"เชาว์"จี้"บิ๊กตู่"รีบจัดการปัญหา3สารพิษ อัดลอยตัวเหนือปัญหา ชี้ปัญหามิใช่พึ่งเกิด แต่มีมาตั้งแต่ยุคคสช.ที่มีม.44อยู่ในมือ ติงอย่าปล่อยให้ชาวบ้านคิดว่าอยู่ใต้อาณัติของกลุ่มทุน ย้อนไหนว่าทุกความสงบจะจบที่"ลุงตู่" หรือที่แท้เป็นเพียงวาทกรรมที่เขียนเสือให้วัวกลัวเท่านั้น
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 นายเชาว์ มีขวด ทนายอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟสบุ๊กส่วนตัว "Chao Meekhuad" ในหัวข้อ เลิกใช้ 3 สารพิษอันตราย "ทุกอย่างสงบ จบที่ลุงตู่" โดยมีเนื้อหาว่า การเรียกร้องให้ยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด คือพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตกลายเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันไม่รู้จักจบสิ้น ทั้งๆที่มีข้อมูลบ่งชี้ชัดว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมไม่มีประเทศไหนในโลกเขาใช้กันแล้วแม้แต่ประเทศผู้ผลิตเองก็ห้ามใช้มีแต่ประเทศไทยซึ่งมีพื้นที่ทำการเกษตรอันดับ 48 ของโลกแต่เป็นผู้ใช้สารพิษอยู่ในอันดับ 4-5 ของโลก
นายเชาว์กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ใช่พึ่งมาพูดกันในตอนนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เคยมีมติให้ยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดนี้ไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ยอมทำตาม
จนกระทั่งมีการร้องเรียนไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินหลายครั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เคยมีมติให้กรมวิชาการเกษตรยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดภายใน 1 ปี พร้อมทั้งส่งความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนายกรัฐมนตรีและครม.รับทราบถึงกรณีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน
ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคณะกรรมการวัตถุอันตรายกลับมีมติยืนยันมติเดิมไม่ฟังข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินอีกด้วย ทำให้ต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติซ้ำอีกครั้งโดยกำหนดเวลา 60 วัน ให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิกการใช้ภายในกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่แล้วก็ไม่มีใครฟังเสียงหรือปฏิบัติตามมติผู้ตรวจการแผ่นดิน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 ที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศเพื่อปรับระดับการควบคุมพาราควอตให้เป็นวัตถุอันตราชนิดที่ 4 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป แต่แล้วเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 คล้อยหลังมติผู้ตรวจการเพียง 5 วัน คณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่ทราบได้ยาดีมาจากไหนยังดันทุรังมีมติย้ำอีกครั้งว่าจะยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิดก็ต่อเมื่อมีสารอย่างอื่นมาทดแทนโดยขอขยายเวลาดำเนินการออกไป 60 วัน
"การโยนลูกกันไปมาระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่ฟังเสียงคำแนะนำหรือมติของผู้ตรวจการแผ่นดินลุกลามไปถึงการนำเอาประเด็นนี้มาโจมตีใส่ร้ายป้ายสีตีกินทางการเมืองว่าเกิดจากพรรคการเมืองนี้รัฐมนตรีคนนั้นทำท่าจะบานปลาย ประชาชนตาดำๆเกิดความสับสนว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร ทั้งทั้งที่ปัญหามิใช่พึ่งเกิดแต่มีมานานแล้วตั้งแต่ยุค คสช.ที่นายกลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี มี ม.44 อยู่ในมือ ทั้งมีข้อมูลข้อเท็จจริงบ่งชี้ชัดแล้วว่า 3 สารพิษเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนและสิ่งแวดล้อมไม่มีประเทศไหนในโลกเขาใช้กันแล้วแม้แต่ประเทศผู้ผลิตเองก็ตาม แต่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาลทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่เคยลงมาจัดการแก้ไขปัญหาว่าจะเอาอย่างไรลอยตัวเหนือปัญหาปล่อยให้หน่วยงานทะเลาะกันไปวันๆ แสดงให้เห็นถึงความต่ำเตี้ยของภาวะความเป็นผู้นำในการตัดสินใจเชิงนโยบาย จนชาวบ้านคิดไปต่างๆนานาว่าเรื่องนี้มีผลประโยชน์ของกลุ่มทุนนำเข้าสารพิษมาเกี่ยวข้อง จึงเรียกร้องให้นายกประยุทธ์รีบจัดการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ไหนว่าทุกความสงบจะจบที่ลุงตู่ หรือที่แท้เป็นเพียงวาทะกรรมที่เขียนเสือให้วัวกลัวเท่านั้น" นายเชาว์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี