นายกฯปาฐกถาเปิดเวทีประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจอาเซียน ABIS 2019 ย้ำจุดยืนรัฐบาลไทยผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุคดิจิทัลใช้นวัตกรรมยกระดับเศรษฐกิจ ย้ำหลักสำคัญทำธุรกิจโดยยึดสิทธิมนุษยชน-สิ่งแวดล้อม สั่งพาณิชย์โปรโมทสินค้าจีไอส่งออก เพิ่มรายได้
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2562 เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นการประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจ ASEAN Business and Investment Summit 2019 (ABIS 2019) จัดขึ้นโดยสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย
“ประยุทธ์”ชูไทยแลนด์4.0
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวเปิดประชุมเวทีดังกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานพิธีเปิดและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน ASEAN Business and Investment 2019 ซึ่งสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ASEAN Business Advisory Council (ASEAN-BAC) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจัดขึ้น ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นปีที่สำคัญของประเทศไทยนอกจากได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานอาเซียน ยังเป็นปีที่ภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะองค์กรชั้นนำจัดเวทีเสวนาระดับนานาชาติภายใต้หัวข้อหลัก “สร้างพลังอาเซียน 4.0” เพื่อติดอาวุธทางปัญญาและปูแนวทางไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในยุค 4.0 ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญและผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป้าหมายให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ ใช้นวัตกรรมเป็นตัวช่วยยกระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งระดับมหภาคและจุลภาคของประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และประชาชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาที่ยั่งยืน
หนุนร่วมเอกชนพัฒนาปท.
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยและภาคธุรกิจร่วมมือกันหลายด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน (Public and private partnership or PPP) มีการร่วมทุนขนาดใหญ่ในโครงการ Eastern Economy Corridor (EEC) หลายโครงการ ด้านสังคม การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นปัจจัยเร่งให้ประเทศไทยต้องปรับตัวด้วยการนำนวัตกรรมเข้ามารองรับสังคมรูปแบบใหม่ การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทุกประเทศต้องเตรียมความพร้อม นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือระดับภูมิภาคได้แก่ ACMECS RCEP และ GMS
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนจึงมีความสำคัญมากในการเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการพบปะหารือนำเสนอข้อคิดเห็นเชิงเศรษฐกิจเพื่อให้ภาครัฐนำมาพิจารณาปรับใช้กับยุทธศาสตร์ จึงหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อคิดเห็นหลายเรื่อง และจะเป็นเครื่องมือนำเสนอพัฒนาการในระบบการค้าและการลงทุนของโลก รวมถึงเสนอข้อเสนอแนะในการวางยุทธศาสตร์และแผนรองรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความพร้อมให้อาเซียนปรับตัวเข้ากับสภาวะเศรษฐกิจของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำธุรกิจยึดสิทธิมนุษยชน
นายกฯกล่าวตอนท้ายอีกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องกำหนดเป้าหมายไปด้วยกัน หากกำหนดเป้าหมายไปคนละอันสองอันมันไปไม่ได้ การทำเพื่อส่วนรวม แต่ในส่วนธุรกิจก็เป็นเรื่องธุรกิจในการแข่งขันกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องมีส่วนร่วม ประเด็นสำคัญเราทำเพื่ออะไร เพื่อประชาชนของเราใช่หรือไม่ เมื่อประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติก็ได้ประโยชน์ ธุรกิจเราก็เจริญเติบโต
“สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้คือการประกอบการธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ซึ่งวันนี้ก็ปฏิบัติในหลายประเทศแล้วคือ ต้องเคารพ เยียวยา มีหลักการ และเรื่องการประกอบธุรกิจต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเสมอ หากทุกคนทำความเข้าใจไปด้วยกัน เพื่อจะได้เรียนรู้ว่ารัฐบาลเดินหน้าไปอย่างไร รัฐบาลก็จะเรียนรู้จากภาคธุรกิจและเอกชนว่าจะเดินหน้าอย่างไร และนำมาปรับให้เดินหน้าไปด้วยกัน เราไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ลำพัง ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จและมีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างอาเซียนให้เข้มแข็ง และก้าวสู่สังคมดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืนต่อไป”นายกฯกล่าว
ชมนิทรรศการทรงคุณค่า
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินชมนิทรรศการของภาคเอกชน ซึ่งระหว่างแวะเยี่ยมชมบูธของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือเอสซีจี ซึ่งจัดแสดงผลิตภัณฑ์กระเป๋าสานที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ที่ผ่านการแปลงสภาพแล้ว อาทิ กระดาษ พลาสติก นายกฯให้ความสนใจสอบถามรายละเอียดของกระเป๋าดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า น่าจะรณรงค์ให้คนใช้กระเป๋าแบบนี้กันมากๆ เพราะราคาไม่แพง และช่วยส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ นายกฯทดลองใช้งานบริการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนเส้นเลือดในฝ่ามือ (Palm Vein) ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ที่บูธธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อนเดินไปชมนิทรรศการ “อาเซียน สไตล์” ซึ่งจัดโดยกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย กาแสดงผลงานสินค้านวัตกรรม สินค้าที่ออกแบบดี สินค้าศิลปหัตถกรรมจากภูมิภาคต่างๆของไทย สินค้าจากกลุ่มประเทศอาเซียน
สั่งพณ.โปรโมทสินค้าจีไอส่งออก
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ระหว่างชมนิทรรศการว่า ประเทศไทยเราต้องให้ความสำคัญกับสินค้าจากถิ่นกำเนิด (จีไอ) ให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออกและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งนายจุรินทร์ยืนยันกับนายกรัฐมนตรี ว่ากระทรวงพาณิชย์ถือเป็นนโยบายหลัก และประสานผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศพร้อมพาณิชย์จังหวัดให้คัดเลือกสินค้าและจัดโมบายให้ความรู้ด้านนี้
โพสต์FBต้อนรับผู้นำถกอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเช้า ก่อนที่นายกฯจะเดินทางมาเปิดประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจ ASEAN Business and Investment Summit 2019 (ABIS 2019) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ต้อนรับบรรดาผู้นำแต่ละประเทศที่มาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ระบุว่า ขอต้อนรับผู้นำและผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ทุกคนสู่ประเทศไทย ตนมั่นใจว่าเราจะได้มีโอกาสหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมแก้ปัญหาประเด็นสำคัญ ช่วงการประชุมที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้
ทั้งนี้ เวลา 18.30 น.วันเดียวกัน มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกีฬาฟุตบอลระหว่างอาเซียนกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี