เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเป็นหนึ่งใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ว่า มาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุว่า สภาฯมีอํานาจเลือกบุคคลผู้เป็น ส.ส.หรือมิได้เป็น ส.ส.ตั้งเป็น กมธ.วิสามัญเพื่อกระทํากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ และรายงานให้สภาฯทราบตามระยะเวลาที่กําหนด ดังนั้นการเสนอชื่อนายธนาธร ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราว ในระหว่างรอคำวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ นายธนาธร ในกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชน เข้ามาเป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 นั้นกระทำไม่ได้
"ถ้านายธนาธร เข้ามาในฐานะ ส.ส.และตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงทำหน้าที่ ส.ส.ไม่ได้ ส่วนจะใช้สิทธิ์คนนอกก็มีคำถามว่านายธนาธรเป็นคนนอกหรือไม่เพราะยังมีสมาชิกภาพ ส.ส.อยู่ ดังนั้นในช่วงเช้าวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ผมจะไปยื่นคำร้องเพื่อให้กรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ตรวจสอบ และในช่วงบ่ายจะไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความคุณสมบัติของนายธนาธรที่จะร่วมเป็น กมธ.วิสามัญ ว่าสามารถทำได้หรือไม่"นายสิระ กล่าว
และว่า ขอฝากไปถึงนายธนาธร ว่าหากอยากเป็น กมธ.วิสามัญให้ลาออกจาก ส.ส. เพื่อใช้สถานะคนนอก ตนจะไม่ยื่นตีความดังกล่าว แต่ตนไม่เข้าใจว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายหรือเป็นเพราะว่าทั้งพรรคไม่มีผู้ที่เหมาะสมจะทำหน้าที่นี้ จึงต้องเลือกนายธนาธรเข้ามา และไม่มั่นใจว่าเหตุที่เสนอชื่อนายธนาธร เพราะต้องการเข้ามาทำเพื่อประเทศชาติ หรือหวังผลตีรวนทางการเมืองกันแน่ หากเป็นข้อหลัง ตนคิดว่าไม่สมควร เพราะการพิจารณางบประมาณในครั้งนี้เป็นการทำเพื่อนผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี