อุ่นเครื่องซักฟอก!‘ปิยบุตร’ชงตั้งกมธ.ศึกษาม.44 จองเวรชำแหละอำนาจคสช.ย้อนหลัง
5 พฤศจิกายน 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในวันที่ 6 พฤศจิกายน นี้ ว่า ในวันการประชุมสภาฯพรุ่งนี้ เรามีญัตติสำคัญๆที่ต้องพิจารณา ในส่วนของพรรค อนค.ได้เตรียมตัวเรื่องญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญ เพื่อศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจ และการออกประกาศ คำสั่ง และมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งตนเป็นคนเสนอญัตตินี้ขึ้นมา
ทั้งนี้ เราเตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งหมด 10 คน โดยจะอภิปรายภาพรวมทั้งหมด ซึ่งตนจะเป็นคนเปิดประเด็นเองว่าคำสั่งของ คสช. ส่งผลกระทบอะไรบ้าง จากนั้นจะเป็นการพูดถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน เสรีภาพของสื่อ เรื่องการทวงคืนผืนป่า เรื่องที่ดิน และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการออกคำสั่งเพื่อเอื้อกับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ การแทรกแซงองค์กรอิสระ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตนคิดว่าญัตตินี้มีความสำคัญ เพราะตลอด 5 ปีของการปกครองของ คสช. เราไม่มีสภาฯ ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. ได้อย่างเต็มที่ ครั้งนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คสช. ย้อนหลังถึงผลงานในอดีต ที่ยังส่งผลกระทบถึงปัจจุบัน นี่คือเหตุผลประการที่หนึ่ง
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุผลประการที่สองคือ ศักดิ์ศรีของสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ในวันนี้เป็นการเข้าสู่ระบบปกติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จึงมีอำนาจและความชอบธรรมอย่างเต็มที่ ที่จะกลับมาพิจารณาทบทวนว่า การออกคำสั่งของ คสช. นั้น มีความชอบธรรมหรือไม่เพียงใด และต้องมีการแก้ไขยกเลิก หรือเยียวยาผู้ที่เสียหายอย่างไร ซึ่งอาจจะใช้เวลาพอสมควรสำหรับญัตตินี้ และพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายพรรคก็อยากจะเข้ามามีส่วนร่วมในประเด็นนี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะยาวไปจนถึงวันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤศจิกายน
เมื่อถามว่า ญัตตินี้ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคฝ่ายค้านตั้งใจเจาะจงไปที่ตัวบุคคลหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ญัตตินี้จะเน้นไปที่คำสั่ง คสช. ก่อน ยังไม่เน้นตัวบุคคล แต่เป็นการอุ่นเครื่องเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีในเดือนธันวาคม ประชาชนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องในอดีต ตนขอชี้แจงว่าคำสั่ง คสช. ยังส่งผลกระทบถึงปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือคำสั่งเหล่านี้เราไม่สามารถโต้แย้งได้ศาลได้เลย เพราะมีรัฐธรรมนูญรองรับ
เมื่อถามว่า จะมีความหวังในการตั้งกมธ. สำเร็จหรือไม่นั้น เลขาธิการพรรคอนค. กล่าวว่า เท่าที่ตนได้พูดคุยกับส.ส.หลากหลายพรรค ก็เห็นตรงกันว่าเราควรต้องพูดเรื่องนี้ เพราะเรามาจากการเลือกตั้งของประชาชน และคำสั่งคสช. ไม่ได้กระทบกับกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งเท่านั้น แต่ยังกระทบเป็นวงกว้างต่อพี่น้องประชาชน เช่น สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ และที่ดิน รวมไปถึงข้าราชการที่ถูกโยกย้ายด้วยคำสั่งคสช. ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ก็มีความเห็นว่าจะตั้งอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาปัญหาเรื่องนี้ แต่จะเป็นการทำงานในชุดของตนอย่างเดียว ตนจึงอยากให้มีการตั้ง กมธ. วิสามัญ ขึ้นมา เพื่อจะเปิดโอกาสให้ส.ส.จากทุกพรรค และบุคคลภายนอกมาทำงานร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี