รองโฆษกพรรคเพื่อชาติชี้ 3 พฤติกรรม ทำรัฐบาลวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก นับถอยหลังรัฐบาล “บิ๊กตู่” หากยังไม่ปรับท่าที วอนรัฐบาลและกองทัพหากหาทางออกไม่ได้อย่าแก้ไขปัญหาด้วยวิธีรัฐประหารอย่างเดิม ไม่มีฝ่ายใดชนะ แต่คนที่แพ้คือประเทศและประชาชน
22 กันยายน 2562 นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวแสดงความเห็นหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้าน ว่า ตนต้องขอชื่นชมการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้เวทีสภาเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาตอบคำถามหลังจากที่หลีกเลี่ยงการตอบกระทู้มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม แม้ทุกฝ่ายจะเคารพและเห็นตรงกันถึงการใช้สภาเป็นกลไกในการแก้ปัญหาของประเทศตามครรลองระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในเวทีสภาครั้งนี้ ถือว่าสอบตกไม่ได้คะแนนเลยแม้แต่คะแนนเดียว เพราะไม่สามารถตอบคำถามและให้เหตุผลแก่สังคมได้ว่าเพราะเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี(ครม.) จึงกล่าวถวายสัตย์ไม่ครบ แม้ว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตอบคำถามแทน แต่กลับยิ่งสร้างความสงสัยให้กับสังคมมากขึ้นถึงบรรทัดฐานต่อเรื่องนี้ในอนาคตต่อไป
รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ กำลังเผชิญต่อวิกฤตศรัทธาประชาชนมากที่สุดนับตั้งแต่บริหารประเทศมา ซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำที่ผ่านมา 3 ประการด้วยกัน กล่าวคือ 1.การถวายสัตย์ ไม่ครบตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งไม่รับวินิจฉัย และระบุว่าไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใดก็ตาม แต่กระบวนการถวายสัตย์ดังกล่าว ตนมองว่าเป็นการกระทำต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ซึ่งเป็นองค์ประมุขของประเทศ หากมีข้อผิดพลาดประการใดอย่างน้อยรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรแสดงความรับผิดชอบทางใดทางหนึ่ง
2.ภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรีหลายคนยังมีปัญหา และข้อเคลือบแคลงสงสัยจากสังคมเป็นวงกว้าง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม และความชอบธรรมทางการเมือง ที่นักการเมืองยุคใหม่ต้องมีและคำนึงถึงเป็นสิ่งแรก
3.การแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำท่วมของรัฐบาลที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ ประชาชนได้รับผลกระทบและเกิดความเดือดร้อนหลายพื้นที่ แม้จะเข้าใจได้ว่าเป็นภัยจากธรรมชาติ แต่ก็ถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลที่จะต้องรีบเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ให้ทันท่วงที ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถแสดงถึงการมีภาวะความเป็นผู้นำได้ ในขณะที่ภาคส่วนอื่นๆ ทำงานแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วกว่ารัฐบาลด้วยซ้ำไป
“วิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลและผู้นำประเทศครั้งนี้ เป็นครั้งที่ใหญ่หลวงมากที่สุดครั้งหนึ่งประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะอดีตส่วนใหญ่ หลังผู้นำกองทัพยึดอำนาจสำเร็จก็จะปกครองประเทศเพียงระยะหนึ่ง แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งมีรัฐบาลพลเรือน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เพียงปกครองประเทศมายาวนานถึง 5 ปี แต่ยังมีการออกแบบรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรีได้ ไม่รวมถึงระบบการเลือกตั้ง องค์กรอิสระ และกฎหมายอื่นๆ ที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้ง” รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าว
รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามตนอยากให้สังคมไทยร่วมกันพิจารณาถึงหลักการ และเหตุผล ตัดอคติทางการเมืองออกไป ตนเข้าใจฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ แต่วันนี้ประเทศต้องการอนาคต และมีอนาคตที่ดีสำหรับลูกหลานเราในวันข้างหน้า พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงนักการเมืองทุกคนก็ต้องล้มหายตายจากไป แต่สิ่งสำคัญที่เราจะต้องสร้างกันต่อไป คือทำให้ลูกหลานเรา เติบโต และเรียนรู้กับสิ่งที่ถูกต้อง สร้างคุณค่า และการรับรู้อย่างมีเหตุและผล ภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียม และเป็นธรรมสำหรับทุกคน และทุกฝ่าย และตนไม่อยากเห็นวิกฤตศรัทธาครั้งนี้ ลุกลามบานปลาย จนทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นขับไล่ และกลายเป็นความขัดแย้งรอบใหม่ของประเทศ
“วันนี้ยังไม่สายหาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่คิดจะลาออก และยังอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้นำประเทศของคนไทยทุกคนต่อไป ท่านก็ควรจะฟังเสียงของสังคม และฟังเสียงของประชาชนบ้าง เพราะท้ายสุดหากวิกฤตศรัทธาประชาชนสูงมากขึ้นเรื่อยๆ และ พล.อ.ประยุทธ์ ยังหาทางออกและแก้ไขปัญหาจากเรื่องต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ ผมก็ไม่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาล หรือกองทัพ ต้องแก้ไขปัญหาประเทศด้วยวิธีการรัฐประหารแบบเดิมอีก เพราะนั่นก็ยิ่งจะทำให้ประเทศบอบช้ำมากขึ้นกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ไม่มีฝ่ายใดชนะ แต่คนที่แพ้คือประเทศและประชาชน” นายรยุศด์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี