"จุรินทร์"ประชุมกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง เคาะ1ธันวาคมจ่ายส่วนต่างประกันรายได้"มันสำปะหลัง"กก.ละ2.50บาทครัวละไม่เกิน100ตัน อนุมัติวันนี้พรุ่งนี้นำเข้าครม.เป็นเรื่องด่วน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่ศาลากลาง จ.กาญจนบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง โดยภายหลังหลังการประชุม นายจุรินทร์ แถลงว่า ที่ประชุมอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2562/2563 วงเงิน 9,671 ล้านบาท โดยจะประกันรายได้ผลผลิตหัวมันสำปะหลังสด เชื้อแป้ง 25% ในพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ กก.ละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน
โดยเกษตรกรที่สามารถเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2562 - 30 พฤศจิกายน 2562 ที่มีจำนวนประมาณ 540,000 ราย และจะเปิดโอกาสให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนได้ต่อเนื่อง โดยเกษตรกรสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่เก็บเกี่ยวเป็นต้นไป และโดยรัฐบาลจะโอนเงินงวดแรกในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 - 30 พฤศจิกายน 2562 (ประมาณร้อยละ 20 ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน) และจะโอนเงินทุกวันทำการแรกของเดือนให้กับเกษตรกรที่เหลือ ที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ถึง 31 เมษายน 2563 (ประมาณร้อยละ 80) และจะโอนเงินครั้งสุดท้ายวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 รวมทั้งมีการเก็บเกษตรกรที่ตกหล่นจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563
ทั้งนี้ เกษตรกรหนึ่งรายสามารถใช้สิทธิได้เพียงครั้งเดียว และเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวหลังจากนั้น สามารถขึ้นทะเบียนใหม่สำหรับโครงการระยะที่ 2 และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระในการเข้าร่วมโครงการฯ เกษตรกรไม่ต้องทำสัญญาประกันรายได้กับ ธ.ก.ส.โดยภายใต้โครงการนี้ รัฐบาลจะจ่ายเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน จำนวน 12 ครั้งต่อปี
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ในการสร้างมาตรฐานของมันสำปะหลังและเข้มงวดการกำกับดูแลการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการลานมัน โรงแป้ง รายละไม่เกิน 350,000 บาท นำไปใช้ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดหาเครื่องร่อนดิน และสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลัง นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อหัวมันสำปะหลังสด มันสำปะหลังเส้น เพื่อจำหน่ายต่อ และหรือแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์
และที่ประชุมรับทราบกับแนวทางการขยายตลาดมันสำปะหลังต่างประเทศ ตามกลยุทธ์รักษาตลาดเดิม ฟื้นฟูตลาดเก่า และขยายไปยังตลาดใหม่ การรักษาตลาดเดิม ได้แก่ จีน โดยการเร่งรัดการจัดกิจกรรมในมณฑลสำคัญ เพื่อเพิ่มยอดส่งออก และการขยายตลาดใหม่ในตุรกี นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และอินเดีย และฟื้นฟูตลาดเก่า คือ EU โดยการเจรจากับสหภาพยุโรปให้เพิ่มการจัดสรรปริมาณโควตาภาษีสินค้าแป้งดิบ จากปัจจุบันไม่เกินปีละ 10,000 ตัน ให้ไทยได้รับโควตาสินค้าแป้งมันสำปะหลังในปริมาณเป้าหมายที่ 20,000 ตัน ซึ่งน่าจะเจรจาเสร็จสิ้นกลางปีหน้า
"และยังให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในการศึกษาแนวทางการจัดการกับโรคใบด่าง ให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ให้กระทรวงเกษตรฯ รับไปดำเนินการภายใน 1 สัปดาห์ และการกำจัดโรคใบด่างทั้งในที่ดินที่มีและไม่มีเอกสารสิทธิ์ด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว
รายงานข่าว กรมการค้าภายใน แจ้งด้วยว่า ที่ประชุมยังมีมาตรการอื่นเพิ่มเติม เช่น เห็นชอบที่จะส่งเสริมการใช้เอทานอลให้เป็นไปตามแผนพลังงานทดแทนฯ ที่กำหนดการใช้เป็น 11.3 ล้านลิตรต่อวัน ในปี 2579 (ปัจจุบันมีการใช้อยู่ที่ 4.5 ล้านลิตรต่อวัน) และแก้ไขพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ให้โรงงานสุรากลั่นแห่งอื่น นอกเหนือจากองค์การสุราฯ ผลิตสุราสามทับออกจำหน่ายภายในประเทศได้ และลดการนำเข้าเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม โดยให้โรงงานเอทานอลในประเทศไทย สามารถผลิตและจำหน่ายให้แก่อุตสาหกรรมอื่นได้ หรือเป็นผู้รับจ้างผลิต (Outsource) ให้แก่องค์การสุราได้ด้วยการใช้เอทานอลที่ผลิตในประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี