เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาลงมติในวาระรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท วันที่ 3 วันสุดท้าย ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.33 น. ซึ่งบรรยากาศการอภิปรายตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการประท้วงกันบ้างเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ
จนกระทั่งเวลา 20.10 น.ภายหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นกล่าวสรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า ตนขอขอบคุณ ประธานและสมาชิกผู้ทรงเกียรติที่ได้มีการอภิปรายอย่างหลากหลาย ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่รัฐบาลเสนอในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ตน ขอเรียนว่าการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศตลอดจนแผนและนโยบายต่างๆ โดยมุ่งเน้นการเร่งสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นควบคู่กับการสร้างความสามารถ การแข่งขันและเสริมสร้างศักยภาพคน เพื่อการพัฒนาประเทศให้สมบูรณ์ทุกด้าน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบูรณาการทั้งในมิติของกระทรวง หน่วยงาน มิติยุทธศาสตร์ มิติพื้นที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดความซ้ำซ้อน และกระจายผลประโยชน์สู่ประชาชนประชาชนโดยตรงอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม สร้างความเข้มแข็งให้กับทุกองค์กร ทุกภาคส่วน โดยมุ่งหวังให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยังยืน
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับความเห็นและข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่สมาชิกทุกคนได้อภิปรายไว้จะขอฝากให้คณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่สภานี้ได้ตั้งขึ้น นำไปใช้พิจารณาประกอบในการพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบยิ่งขึ้นรวมทั้งเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนตามที่เราทุกคนมุ่งหวังไว้ทุกประการ
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการวาระที่ 1 โดยคะแนนเห็นด้วย 251 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 234 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากจำนวนสมาชิกในห้องประชุม 488 คน และเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ จำนวน 64 คน ประกอบด้วยสัดส่วนจากคณะรัฐมนตรี 15 คน พรรคการเมือง 49 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 13 คน พรรคพลังประชารัฐ 12 คน พรรคอนาคตใหม่ 8 คน พรรคประชาธิปัตย์ 5 คน พรรรภูมิใจไทย 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 1 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คนและพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน ก่อนปิดประชุม
ทั้งนี้ การลงมติวันนี้ พรรคเพื่อไทย มี ส.ส.หายไป 3 เสียง คือ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น ที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ และนายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ ส.ส.บึงกาฬ และนายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี ที่ป่วยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี