หลายคนอาจจะทราบว่า “งานด้านความมั่นคง” ส่วนมากเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษ มีส่วนน้อยมากที่จะมี “สุภาพสตรี” เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ เพราะหลายคนอาจคิดว่าการทำงานจะเป็นอุปสรรค! ในวันนี้ “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” จะพาไปรู้จัก “หญิงหัวใจแกร่ง” ที่เข้ามาทำงานด้านความมั่นคงมาแล้วกว่า 8 ปีโดยพูดคุยเกี่ยวกับหน่วยงานที่ชื่อว่า “กอ.รมน.”ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงภายในราชอาณาจักรผ่านมุมมองของหญิงหัวใจแกร่ง “ศรีวัลลภาอนันทวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร”
แรกเริ่มจากการพูดคุย “ศรีวัลลภา อนันทวรรณ” สุภาพสตรีผู้มีหัวใจรับใช้แผ่นดิน ได้เล่าถึงการตัดสินใจเข้ามาทำงานด้านความมั่นคงในตำแหน่ง “ผู้ช่วยเลขาธิการ กอ.รมน. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” ว่า หลังจากจบจากธรรมศาสตร์ สาขาจิตวิทยา ก็ทำงานราชการมาโดยตลอด ตอนแรกบรรจุที่สำนักงาน ก.พ. ซึ่งเป็นองค์กรกลางด้านบริหารงานบุคคลของหน่วยงานภาครัฐจนเมื่อมีพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 และกำหนดให้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ “กอ.รมน.” เป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะ และในปี 2554 ได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้มีอัตราข้าราชการพลเรือนประจำ กอ.รมน. เป็นข้าราชการสังกัด กอ.รมน. นั้นคือจุดเริ่มต้น
เรามองว่า กอ.รมน. มีความน่าสนใจตรงที่เป็นหน่วยงานบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะพลเรือน ทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ การที่ได้มาทำงานที่อยู่บนพื้นฐานของหลากหลาย คือ ความท้าทาย และประสบการณ์ที่มีจากฝ่ายพลเรือนก็น่าจะเป็นประโยชน์กับ กอ.รมน.จึงตัดสินใจที่จะมาทำงานที่ กอ.รมน.
ศรีวัลลภา ให้เหตุผลถึงการเลือกทำงานด้านความมั่นคงด้วยว่า คงต้องขอบอกตรงๆ ว่าตอนนั้นคิดเพียงว่างานราชการเราทำได้หมด เพราะจุดหมายเดียวของการเป็นข้าราชการ คือ “รับใช้แผ่นดิน” การได้เปลี่ยนลักษณะงานได้มาทำงานกับหลากหลายได้พัฒนาศักยภาพตัวเอง ตรงนั้นคือจุดตัดสินใจมากกว่าบวกกับความลงตัวของชีวิตครอบครัวในการเดินทางไป-กลับในการไปรับไปส่งลูก ซึ่งตอนนั้นลูกก็ยังเล็กๆ อยู่ ก็เป็นความลงตัวที่ตัดสินใจมาทำงานที่นี่
ด้วยความที่ครอบครัวก็เป็นครอบครัวข้าราชการกันทั้งบ้าน และการได้มาทำงานรับใช้ชาติ ไม่ว่าจะด้านไหนครอบครัวก็ยินดีสนับสนุน ส่วนที่มองว่าความมั่นคงเป็นเรื่องของผู้ชายนั้น ก็อาจจะไม่ถูกนัก เพราะทุกคนไม่ว่าจะชาย หญิง เด็ก หรือผู้ใหญ่ ทุกคนต่างต้องช่วยกันรักษาความมั่นคงของประเทศปกป้องชาติปกป้องแผ่นดินของเราอยู่แล้ว และโดยพื้นฐานครอบครัวเราเชื่อมั่นและเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่คิดว่าเรื่องใดเป็นเรื่องของชายของหญิงหรือของเพศใดๆ ดังนั้น ตรงนี้จึงไม่เป็นประเด็นในครอบครัว
แต่ที่คุยกันมากๆ เป็นเรื่องของงานที่จะเข้าไปรับผิดชอบมากกว่า และการทำงานด้านความมั่นคงของ กอ.รมน.ต้องขอเน้นว่ามีที่หลัก คือ บูรณาการและประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดวามมั่นคงของรัฐ และความสงบสุขของประชาชนไม่ใช่การออกไปสู้รบ หรือใช้อาวุธ เพราะนั่นคือหน้าที่ของฝ่ายทหาร
ผู้ช่วยเลขาธิการ กอ.รมน.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ยังบอกต่อด้วยว่างานของ กอ.รมน. คือ การอำนวยการประสานงานกำกับดูแล และนำนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐไปสู่การปฏิบัติด้วยการบูรณาการสนับสนุนและเสริมการปฏิบัติของส่วนราชการต่างๆ ในการรักษาความมั่นคง ทั้งในภาวะปกติและภาวะไม่ปกติ ทั้งนี้ ต้องติดตามตรวจสอบแจ้งเตือน วิเคราะห์ และประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
หน้าที่สำคัญอีกอย่าง คือ เสริมสร้างและปลูกจิตสำนึกการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ งานด้านความมั่นคงไม่ใช่การสู้รบไม่ใช่การปราบปราม และเป็นการวางแผนวิเคราะห์ตรวจสอบ มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจ เพื่อไม่ให้นำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง และในความเป็นจริง กำลังพลของ กอ.รมน. นอกจากจะมีข้าราชการประจำที่เป็นข้าราชการพลเรือน แล้ว ยังมีกำลังพลที่ถูกส่งมาช่วยราชการตามโครงสร้าง และภารกิจที่กำหนด ทั้งจากพลเรือน ทหาร ตำรวจ และจากทุกหน่วยงาน มาทำงานบูรณาการกันโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ผอ.รมน. เป็นหัวหน้าส่วนราชการ
ประเทศของเรากำลังเผชิญกับปัญหาความมั่นคงชุดใหญ่ ไม่ใช่จากปัญหาภายในประเทศ ส่วนตัวมองว่าเราต้องเคารพ และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน นั้นเป็นโจทย์ที่สำคัญมากกว่า จึงจะต้องเตรียมพร้อมและหาวิธีรับมือ ทั้งในด้านความมั่นคงระหว่างในประเทศ ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงภายในประเทศ ความมั่นคงทางการเมือง ความมั่นคงของมนุษย์ ความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหาความมั่นคงทางสุขภาพ ยอมรับว่าเรามีจุดอ่อนที่ต้องรีบแก้ไข วางมาตรการเตรียมรับมือให้พร้อม เพราะนับวันยิ่งซับซ้อนมากขึ้น ถ้าไม่เตรียมรับมือในวันนี้ก็จะเป็นปัญหาที่ยากขึ้นในวันข้างหน้า
ผู้ช่วยเลขาธิการ กอ.รมน.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้อธิบายถึงการวางมาตรการด้านความมั่นคงของประเทศให้ฟังด้วยว่า ความมั่นคงของประเทศเรานั้นมีหลายด้าน ทาง กอ.รมน.ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบหลักในแผนการรักษาความมั่นคงฯ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยกระทรวงกลาโหม และส่วนราชการต่างๆ โดยมีแผนแม่บทในการปฏิบัติที่ชัดเจน มีโครงการที่กำหนดไว้แล้วในการดำเนินการ ประสานงาน อำนวยการ และมีเพียงบางเรื่องที่จำเป็นต้องร่วมปฏิบัติในลักษณะเป็นการเสริมการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานเจ้าของเรื่องไปด้วย โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข โดยในปัจจุบันการทำงานของ กอ.รมน.ได้แบ่งกลุ่มภารกิจที่ต้องรับผิดชอบในรูปแบบบูรณาการในการวางแผน อำนวยการ และประสานการปฏิบัติ 5 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มการเสริมสร้างความมั่นคงแห่งรัฐ จะเน้นด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงของสถาบันหลักการสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ
2.กลุ่มการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคม จะเน้นด้านความมั่นคงทางสังคม อาทิ ปัญหาจากยาเสพติด ปัญหาการจัดระเบียบทางสังคม
3.กลุ่มการสริมสร้างความมั่นคงแบบพิเศษจะเน้นความมั่นคงรูปแบบพิเศษ อาทิ ปัญหาการก่อการร้ายอาชญากรรมข้ามชาติ ภัยคุกคามด้านไซเบอร์ ความมั่นคงระหว่างประเทศ
4.กลุ่มการเสริมสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมฯ จะเน้นความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม พลังงานอาหารและปัญหาอื่นๆ
5.กลุ่มเสริมสร้างความมั่นคงเฉพาะพื้นที่จะเน้นความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ การบริหารและพัฒนาสังคม อาทิ การป้องกันและแก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนการพัฒนาสังคมในเฉพาะพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีงานของฝ่ายอำนวยการที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างมวลชนให้มีความเข้มแข็ง เป็นกำลังสำคัญในการรักษาความมั่นคง
“หากถามว่าเรามีมาตรการหรือดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มที่ออกมาก่อกวนนั้นต้องบอกว่าอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน.เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในสภาวะปกติไม่มีอำนาจในการปราบปราม หรือจับกุม ดังนั้น ชื่อกลุ่มที่ว่า “ก่อกวน” คือ “กลุ่มก่อกวน” การปฏิบัติในชั้นต้นการรักษาความสงบภายในก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเกินเลยก็จะมีการดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ซึ่งเกินจากอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน แล้ว” ผู้ช่วยเลขาธิการ กอ.รมน.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กล่าว
พร้อมกับอธิบายและบทบาทหน้าที่เพื่อให้สังคมเข้าใจการทำงานของ กอ.รมน.ทิ้งท้ายด้วยว่า “กอ.รมน.ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมืองของใคร? กอ.รมน. เป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะมีอำนาจหน้าที่ชัดเจนมุ่งเน้นการบูรณาการ อำนวยการ ประสานงาน และคอยติดตามวิเคราะห์ตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ไม่ใช่กองอำนวยการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์เหมือนในอดีต จึงไม่มีหน้าที่ปราบปรามใดๆ มีหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งทางกฎหมายไม่มีการกำหนดหรืออำนาจใดๆ ที่จะไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร”
สำหรับในปี 2563 นั้น กอ.รมน.มีแนวรักษาความมั่นคงไว้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการทำงานต่อเนื่องตามแผนรักษาความมั่นคงภายในปี 2563-2565 เพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ และเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นคงของประเทศตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
นี่คือหน้าที่ของสุภาพสตรีที่ชื่อว่า “ศรีวัลลภาอนันทวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ กอ.รมน.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” หญิงแกร่งหัวใจรับใช้แผ่นดิน
สุชาดา วันทอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี