เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ลงทุนโครงสร้างคมนาคมพื้นฐานมากมาย โดยนำเงินมาจากการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) งบประมาณปี 2563 ได้ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุนปี 2558 - 2565 รวม 1.9 ล้านล้านบาท เน้นการสร้างโครงสร้างคมนาคม เพราะเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างการแข่งขันกับต่างชาติ รัฐบาลไม่สามารถทำเพียงองค์กรเดียวได้ แต่ต้องพึ่งพาเอกชนเป็นแขนขา เพื่อขยายเศรษฐกิจไปข้างหน้า ทั้งนี้เอกชนผู้รับสัมปทานจะต้องกลับมาดูแลชุมชน ถึงจะเติบโตอย่างเข้มแข็งไปพร้อมๆ กัน ดังนั้น การพิจารณางบประมาณในวันนี้ถือเป็นการทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
น.ส.วทันยา กล่าวด้วยว่า พ.ร.บ.งบประมาณในครั้งนี้ หลายฝ่ายอาจจะเป็นห่วงเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำ 2.3 ล้าน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับงบประมาณทั้งหมด ประมาณ 75% ของต้นทุน หรือรายจ่ายทั้งหมดของงบประมาณ จาก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 และการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล อาจจะก่อให้เกิดความกังวลเรื่องรายจ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุน เพราะจะสะท้อนถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ยังกังวลว่าการทำงบขาดดุลของรัฐบาล อาจจะเกิดหนี้สาธารณะ โดยบางคนได้กล่าวว่าสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีหนี้สาธารณะสูงที่สุด ซึ่งหากมองภาพรวมอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่หากดูรายละเอียดจะพบความจริง ว่า ถ้าเปรียบเทียบระหว่างสองรัฐบาลคือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ปีงบประมาณ 2555 - 2557 มีการกู้เงินทั้งสิ้น 950,000 ล้าน เฉลี่ยแล้วมีการใช้เงินกู้ปีละ 4.5 แสนล้าน ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตั้งวงเงินกู้ไว้ทั้งสิ้น 2.1 ล้านล้าน แต่เบิกกู้จริงเพียง 2.04 ล้านล้าน ดังนั้นเมื่อหารจากปีที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้บริหารงบประมาณตั้งแต่ปี 2558 - 2562 รวม 5 ปี พบว่าค่าเฉลี่ยเงินกู้อยู่ที่ประมาณปีละ 408,000 ล้านบาท
น.ส.วทันยา ยังกล่าวต่อว่า เมื่อดูค่าเฉลี่ยต่อปีพบว่ามีการกู้เงินน้อยกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปีละ 38,000 ล้านบาท และหากยังจำได้ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มี 1 โครงการที่เป็นที่กล่าวขานไปทั่วประเทศ นั่นก็คือ โครงการรับจำข้าว ซึ่งขณะนั้นตัวเลขเงินกู้ไม่ได้ปรากฎในร่างงบประมาณ เพราะเป็นการกู้จากงบประมาณกึ่งการคลัง ซึ่งปัจจุบัน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังได้มีการกำหนดเรื่องนี้ไว้ ซึ่งสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีหนี้จากโครงการจำนำข้าว 8.8 แสนล้านบาท ซึ่ง 1 ในภาระเงินกู้ที่รัฐบาลต้องจัดสรรในทุกๆ ปี ส่วนหนึ่งมาจากต้องไปชดใช้ในโครงการนี้ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1.5 แสนล้านบาท หรือ 7.5% จากเงินกู้ทั้งหมดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี