“นายกฯ” เปิดประชุมสุดยอดอาเซียน พร้อมกล้าจะฝันจากรุ่นสู่รุ่น ชี้โลกเผชิญความไม่แน่นอน ปลุกมิตรภาพประชาคมโลก จับมือฝ่าวิกฤติ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.15 น. ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ว่า เมื่อพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ตนกล่าวถึงเนื้อร้องของเพลงประจำอาเซียน "ดิอาเซียนเวย์"ในท่อน "we dare to dream, we care to share." เพื่อให้พวกเราทบทวนความกล้าที่จะฝันจากรุ่นสู่รุ่น และหารือถึงแนวทางร่วมกันที่จะสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต ภายใต้แนวคิดหลัก "ร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกลยั่งยืน" ด้วยความร่วมมือร่วมใจในครั้งนั้น เราสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมหลายประการ อาทิ การรับรองวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน และเอกสารมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิกเพื่อสานต่อผลของการประชุมสุดยอดครั้งนั้น
วันนี้ตนขอกล่าวถึงเนื้อร้องของเพลงดังกล่าวอีกท่อนหนึ่ง นั่นคือ ASEAN we are bonded as one. Looking out to the world. "อาเซียนเราผูกพันกันเป็นหนึ่งมองออกไปสู่โลก" เนื้อเพลงท่อนนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของอาเซียนที่ไม่เพียงร่วมมือร่วมใจกันในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับหุ้นส่วนนอกภูมิภาค ซึ่งถือเป็น "กัลยาณมิตร" ที่ช่วยสนับสนุนให้อาเซียนบรรลุเป้าหมายที่วาดฝันไว้ และขยายผลไปสู่นอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ปัจจุบันอาเซียนและโลกเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งในปีนี้มีแนวโน้มจะขยายตัวต่ำสุดในรอบสิบปีจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ การแข่งขันทางภูมิยุทธศาสตร์ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของความขัดแย้งทางการค้าและปัญหาอื่น ระหว่างบางประเทศ ความท้าทายต่อระบบพหุภาคีนิยม ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงแสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะทะเล ดังนั้นความเป็นหุ้นส่วนและมิตรภาพที่แน่นแฟ้น จึงมีความสำคัญยิ่งที่จะทำให้ภูมิภาคเราที่ครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรแปชิฟิกและมหาสมุทรอินเดียสามารถรับมือและก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ไปได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า การประชุมตลอด 2 วันจากนี้ นับเป็นวาระสำคัญที่จะแสดงความเป็นหุ้นส่วนและมิตรภาพระหว่างอาเซียนกับประชาคมโลก เพื่อร่วมมือร่วมใจ สานต่อผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ผ่านมา และวางแนวทางร่วมกันในการใช้ประโยชน์จากความเป็นแกนกลางและจุดแข็งของอาเซียนที่เป็นมิตรกับทุกประเทศ และไม่เป็นศัตรูกับใคร เพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก และสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ โดยดำเนินการใน 1 แนวทาง คือ การสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับสันติภาพและเสถียรภาพในระยะยาวควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีพลวัตและการพัฒนาที่ยั่งยืน
“ทั้งสองมิตินี้ถือว่าเป็น “สองด้านของเหรียญเดียวกัน” ที่จะนำมาซึ่งภูมิภาคที่ยั่งยืนในประการแรก การสร้างภูมิภาคที่มีเสถียรภาพ ต้องมุ่งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับยุทธศาสตร์บนพื้นฐานของหลักการ3M คือการเคารพซึ่งกันและกัน การไว้เนื้อเชื่อใจและการมีผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อลดการเผชิญหน้ากัน นอกจากนี้ ต้องมุ่งวางรกฐานด้านกฎกติกาด้วยการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือสำคัญที่อาเซียนมีอยู่”
ทั้งการนำหลักการสำคัญของสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ TAC มาใช้ในบริบทที่กว้างกว่าอาเซียน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่เราได้ต้อนรับอัครภาคีของสนธิสัญญาฯเพิ่มเติมสะท้อนให้เห็นถึงการที่ประเทศต่างๆ ยอมรับในหลักการพื้นฐานและกฎกติกาของการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค รวมถึงการมีกลไกระงับข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจของอาเซียน การมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่เข้มแข็งและมีอาเซียนเป็นแกนกลาง
ไม่ว่าจะเป็นการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก อาเซียนบวกสาม เออาร์เอฟ และความร่วมมืออาเซียนกับประเทศคู่เจรจาต่าง ๆ ตลอดจนความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการจัดทำประมวลการปฏิบัติ หรือ COC ในทะเลจีนใต้ระหว่างอาเซียนกับจีน และการฝึกผสมทางทะเลระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ เป็นต้น อีกประการหนึ่งคือ การสร้างภูมิภาคที่มั่งคั่งและยั่งยืน ผ่านการผลักดันให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ในสาระสำคัญแล้วเสร็จในปีนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน รวมทั้งส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคีภายใต้กรอบองค์การการค้าโลกควบคู่ไปกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคทั้งกรอบความร่วมมือ ACMECS และเขตอ่าวกวางตุ้ง-
ฮ่องกง-มาเก๊า หรือจีบีเอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้กับอาเซียนและภูมิภาคในอนาคต
นอกจากนี้ยังต้องมุ่งส่งเสริมความเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อในอาเซียน ด้วยการสร้างความเกื้อกูลระหว่างยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆทั้งภายในอาเซียนและนอกภูมิภาคตั้งแต่การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ระหว่างประชาชน ทางการเงิน และด้านดิจิทัล อีกทั้งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในยุค 4R เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่MรMES เกษตรกรกลุ่มธุรกิจสตร์ทอัพรวมถึงผู้ประกอบการท้องถิ่น ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน และปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรมของอาเซียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อาเซียนจำเป็นต้องมี "กระบวนทัศน์"ใหม่สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีพลวัต มีความยั่งยืนและครอบคลุมทุกภาคส่วนไม่ทิ้งใครข้างหลังโดยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ และการรักษาสภาพแวดล้อมควบคู่กันไป โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาขยะทะเลด้วยการดำเนินการตามกรอบการปฏิบัติงานอาเซียนว่าด้วยขยะทะเล ปัญหามลพิษทางอากาศด้วยการปฏิบัติตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน และปัญหาประมง ด้วยการพัฒนาเครือข่ายอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาการประมง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องพึ่งพาความร่วมมือกับหุ้นส่วนอาเซียนและมิตรประเทศ ความมั่นคงที่ยั่งยืนและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
“ที่ผมกล่าวมานี้ จำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งภายในและภายนอกภูมิภาคดังนั้นการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างประชาชน ผ่านการส่งเสริมอัตลักษณ์ของอาเซียนและสายใยทางวัฒนธรรมระหว่างกันจึงเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับภาคีภายนอก”
นายกฯ กล่าวอีกว่า ตลอดปีที่ผ่านมาด้วยความร่วมมือร่วมใจของประเทศสมาชิกอาเซียนและประชาชนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราบรรลุเป้าหมายและร่วมสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมหลายประการ หนึ่งในนั้นคือศูนย์อาเซียนทั้ง 7 แห่งในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราจะร่วมเปิดตัว 3 ศูนย์สุดท้ายในบรรดา 7 ศูนย์นี้ให้เป็นมรดกของการลงทุนจากความร่วมมือร่วมใจเพื่อประโยชน์ต่อทุกคนในภูมิภาคนี้เพื่อลูกหลานของพวกเรา และเพื่ออนาคตของภูมิภาค
“วันนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมมือ ร่วมใจกันอีกครั้ง และจับมือกับหุ้นส่วนให้แน่นขึ้น เพื่อร่วมกันสานต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งอาเซียนที่จะสร้างภูมิภาคที่มีสันติภาพ มีเสถียรภาพ และมีความไพบูลย์เพื่อวางรากฐานประชาคมอาเซียนที่มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนให้แก่คนรุ่นนี้และคนรุ่นหน้า โดยให้ประชาคมอาเซียนของพวกเราที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและมองไปสู่อนาคต สามารถเป็นพลังสำคัญในการบรรลุความฝันนี้โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภูมิภาคและประชาคมโลกเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติต่อไป” นายกฯ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี