"มท.2"เยือนพม่าร่วมถก10รมต.อาเซียนผนึกต้านภัยพิบัติทุกรูปแบบ ยันไทยพร้อมหนุนร่วมมือ
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ที่กรุงเนปิ ดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ ครั้งที่ 7 โดยมี ฯพณฯ นาย U Henry Van Thio (นาย เฮนรี่ บันทียู) รองประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และผู้แทนจาก 10 ประเทศอาเซียนร่วมด้วย
นายนิพนธ์ กล่าวในที่กระชุมตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในครั้งนี้ ไทยได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานประชาคมอาเซียน ภายใต้หัวข้อ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน เน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและร่วมมือ เชื่อมโยงอาเซียนในทุกๆด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา ไทยได้ขับเคลื่อนงานตามนโยบายและแผนงานที่ได้รับมอบหมายจากการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนในครั้งที่แล้ว โดยเฉพาะปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาคไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการเป็นเจ้าภาพคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียนสำหรับใช้เมื่อเกิดภัยพิบัติ ที่ จ.ชัยนาท ประเทศไทย ทั้งนี้ ตนขอยืนยันในความตั้งใจและความพร้อมของประเทศไทยที่จะสนับสนุนการดำเนินงาน ด้านการจัดการภัยพิบัติ และสนับสนุนการดำเนินงานของอาเซียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูที่นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งในการรับมือภัยพิบัติ ดังนี้
1.การนำแนวความคิดในการสร้างใหม่ให้ดีกว่าเดิมมาใช้ในการฟื้นฟู กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักด้านการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยได้ขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 มีเป้าหมายในการปรับสภาพระบบสาธารณูปโภค การดำรงชีวิต และสภาวะวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาวะปกติ หรือพัฒนาให้ดีกว่าและปลอดภัยกว่าเดิมตามความเหมาะสม โดยประเทศไทยในขณะนี้ประสบกับสถานการณ์อุทกภัยที่รุนแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง ซึ่งนอกจากที่ทุกภาคส่วนจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วนั้น รัฐบาลยังได้กำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือที่ครอบคลุมทั้งในด้านการดำรงชีวิต ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ตลอดจนการฟื้นฟูที่คำนึงถึงการป้องกันผลกระทบในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเหลือระยะเร่งด่วน การฟื้นฟูภาคการเกษตร การพัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติล่วงหน้า การใช้มาตรการทางการเงินและการคลังในการเยียวยาผู้ประสบภัย การฟื้นฟูสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้แข็งแรงกว่าเดิม โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณรวมเกือบ 25,000 ล้านบาท โดยส่วนแรก จำนวน 7,642 ล้านบาท เพื่อให้ท้องถิ่นนำไปใช้ในการการฟื้นฟูซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างขั้นพื้นฐาน และแจกจ่ายให้กับครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยโดยตรง และส่วนที่สอง จำนวน 15,800 ล้านบาท ในการจัดทำโครงการเพื่อป้องกันอุทกภัยและภัยแล้งในระยะยาวอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งการช่วยเหลือที่กล่าวมานี้ ยังไม่รวมถึงค่าเยียวยาอื่น ๆ เช่น เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นเกษตรกรโดยเฉพาะตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 เป็นต้น
2.ความพร้อมในการสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการตอบโต้ภัยพิบัติและสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ภูมิภาคอาเซียนได้รับผลกระทบจากทั้งภัยธรรมชาติ ภัยจากความขัดแย้ง และเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ส่งผลให้พวกเราต้องร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งมากขึ้น การทำงานเพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญ ขอขอบคุณ AHA Centre (อะ-ฮ่า-เซ็น-เตอร์) ที่ทำงานอย่างเข้มแข็งในการนำความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมจากประเทศสมาชิกอาเซียนไปสู่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ และต้องการความช่วยเหลือมาโดยตลอด
รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ในส่วนของประเทศไทยนั้น เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งคลังสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน ภายใต้โครงการ DELSA (เดล-ซ่า) ซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมของอาเซียน คลังสิ่งของช่วยเหลือทางไกลที่ตั้งที่จังหวัดชัยนาทนั้นจะสามารถเปิดใช้งานได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ AHA Centre (อะ-ฮ่า-เซ็น-เตอร์) ในการจัดตั้งคลังสิ่งของช่วยเหลือทางไกลดังกล่าว
"ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการสนับสนุน ให้ความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และองค์ความรู้ ร่วมกับอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในการสร้างชุมชนให้ปลอดภัยและเข้มแข็งเพื่อนำไปสู่ประชาคมอาเซียนที่ปลอดภัย สามารถรู้รับ ปรับตัว และฟื้นคืนกลับจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วให้เป็นรูปธรรม โดยประเทศไทยพร้อมและตั้งใจจะร่วมมือกับทุกประเทศเต็มที่" นายนิพนธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี