ไม่สาดโคลน! "ฝ่ายค้าน"เตรียม106ขุนพลถล่มงบฯ63 โอดควรได้เวลา3วัน ยันไม่อภิปรายซ้ำซ้อน ด้าน"อนุดิษฐ์"เผยเน้นอภิปรายมีประสิทธิพภาพไม่ตั้งโจทย์ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ขณะที่"สุทิน"ลั่นใครโหวตสวนปล่อยสังคมลงโทษ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการ พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมวิป 7 พรรคฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในวาระแรก โดยจากการหารือฝ่ายค้านเราเห็นว่าการอภิปรายควรจะต้องใช้เวลา 3 วัน แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากทางฝ่ายรัฐบาลต้องการอภิปรายเพียงแค่ 2 วัน ทำให้เรายังไม่เห็นด้วยกับกรอบเวลาดังกล่าว ซึ่งต้องเข้าใจว่าการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้มีรายละเอียดมาก มีเอกสารถึง 35 เล่ม กับงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาท ฝ่ายค้านเราได้ประชุมสอบฐานโดยละเอียด เพื่อให้การอภิปรายครั้งนี้ไม่ให้ซ้ำประเด็น ไม่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งหากได้อภิปราย 2วัน จะเกิดความไม่สอดคล้องระหว่างการทำหน้าที่ในสภาของฝ่ายค้าน เราหวังว่าเมือถึงเวลาการประชุม ท่านประธานสภาฯ จะเห็นความตั้งใจจริงในการทำงานของฝ่ายค้าน และเห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ โดยปรับเพิ่มเวลาให้ตามที่เราร้องขอต่อไป
"เราเตรียมความพร้อม เตรียมรายละเอียดอย่างรอบคอบในการอภิปราย วันนี้ได้เชิญตัวแทนสำนักงบประมาณ มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับส.ส. จะทำให้ข้อมูลและอภิปรายได้อย่างมีประสิทธิพภาพ เราไม่ตั้งโจทย์ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เราไม่สาดโคลน ไม่สร้างวาทะกรรมเพื่อทำลายล้าง แต่เราจะทำงานด้วยข้อมูล เอาผลประโยชน์ของประเทศ ประชาชน เป็นตัวตั้ง เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ติดตามฟังการอภิปราย" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเน้นเรื่องของประโยชน์ของประชาชนและการแก้ปัญหาประเทศเป็นหลัก อะไรที่ไม่ดีก็จะท้วงติงและเสนอแนะ ซึ่งถ้าหากรัฐบาลใจกว้างรับฟังคำแนะนำแล้วไปปรับปรุงแก้ไขเราก็พร้อมให้โอกาส โดยหากยอมรับว่าผิดพลาดเราก็อาจจะผ่านให้ นี่คือเจตนาของฝ่ายค้าน แต่ถ้าหากรัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ยังดึงดัน เราก็จำเป็นต้องใช้ศักยภาพที่เรามีและไม่ให้โอกาส ทั้งนี้ ล่าสุดมีผู้เสนอตัวขออภิปรายแล้วทั้งสิ้น 106 คน โดยเป็นของพรรคเพื่อไทย 66 คน พรรคอนาคตใหม่ 33 - 35 คน พรรคเสรีรวมไทย 2 คน พรรคประชาชาติ 2 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 2 คน และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าจะไม่อภิปรายวกวน ซ้ำซาก ซ้ำซ้อน ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ประธานสภาฯ จะไม่ให้เราได้ขึ้นพูด ประธานสภาฯ จึงไม่ควรตัดโอกาสเรา อีกทั้งเวลาในการอภิปรายนั้นก็มีเยอะ จึงไม่มีอะไรที่จะมาบังคับว่าจะต้องอภิปรายโดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน อาจจะเป็น 3 หรือ 5 วันก็ได้ เพราะพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญนั้นก็ไม่ได้ระบุวันปิดเอาไว้ วิปรัฐบาลจึงควรคำนึงถึงข้อนี้ด้วย ทั้งนี้ จำนวนผู้อภิปราย 106 คนนั้น หากให้เวลาเพียงแค่ 2 วัน จะทำให้ 1 คนได้เวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะการจัดทำงบ 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบที่สมบูรณ์ ปีนี้จึงอยากจะสะสางให้เข้าที่เข้าทาง ยืนยันว่าจะไม่ย้อนกลับไปพูดเรื่องที่ผ่านมาจนเสียเวลามากเกินไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำนวนผู้อภิปราย 106 คนนั้น แบ่งตามความถนัดอย่างไร นายสุทินกล่าวว่า การอภิปรายในวันที่ 17 ต.ค.จะไม่มีพรรค จะมีแต่ฝ่ายค้าน ใครที่ถนัดและเตรียมมาในด้านใดก็จะขึ้นพูดในด้านนั้น และสามารถปรับตามสถานการณ์ในสภาฯ ได้ เปลี่ยนคิวขึ้นพูดได้ตามสถานการณ์ ซึ่งเรื่องเดียวกันอาจจะมีคนพูดถึง 5 พรรคก็ได้
ส่วนจะมีเซอร์ไพรส์ที่ทำให้รัฐบาลคาดไม่ถึงหรือไม่นั้น นายสุทินกล่าวว่า เราจะชี้ให้เห็นข้อบกพร่องที่ชัดเจนในหลายด้าน และไม่อยากให้คิดว่าเรารู้ไม่ทัน ซึ่งบางตัวบางส่วนรัฐบาลคิดว่าใช้เทคนิคแล้วเราจะตามไม่ได้ เพราะรัฐบาลติดนิสัยอยู่เหนือกฎหมายมาโดยตลอด ดังนั้น ถ้าหากไม่รับฟัง นอกจากจะไม่ยกมือให้แล้ว ยังอาจจะเป็นการทำที่ผิดกฎหมายอีกด้วย
ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอิสระได้ติดต่อขอร่วมอภิปรายโดยใช้เวลาของฝ่ายค้านด้วยหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ทุกครั้งจะติดต่อมาเพื่อขอเวลา แต่ครั้งนี้ยังไม่เห็นติดต่อมา อย่างไรก็ตาม หากติดต่อมานั้นก็คงต้องดูด้วยว่าจะอภิปรายไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะถ้าเป็นการใช้เวลาของเราแล้วไปยกมือให้กับรัฐบาลก็คงจะไม่ให้
นายสุทิน กล่าวถึงการลงมติในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ว่า เรื่องการลงมติจะต้องมีการหารือในส่วนของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก่อน แต่แน่นอนว่าการลงมติจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะต้องออกเป็นมติพรรค ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องค้านรัฐบาลเสมอไป ทั้งนี้อยากฝากสมาชิกพรรค ที่ต้องลงมติต้องให้ความสำคัญกับมติพรรคด้วย เข้าใจว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ในการลงมติ ซึ่งหากใครลงมติสวนมติพรรค เราก็คงต้องเรียกเข้ามาสอบถามให้อธิบายกัน คงไม่มีการลงโทษอะไร คงต้องปล่อยให้สังคมลงโทษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี