"นพดล"เชื่อเราไม่ขาดความรู้ในการแก้รธน. จะรอดูว่านโยบายเร่งด่วนแก้รธน. จะเปลี่ยนจากวาระในกระดาษเป็นวาระแห่งชาติหรือไม่
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่สะสมประสบการณ์การร่างรัฐธรรมนูญมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และเรายังไปศึกษารัฐธรรมนูญของหลายๆ ประเทศ และนำแนวคิดของเขามาใช้แบบถูกบ้าง ผิดบ้าง ซึ่งตนเชื่อว่าเราไม่ขาดแคลนองค์ความรู้ในการทำให้กติกาดีขึ้น แต่ที่ยากคืออาจยังไม่ตระหนักว่ากติกาที่เป็นธรรมจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทยได้อย่างไร การแก้รัฐธรรมนูญจึงมีความท้าทายอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.ทำอย่างไรจะมีการเสียสละความได้เปรียบทางการเมืองของตน เพื่อทำให้ประเทศไทยได้เปรียบ และมีกติกาที่เอื้อให้เกิดการเมืองสุจริตและมีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งที่เป็นธรรมและมีความหมาย ทำให้การเข้าสู่อำนาจบริหารและนิติบัญญัติยึดโยงกับประชาชน
2.ทำอย่างไรจะมีกระบวนการรับฟังความต้องการของประชาชนว่าต้องการเห็นการแก้ไขในเรื่องใดบ้าง และ 3.ทำอย่างไรจะไม่กล่าวหาใส่ร้ายกันในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากมนุษย์สามารถใช้เหตุผลและแลกเปลี่ยนความเห็น โดยใช้ปัญญาและลดการกล่าวหาได้ เพราะท้ายที่สุดการแก้จะสำเร็จหรือไม่ต้องใช้เสียงจากทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ในรัฐสภาอันทรงเกียรติ
"ส่วนตัวเห็นว่าความจริงใจและความพร้อมที่จะร่วมทำกติกาให้เป็นธรรม และบรรลุเป้าประสงค์ข้างต้นสำคัญกว่าตัวผู้จะมานั่งเป็นประธาน กมธ.พี่น้องประชาชนคงจะติดตามท่าทีของแต่ละพรรคการเมืองต่อไปว่า การแก้รัฐธรรมนูญนั้นบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เป็นเพียงวาทกรรมหรือเป็นวาระที่จะทำ และจะเปลี่ยนวาระในกระดาษเป็นวาระแห่งชาติหรือไม่" นายนพดล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี