วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เปิดคำต่อคำ‘ธนาธร’เบิกความปมถือหุ้นสื่อ ยกตัวตั้งใจทำการเมืองไม่เหมือน‘ทักษิณ’

เปิดคำต่อคำ‘ธนาธร’เบิกความปมถือหุ้นสื่อ ยกตัวตั้งใจทำการเมืองไม่เหมือน‘ทักษิณ’

วันศุกร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 13.08 น.
Tag : กกต. ชี้แจงศาลรธน. ถือหุ้นสื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญ
  •  

“ธนาธร” เบิกความเป็นพยานปากแรก คดีหุ้นสื่อวี-ลัค มีเดีย เน้นตอบ “จำไม่ได้” ทั้งเรื่องการโอน การขึ้นเงินเช็ค ยื่นปิดบริษัท   8 ม.ค. แค่วันธรรมดาไม่ใช่วันพิเศษ เลือกโอนหุ้นเพราะสะดวก กลายเป็นปัญหาเพราะตอบคำถามนักข่าวผิด จวกกกต.สอบสวนไม่ถูกต้อง ส่งศาลทั้งที่อนุฯยังไต่สวนไม่เสร็จ จ่อฟ้องกกต.หลังคสช.หมดอำนาจ ยกตัวไม่เหมือน “ทักษิณ” ตั้งใจทำงานการเมืองไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 ตุลาคม 2562 ตุลาการรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยความเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดีย เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.หรือไม่


โดยศาลเริ่มต้นอธิบายถึงการไต่สวนพยานทั้ง 10 ปาก ว่า ต้องการทราบว่าการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ของนายธนาธรให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (มารดา) เกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคม 2562 ตามที่นายธนาธรอ้างเป็นข้อเท็จจริงที่รับฟังได้หรือไม่ โดยพยานทั้ง 10 ปาก เป็นทั้งพยานที่รู้เห็นคือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ กับพยานที่เกี่ยวข้องคือพยานที่จะไปดำเนินการต่อหลังการโอนหุ้น 

จากนั้นศาลได้เบิกตัวนายธนาธร ขึ้นเป็นพยานปากแรก โดยศาลได้ซักในเรื่องของการเปลี่ยนชื่อบริษัท การประกอบธุรกิจสื่อของบริษัทวี-ลัค มีเดีย และถ้าจะเลิกบริษัทต้องไปจดแจ้งต่อเจ้าพนักงานหรือไม่

นายธนาธร ชี้แจงว่า มีการโอนหุ้น 675,000 หุ้นให้กับนางสมพรวันที่ 8 มกราคม 2562 โดยก่อนจะชื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย เคยใช้ชื่อบริษัทโซอิด ส่วนจะถือว่าบริษัทประกอบกิจการสื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตีความ แต่ยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปบริหารหรือทำธุรกรรมใดๆในบริษัท เป็นเพียงผู้ถือหุ้น และหลังจดทะเบียนตั้งบริษัทแล้ว การดำเนินธุรกิจซึ่งต้องอนุญาตตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ ก็เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารจะจัดการ ตนไม่เคยเข้าไปรู้เห็นเกี่ยวข้องเลย 

ทั้งนี้ ตนเพิ่งเข้ามาในระหว่างทางคือช่วง 4-5 ปีหลัง เนื่องจากหลังแต่งงาน มารดาอยากให้ลูกหลานและสะใภ้มีงานทำ โดยนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาของตน ซึ่งเคยลาออกจากงานในธนาคารมาเลี้ยงลูก  เมื่อลูกเติบโตขึ้นทำให้ภรรยาของตนว่างงาน นางสมพรจึงชวนให้เข้ามาบริหารบริษัทวี-ลัคมีเดีย  จึงเป็นที่มาของการซื้อหุ้น ส่วนหลังเลิกกิจการวี-ลัคมีเดียแล้วต้องไปจดแจ้งต่อเจ้าพนักงานการพิมพ์นั้น ตนไม่ทราบหลักการ และไม่เคยยุ่งกับกิจการบริษัทนี้ 

จากนั้น ศาลซักถามถึงเหตุผลในการกำหนดให้วันที่ 8 มกราคม 2562 เป็นวันโอนหุ้นทั้งที่ในวันดังกล่าวมีภารกิจหาเสียงใน จ.บุรีรัมย์ 

นายธนาธร กล่าวว่า วันดังกล่าวไม่ใช่เป็นวันพิเศษอะไร ครอบครัวของตนมีบริษัทจำนวนมาก พอสนใจที่จะเข้ามาทำงานการเมือง จึงลาออกจากทุกตำแหน่งในภาคธุรกิจ เริ่มต้นตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561

ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจำไม่ได้จริงๆว่ามีตารางนัดลงพื้นที่หาเสียงก่อน หรือนัดเซ็นโอนหุ้นก่อน แต่ตนมีปฏิทินการทำงานว่าช่วงใดจะลงพื้นที่ภาคใด และโดยปกติตนสามารถทำงาน 2 อย่างได้ภายในวันเดียวกัน ตอนทำงานในภาคธุรกิจทำงานหนักกว่านี้ ดีกว่านี้ 

ในการเดินทางไปหาเสียงที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วต้องกลับมาเซ็นโอนหุ้นที่กรุงเทพฯ  เดิมตนวางแผนจะนั่งเครื่องกลับจาก จ.อุบลราชธานี  แต่เวลาที่ใช้ในการเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ไป จ.อุบลราชธานี ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง เมื่อรวมกับเวลานั่งเครื่องบิน จึงเห็นว่าใช้ ไม่ต่างจากการขับรถกลับบ้านโดยตรง อีกทั้งตนเป็นคนที่หลับง่ายในรถยนต์ เมื่อขึ้นรถแล้วหลับเลย หากต้องขึ้นเครื่องบินจะต้องพบเจอและทักทายผู้คน อาจทำให้ไม่ได้พักผ่อน และไม่เป็นส่วนตัว ตนจึงยอมนั่งรถดีกว่า

โดยออกจาก จ.บุรีรัมย์ ในเวลา 11.00 น. และนั่งรถยนต์มากับนายชัยสิทธิ์ กล้าหาญ คนขับรถเพียง 2 คน ไม่มีพยานอื่นๆเดินทางกลับมาด้วย โดยตนหลับมาตลอดทาง ระหว่างการเดินทางไม่ได้โทรศัพท์พูดคุยหรือติดต่อกับใครเลย เพราะได้นัดหมายกับทนายความไว้แล้วในเวลา 17.00 น. โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ประจำ คือ หมายเลข 081 822 XXXX

ทั้งนี้ ระหว่างที่อยู่ใน จ.บุรีรัมย์ได้ใช้โทรศัพท์คุยกับใครบ้างหรือไม่นั้น ตนจำไม่ได้ 

นายธนาธร ยอมรับว่า ระหว่างการเดินทางมีข้อเท็จจริง 2 จุด คือ รถยนต์ฮุนได หมายเลขทะเบียน 8839 ถูกจับความเร็วที่นางรอง และ อ.คลองหลวง ก่อนจะถึงบ้านพักเลคไซด์วิลล่า ซึ่งเป็นจุดนัดทำสัญญาโอนหุ้นวีลัคมีเดีย ในเวลา 16.00 น.

เมื่อตนกลับถึงบ้านก่อนเวลานัด จึงได้ไปทักทายภรรยาและทนายความ รอจนถึงเวลานัด 17.00 น. เมื่อนางสมพร  นางลาวัลย์ จันทร์เกษม นางกานต์ฐิตา อ่วมขำ และนายณัฐนนท์ อภินันท์ ทนายความ เดินทางมาถึงแล้ว จึงเซ็นโอนหุ้นโดยตนรับรู้เฉพาะส่วนของการเซ็นโอนหุ้นเท่านั้น ตัวพยานไม่แน่ใจว่าแม่หรือทนายความเป็นผู้สั่งการให้ดำเนินการ หลังจากการเซ็นโอนหุ้นยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอีกเลยจนสมัครรับเลือกตั้ง 

ต่อมาศาลซักถามถึงเงินที่ได้รับจากการโอนขายหุ้นวี-ลัค มีเดียว่า มีการนำเช็คกว่า 6 ล้านบาทไปขึ้นเงินอย่างไร

นายธนาธร กล่าวว่า จำไม่ได้แม้จะเป็นเช็คที่มีมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นเช็คใบไหน เซ็นวันไหน เพราะตนมอบหมายให้ภรรยาเป็นผู้จัดการเรื่องการเงินของครอบครัวทั้งหมด และไม่แน่ใจว่าแม่และภรรยาของตนจะไปส่งมอบเช็คกันอย่างไร จะเข้าบัญชีวันไหน แม้แต่เช็คที่ตนได้รับจากการไปร่วมสัมมนาก็มอบให้ภรรยาจัดการ  ตนไม่เคยจับแม้แต่สมุดบัญชี

ส่วนประเด็นที่ถูกซักถามว่าเหตุใดโอนขายหุ้นในเดือนมกราคมแล้วเหตุใดจึงนำเช็คไปขึ้นเงินในเดือนพฤษภาคมนั้น ตนไม่เคยถามและไม่เคยรู้  อาจเป็นเพราะครอบครัวของตนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน  บางทีเช็คก็ติดเสื้อส่งไปซักแห้งก็ส่งกลับมา เรื่องการนำเช็คไปขึ้นเงินช้า เป็นเรื่องที่ภรรยาจะไปจัดการ 

ต่อมาศาลซักถามว่า ขณะที่ได้รับหุ้นวีลัค-มีเดีย  675,000 หุ้นในปี 51 ซื้อมาหรือได้มาโดยเสน่หา

นายธนาธร กล่าวว่า ตนซื้อมาในราคาพาร์ แต่จำไม่ได้ว่าซื้อจากใคร อาจะเป็นการซื้อหุ้นจากนางสมพร และจำไม่ได้ว่าหลังซื้อหุ้นมาแล้วได้ไปจดแจ้งไปที่นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทหรือไม่ ส่วนการนัดโอนหุ้นในวันที่ 8 มกราคม 2562 นั้น มีการนัดหมายล่วงหน้านานเท่าไร ตนจำไม่ได้ โดยเมื่อตัดสินใจเข้าทำงานทางการเมืองในช่วงปลายปี 2560 ตนได้ลาออกจากทุกตำแหน่ง ต้นปี 2561 ในเดือนมกราคม 2562 ยังไม่มีใครรู้ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นวันไหน โดย พรฎ.เลือกตั้ง ประกาศในช่วงปลายเดือนมกราคม

ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมวันไหนเราก็นัดวันนั้น เนื่องจากครอบครัวของตนมีกิจการหลายบริษัท  ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2562 ได้ทยอยก็ทำมาเรื่อยๆ  วันที่ 8 มกราคม 2562 จึงไม่ใช่วันสำคัญอะไร  เพราะทำมาอย่างต่อเนื่อง

ธุรกรรมสุดท้ายคือเดือนเมษายน ตนไม่ได้โอนเฉพาะหุ้นวี-ลัค มีเดีย เพราะมีหุ้นอยู่ 30 บริษัท  ตนทำธุรกิจมา 20 ปี ซื้อขายหุ้นไทยและต่างชาติเป็นร้อยๆครั้ง ไม่มีครั้งใดที่ตนไปกระทรวงพาณิชย์ด้วยตนเอง เมื่อเซ็นจบคือจบ ที่เหลือเป็นเรื่องของธุรการของบริษัท  สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นหลังเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้น ตนก็ไม่เคยดูเพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ธุรการ ตนไม่เคยแม้แต่ถือกลับบ้าน

จากนั้นฝ่าย กกต.ผู้ร้องได้ซักถามถึงนางลาวัลย์และนางกานต์ฐิตา ซึ่งร่วมเป็นพยานในเอกสารโอนหุ้น ว่าเป็นพนักงานของบริษัทไทยซัมมิทมานานกว่า 10 ปีใช่หรือไม่

นายธนาธร กล่าวว่า ทั้ง 2 คนไม่ใช่พนักงานของ บ.วีลัค-มีเดีย เพราะได้ปิดกิจการไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 61  แต่พยานทั้ง 2 คนดังกล่าว เป็นพนักงานในเครือบ.ไทยซัมมิท  พร้อมยืนยันว่า ตนไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบ.วีลัค-มีเดีย ส่วนที่ให้บุคคลทั้ง 2 รายนี้มาเซ็นเป็นพยานคงเป็นเพราะนางสมพรเป็นผู้ดำเนินการจัดการ

เมื่อถูกซักถามย้ำไปมาถึงพยานทั้ง 2 ราย นายธนาธรยอมรับว่า รู้จักพยานทั้ง 2 รายนี้ เพราะทำงานไทยซัมมิทมานาน 10 ปี สาเหตุที่ให้มาเป็นพยานเพราะรู้จัก หรือจะให้ผมเชิญคุณ ซึ่งผมไม่รู้จักมาเป็นพยาน 

นอกจากนี้ นายธนาธรยังยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารของบ.วีลัค-มีเดีย เพราะตกลงกับภรรยาว่า ชีวิตครอบครัวกับหน้าที่การงานไม่ควรยุ่งเกี่ยวกัน สามีภรรยาที่ทำงานด้วยกันทะเลาะกันจะมีปัญหาครอบครัว ดังนั้นคนที่บ.ไทยซัมมิทจะไม่เคยเห็นภรรยาของตนเข้าไปบริหาร เช่นเดียวกับพนักงานบ.วีลัค-มีเดีย ก็จะไม่เคยเห็นตนเข้าไปบริหาร 

นายธนาธรยังชี้แจงด้วยว่า แม้จะมีการหารือกับผู้ถือหุ้นเตรียมเลิกกิจการและเตรียมเลิกจ้างพนักงานวีลัค-มีเดีย แต่ยังทำสัญญาแบ่งผลประโยชน์ผลิตนิตยสารจิ๊บจิ๊บกับสายการบินนกแอร์ เนื่องจากเป็นสัญญาจ้างผลิตที่ทำกันไว้ล่วงหน้า ส่วนประเด็นที่กิจการขาดทุนมีหนี้ค้างชำระ 10 ล้านบาท แต่ยังมีการโอนขายหุ้นไปมานั้น ตนไม่ทราบ และไม่เคยยุ่งเกี่ยว ภารกิจจบไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62 

เมื่อถูกซักถามถึงบัญชีเอกสารที่อ้างส่งศาล ซึ่งไม่มีงบการเงินบริษัทวี-ลัค มีเดีย นายธนาธร ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า จำไม่ได้ เพราะเอกสารเยอะมาก  และไม่เห็นว่าการส่งหรือไม่ส่งจะเป็นสาระสำคัญในคดี เช่นเดียวกับเอกสารโอนหุ้นซึ่งติดอากรแสตมป์ ลงวันที่ 8 ม.ค.62  ก็เป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ตนไม่ทราบเช่นกัน  และในวันดังกล่าวที่มีการเดินทางไปปราศรัยที่จ.บุรีรัมย์ ตนจำไม่ได้ว่าเดินทางออกจากจุดใด  อาจไปนอนค้างที่จ.บุรีรัมย์ หากศาลต้องการหลักฐานก็สามารถไปตรวจสอบเพื่อนำมายืนยันได้ เหตุที่จำไม่ได้เพราะศาลอาจไม่ได้เดินทางบ่อยเท่าผม เพราะวันหนึ่งปราศรัย 7 เวที บางวันไป 5 จังหวัด ติดกันทุกเดือน 3-4 เดือน จึงจำไม่ได้จริงๆ 

เมื่อถูกซักถามว่าเหตุใดจึงไม่อ้างนายชัยสิทธิ์ คนขับรถเป็นพยานบุคคล ในชั้นการชี้แจงกับ กกต.

นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไร ประเด็นบุรีรัมย์มากรุงเทพ เกิดขึ้นเพราะตนตอบคำถามนักข่าวผิดเพียงครั้งเดียว จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต  เรามีทั้งใบสั่งและอีซีพาส เวลาสัมพันธ์กันหมดทุกช่วงเวลา แต่คนที่จะจัดการว่าใครควรเป็นพยานคือทนายความ  41 ปี

“ในชีวิตผม นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามานั่งหน้าบัลลังก์  ที่ผ่านมาผมไม่เคยมีคดีเลย” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถูกถามย้ำถึงการจดแจ้งเลิกกิจการบ.วี-ลัค มีเดีย  อย่างเป็นทางการ 

นายธนาธร กล่าวอย่างมีอารมณ์อีกครั้งว่า “จะต้องให้ตอบอีกกี่ครั้งว่าจำไม่ได้” 

ต่อมาทนายความของนายธนาธรได้ซักถามเพื่อให้นายธนาธรชี้ให้ศาลเห็นว่ากระบวนการไต่สวนของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยนายธนาธร กล่าวว่า กกต.มีเอกสารมาถึงตนและนางสมพร เรียกไปให้ถ้อยคำตอนเช้า แต่หนังสือเรียกส่งมาถึงบ้านในช่วงบ่าย ตนไม่มีไทม์แมชชีน ถ้ากระบวนการสอบสวนไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ศาลก็ไม่ควรพิจารณาคดีนี้ และอยากให้ศาลพิจารณาว่า ขณะที่กกต.ยื่นคำร้องต่อศาล อนุกรรมการไต่สวนของกกต.ยังสอบสวนไม่เสร็จ สิทธิของตนในเรื่องนี้ควรได้รับการพิทักษ์ และตนขอสงวนสิทธิถ้าคสช.หมดอำนาจ ตนจะดำเนินคดีกกต. 

“ผมตั้งใจอย่างจริงจังที่จะทำงานการเมืองโดยไม่อยากให้มีเรื่อผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างที่นายทักษิณ ชินวัตร โดนมาก่อน ต้องการให้บ้านเป็นประชาธิปไตย หากศาลตัดสินเป็นคุณกับผม ผมจะออกไปทำเรื่องบายทรัสต์ทันที เพราะต้องการใช้มาตรฐานนักการเมืองตะวันตกในการจัดการผลประโยชน์ทับซ้อน ผมไม่ต้องเข้ามาเพื่อมีผลประโยชน์หรือบริวารห้อมล้อมเหมือนนายทักษิณ  เพราะผมอยากจะเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ ซึ่งถ้ายังอยู่แบบนี้ก็จะเดินต่อไปไม่ได้” นายธนาธร กล่าว 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สว.สำรอง’ยื่น‘5 ไม่’ให้ กกต.ยืนหยัดสอบคดีฮั้วเลือกสว. ‘สว.สำรอง’ยื่น‘5 ไม่’ให้ กกต.ยืนหยัดสอบคดีฮั้วเลือกสว.
  • เกมล้ม‘ภูมิใจไทย’! โฆษก ภท.ลั่นเดินหน้าฟ้องชุดไต่สวน กกต. ปมลากพรรคโยงฮั้วสว. เกมล้ม‘ภูมิใจไทย’! โฆษก ภท.ลั่นเดินหน้าฟ้องชุดไต่สวน กกต. ปมลากพรรคโยงฮั้วสว.
  • กกต.ออกหมายเรียกคดีฮั้วสว.20คน ‘ภท.’โดนยกแผง ผู้นำพรรค‘2น.’ไม่รอด กกต.ออกหมายเรียกคดีฮั้วสว.20คน ‘ภท.’โดนยกแผง ผู้นำพรรค‘2น.’ไม่รอด
  • ‘อนุทิน’รับ‘เนวิน-กก.บห.ภท.’โดนกกต.เรียกแจงคดี‘ฮั้วสว.’ ชี้‘การเมือง’แน่ ‘อนุทิน’รับ‘เนวิน-กก.บห.ภท.’โดนกกต.เรียกแจงคดี‘ฮั้วสว.’ ชี้‘การเมือง’แน่
  • ‘นันทนา’ปลุก‘กกต.-DSI’กล้าหาญทำคดีฮั้วสว.ถึงที่สุด แฉถูกคุกคาม ขวางนั่ง กมธ. ‘นันทนา’ปลุก‘กกต.-DSI’กล้าหาญทำคดีฮั้วสว.ถึงที่สุด แฉถูกคุกคาม ขวางนั่ง กมธ.
  • เปิดลิสต์‘บิ๊กเนม’สส.ภูมิใจไทย’ กกต.เรียกแจงปมถกโยง‘ฮั้วสว.’ เปิดลิสต์‘บิ๊กเนม’สส.ภูมิใจไทย’ กกต.เรียกแจงปมถกโยง‘ฮั้วสว.’
  •  

Breaking News

รู้จัก‘พี่ฮวด’ ล่ามแปลภาษาเขมรในคลิปเสียง‘อิ๊งค์-ฮุนเซน’

‘อนุทิน’รับลูกพรรคไม่แฮปปี้ ปมคลิปเสียง‘นายกฯ-ฮุนเซน’หลุดฉาว

เอกฉันท์!ชาวเน็ตแห่จี้‘รทสช.’ถอนตัวรัฐบาล ชี้‘นายกฯ’หมดความชอบธรรมแล้ว

พัทยาจับต่างด้าวกัมพูชา! ช่วยเด็ก 9 ราย เข้าข่ายเหยื่อค้ามนุษย์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved