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ส.ส. ราชบุรี พรรคพปชร.ก็ได้ทักท้วงในประเด็นนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายชวน ชี้แจงว่า ศาลรัฐธรรมนูญเพียงแต่มีคำสั่งไม่รับพิจารณาไว้วินิจฉัย ไม่ใช่เป็นคำวินิจฉัยของศาล จึงไม่มีผลผูกพันและสภาได้พิจารณาญัตตินี้ด้วยความรอบคอบแล้วเห็นว่าเป็นเพียงการสอบถามหาข้อเท็จจริงและมีการเสนอแนะเท่านั้น ไม่ได้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมทั้งได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว ดังนั้นขอยืนยันว่า หากมีอะไรผิดรัฐธรรมนูญประธานสภาก็ต้องรับผิดชอบ
‘สมพงษ์’ซัดกระทำขัดรัฐธรรมนูญ
จากนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นกล่าวเปิดอภิปรายตาม มาตรา152ของรัฐธรรมนูญ โดยย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยต้องเป็นไปตามมาตรา161ของรัฐธรรมนูญ แต่กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ จึงมีปัญหาเรื่องความครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลายฝ่ายเสนอทางออก แต่นายกฯก็ยังเพิกเฉย จึงเป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่ต้องอภิปราย
ทำไมไม่อ่านเอกสารสำนักนายกฯ
นายสมพงษ์ ยังย้ำถึงหลักการของการถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าสถาบันอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถวายสัตย์ ซึ่งนายกฯต้องกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญมาตรา161 บัญญัติไว้ จะกล่าวยาวกว่าหรือน้อยกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไม่ได้ เมื่อนายกฯไม่ได้กล่าวถ้อยคำนี้ จึงถือเป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เคยผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณตนมาหลายรอบ แต่มีเจตนาใดที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนครั้งนี้ไม่ครบถ้วน เหตุใดจึงไม่ใช้เอกสารที่สำนักนายกรัฐมนตรีจัดเตรียมไว้ให้
ไม่แจงที่มางบประมาณ-ขัดรธน.
นายสมพงษ์ ยังกล่าวสรุปย้อนไปถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่การฉีกรัฐธรรมนูญด้วยการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22พฤษภาคม2557และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทั้งการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนและการไม่ชี้แจงรายละเอียดงบประมาณในการดำเนินนโยบาย ถือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง ซึ่งบทเรียนเรื่องนี้นายกฯไม่แสดงถึงความมีวุฒิภาวะ ไม่รับฟังข้อท้วงติงจากทุกฝ่าย จนก่อให้เกิดความเสียหายเป็นลูกโซ่ทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น เพราะจงใจกระทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหลักกฎหมายสำคัญของประเทศ เมื่อความเชื่อมั่นไม่เกิด ความยอมรับนับถือจึงไม่มี
‘อนุดิษฐ์’จี้นายกฯต้องลาออก
ต่อมา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ลุกขึ้นอภิปรายตอกย้ำในประเด็นดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงความจงใจกระทำขัดรัฐธรรมนูญกรณีการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน รวมทั้งกรณีที่ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไม่ได้ระบุถึงที่มาของงบประมาณ โดยในตอนท้าย น.อ.อนุดิษฐ์ ได้เรียกร้องกลางสภาฯให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯด้วย
‘บิ๊กตู่’เข้าสภาฯสีหน้าเรียบเฉย
เวลา 09.42น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงรัฐสภายเพื่อร่วมอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ซึ่งนายกฯมีสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่า รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ที่จะต้องมาชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ทั้งนี้ ครม.ได้ทยอยเดินทางเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง
ฮือฮาวางหนังสือทำลายปท.บนโต๊ะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เป็นที่สังเกตว่า บนโต๊ะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีการนำรายงานที่มีหน้าปกเขียนว่า “โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ” วางไว้ในช่วงที่ฝ่ายค้านกำลังอภิปราย ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับบรรดาช่างภาพสื่อมวลชนที่เห็นเป็นอย่างมาก โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า รายงานฉบับดังกล่าว เป็นข้อมูลที่หน่วยข่าวความมั่นคงทำสรุปขึ้นมาเพื่อเรียนนายกฯและเป็นการรายงานข่าวตามปกติ โดยมีเนื้อหารายละเอียดเกี่ยวข้องและโยงเครือข่ายไปถึงฝ่ายการเมือง ซึ่งมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วการทำรายงานของหน่วยข่าวต่างๆนั้น ได้เป็นการทำรายงานนำเสนอตามปกติ ซึ่งจะไม่มีการเผยแพร่ เนื่องจากเป็นข้อมูลด้านความมั่นคงและอ่อนไหวต่อสถานการณ์
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เอกสารดังกล่าวที่สื่อมวลชนเผยแพร่ เป็นเอกสารที่ฝ่ายความมั่นคงสรุปข้อมูลส่งให้กับนายกฯ ซึ่งถือว่าเป็นความลับ ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้
‘ปิยบุตร’สงสัยทำ5ครั้งทำไมยังผิด
นายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้อภิปรายว่า การที่ตนได้หยิบยกประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯของ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นมาหารือและอภิปราย ช่วงการแถลงนโยบายรัฐบาลในช่วงเดือนกรกฎาคม เพราะถือเป็นประเด็นสําคัญและส่งผลต่อความสมบูรณ์ของครม.ซึ่ง
ถ้อยคำที่หายไปคือ”ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ’หมายความว่านายกฯ จะเข้ารับหน้าที่โดยไม่รักษาไว้และไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กำหนดไว้หรือไม่ เป็นสิ่งที่คนเคลือบแคลงสงสัย อีกทั้ง ตนได้ตรวจสอบการถวายสัตย์ฯ 5 ครั้ง พบว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวนำปฎิญาณถวายสัตย์ครบถ้วนทั้งหมด แต่ในครั้งวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายกฯ กลับอ่านไม่ครบถ้วน ผมนิยามว่า เป็นอาการของโรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ เพราะนายกฯ ไม่ให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญ และยังเป็นโรคที่ไม่รับผิดชอบ ขาดความเป็นผู้นำจากคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ที่บอกว่าพูดจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว จึงตั้งคำถามว่าท่านจะรับผิดชอบแบบไหนในทางการเมือง
จี้นายกฯลาออกแสดงรับผิดชอบ
นายปิยบุตร ยังกล่าวในช่วงท้ายว่า นายกฯนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ โดยไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ นั้น ตนขอเรียกร้อง ให้ นายวิษณุ กลับมาเป็นคนเดิม ยุติการให้ความเห็นความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากเรือแป๊ะ ออกมาอยู่ในความยุติธรรม
“ผมไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไป เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ผมขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งครับ” นายปิยบุตร กล่าว
‘เสรีพิศุทธ์’คาดหวังทำรัฐประหารอีก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยและสส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายว่า
รัฐธรรมนูญระบุว่า ครม.ต้องกล่าวคำถวายสัตย์ฯให้ครบถ้วนจึงจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่รัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างไรก็ไม่สนใจ เป็นไปได้หรือไม่ที่จิตใต้สำนึกของท่านไม่ได้ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ท่านจึงอาจคิดว่าจะทำการรัฐประหารอีกได้ จึงไม่ยอมกล่าวคำถวายสัตย์ฯให้ครบถ้วน เมื่อรัฐบาลเข้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แล้วฝ่ายค้านจะปล่อยให้ท่านทำหน้าที่บริหารประเทศได้อย่างไร หากให้บริหารราชการแผ่นดินแล้วเกิดความเสียหาย นายกฯจะรับผิดชอบไหวหรือไม่ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง
ไม่แก้ไขเป็นรัฐบาลโจราธิปไตย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนไม่เข้าใจว่านายกฯปล่อยให้คนที่เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลออกมาข่มขู่สมาชิกฝ่ายค้านว่า ให้อภิปรายให้ดีๆ ถ้าอภิปรายไม่ดีมีเรื่องแน่ นายกฯปล่อยให้คนออกมาพูดแบบนี้ได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นสังคมก็อาจจะเข้าใจได้ว่า เป็นรัฐบาลโจราธิปไตยได้ ส่วนที่บอกว่า คุมได้ทุกเรื่องนั้น ตนเชื่อว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่คุมไม่ได้คือ นายกฯคุมสติตัวเองไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะรุ่นพี่ขอแนะนำรุ่นน้อง แม้ว่าท่านจะตัดขาดไปแล้วก็ตามว่า ขอให้เอาอย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งท่านเคยพูดไว้ว่า “ผมพอแล้วครับ” ลาออกเถอะครับ
‘วันนอร์’ขู่เอาผิดพรบ.จริยธรรม
นายวันมูหะมัด นอร์มะทา สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน สิ่งที่ยังไม่พูดถึงคือมาตรฐานทางจริยธรรมตามพรบ.มาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของพล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง ขณะเดียวกันนายกฯเป็นประธานคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมโดยตำแหน่ง แต่กลับไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมเสียเอง ซึ่งสส.สามารถเข้าชื่อ 1ใน5ของรัฐสภายื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา เพื่อส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตรวจสอบตามกระบวนการ หากพบว่ามีมูลความผิดจริงก็ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาต่อไป
ศาลชี้ผิดพ้นเก้าอี้-ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง
‘แต่ผมไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เมื่อศาลฎีกาประทับรับฟ้องตามคำฟ้องของปปช.แล้ว ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา หากมีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกถ่าวหา ผู้ต้องคำพิพากษานั้นต้องพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น จึงอยากแนะนำให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง’ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว
นายกฯแจงที่มางบใช้ทำนโยบาย
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจง เรื่องไม่แจ้งที่มางบประมาณในการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า รัฐบาลไม่อาจระบุได้ว่าจะนำรายได้จากจุดใดมาใช้ในเรื่องใดบ้าง ขอให้รอดูตอนจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี2563 ซึ่งจะรู้ว่าเอางบประมาณจากที่ไหนมาทำบ้าง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังรีดภาษีคนจนเพื่อนำมาเป็นรายได้ หรือ อย่างรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่มีโครงการจำนำข้าว แล้วก็เห็นกันอยู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ยืนยันว่าทุกอย่างทำอย่างถูกต้องทุกประการ ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญที่พูดกันว่าร่างมาเพื่อตนนั้น ก็ไม่จริง เพราะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นคนร่าง อย่ามาโยงกับตน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศที่ประชุมสภาฯ ตลอดช่วงบ่ายนั้น ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนเริ่มอภิปรายเนื้อหาซ้ำ อาทิ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก รวมถึงการไม่ยอมชี้แจงที่มาของงบประมาณในการจัดทำนโยบายรัฐบาล
บิ๊กป้อมชี้หนังสือป่วนปท.ของจริง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯว่า นายกฯชี้แจงครบถ้วนดีและสิ่งที่นายกฯพูดเป็นความจริงทั้งนั้น ส่วนฝ่ายค้านติดใจว่า นายกฯไม่ได้ชี้แจงเรื่องปมถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตอบ เมื่อถามถึงเอกสารโครงข่ายขบวนการทำลายประเทศที่วางอยู่บนโต๊ะของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เห็นหรือไม่และมีอยู่จริงหรือไม่พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เห็นแล้ว ก็ดูเอาเอง เมื่อถามย้ำว่าท่านมีข้อมูลอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็มีข้อมูล เมื่อถามอีกว่า เป็นเครือข่ายในประเทศหรือต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว โดยบอกว่า ตนยังไม่รู้
‘สุทิน’ยอมหั่นซักฟอกถึง18.00น.
นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรอบเวลาการอภิปรายทั่วไป ว่า ฝ่ายค้านต้องปรับเวลาใหม่ เพราะมีพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวกรม พระบรมราชชนก และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เวลา 18.00น.ณ พระลานพระราชวังดุสิต
ทั้งนี้ ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือ เพราะครม.ทุกคนจะต้องไปร่วมพิธี ไม่สามารถอยู่ร่วมชี้แจงได้ ดังนั้นฝ่ายค้านจะปรับเวลาอภิปรายใหม่ไม่เกิน 18.00น.แต่ผู้อภิปรายยัง 15คนเช่นเดิม แต่จะปรับลดเวลาการอภิปรายแต่ละคนลง จึงอยากขอความร่วมมือกับรัฐบาลว่า อย่าตีรวนและประท้วงให้เสียเวลา นอกจากนี้ทราบว่า ฝ่ายรัฐบาลอาจขอให้เลิกประชุในเวลา 16.00 -17.00น.เพื่อเตรียมไปร่วมงานพิธี
นายกฯมอบ’วิษณุ’ชี้แจงฝ่ายค้าน
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลังชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯซึ่งใช้เวลาชี้แจงไป 27นาที โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หลังงานสวดมนตร์จะกลับเข้าสภาฯเพื่อมาตอบคำถามหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า“รับข้อเสนอไว้ทั้งหมด เดี๋ยวมีคนตอบให้ ส่วนเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบเป็นสิทธิที่จะไม่ตอบ เมื่อถามว่า นายกฯยังไม่ได้ชี้แจงเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวมีคนชี้แจง ผมให้แนวทางชี้แจงไปแล้ว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจง เมื่อถามย้ำว่าหลังร่วมพิธีมหามงคลฯนายกฯจะไม่กลับเข้ามาสภาฯอีกแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”งานสวดมนต์เลิก3ทุ่ม ถ้ากลับมา คงเลิกประชุมแล้ว จะเอาอะไรกับตนนักหนา”
รองนายกฯอ้างศาลรธน.ปิดจ็อบ
เวลา 17.20น.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯอภิปรายแทนนายกฯว่า การถวายสัตย์ฯเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องที่ยืนยันต่อองค์ผู้ใช้อำนาจอธิปไตย ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนแบบนี้มาหลายฉบับ กรรมาธิการที่ร่างรัฐธรรมนูญระบุว่า เป็นการยืนยันให้เกิดความไว้วางใจในตัวผู้กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น นั่นคือ พระมหากษัตริย์ จึงเรียนว่า รัฐบาลอาจจะผิด ตนอาจจะผิด แต่เราเข้าใจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างนั้น ในคำวินิจฉัย หรือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญในหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 3 ก็ระบุว่า เป็นเรื่องระหว่างคณะรัฐมนตรีกับพระมหากษัตริย์ เมื่อมีการถวายสัตย์ฯจบลงด้วยการพระราชดำรัสตอบทุกครั้งไป ซึ่งในวันที่ 16ก.ค.เมื่อสิ้นสุดถ้อยคำถวายสัตย์ฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชดำรัสตอบ กรณีนี้ในพระราชดำรัสนั้นในท่อนแรกที่ว่า”ขอถือโอกาสนี้ให้กำลังใจแก่ท่าน ให้ท่านมีความมั่นใจและมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ”ไม่ต้องตีความ นี่คือพระบรมราชานุญาตและปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งคือไม่รับคำร้องทั้งหมด พร้อมคำอธิบายประกอบ ดังนั้นการถวายสัตย์ฯจึงไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบองค์กรตามรัฐธรรมนูญใด ส่วนเรื่องร้องมาตรฐานทางจริยธรรมขอชี้ช่องว่าถ้าคิดว่า มีประเด็นดังกล่าวให้ใช้รัฐรรมนูญไปร้องที่ ปปช.ไม่ใช่ผู้ไต่สวนอิสระ แล้วปปช.จะไปร้องต่อศาลฎีกาก็เป็นไปตามขั้นตอน จึงไม่มีอะไรต้องวิตก ทุกอย่างดำเนินการตามปกติ รัฐบาลมีหน้าที่เดียว คือก้มหน้าก้มตาปฏิบัติงานไปด้วยกำลังใจมุ่งมั่นปฏิบัติตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ตามพระบรมราโชวาทและพรที่ได้รับพระราชทาน
จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนสุดท้ายว่า ฝ่ายค้านไม่สบายใจในการกระทำของนายกฯเพราะกระทำละเมิดกฎหมายมาตลอด หากไม่เตือนสติแนะนำทักท้วง ในอนาคตจะติดเป็นนิสัย ทำให้กังวลกับการไม่เคารพรัฐธรรมนูญ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ ถ้าท่านบอกว่าทำผิดพลาดแล้วจะแก้ไข มันก็จบ ต่างประเทศก็ไม่กังวล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี