‘เสรีพิศุทธ์’เล่นไม่เลิก
เรียก‘บิ๊กตู่’แจงอีก
ปมถวายสัตย์-พรบ.งบฯ
มติกมธ.6ต่อ3นัด20พย.
‘บิ๊กช้าง’ยันเรื่องจบไปแล้ว
ศาลสั่ง‘นวัธ’สิ้นสภาพสส.
ให้เลือกตั้งซ่อมใน45วัน
นายกฯ ปัดข่าวขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำทำงานร่วมกันได้โหวตซักฟอกหรือไม่ เป็นสิทธิแต่ละคน ไม่รู้สึกกังวลใดๆขอตั้งใจทำงานดีที่สุด ด้าน“บิ๊กป้อม”มั่นใจ พปชร.ตอบได้ทุกคำถาม “สนธิรัตน์” ไม่ห่วง 5 พรรคเล็ก เขย่ารบ. ด้าน กมธ.ป.ป.ช.มติ 6 ต่อ 3 เรียก“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แจง ครั้งที่ 4 ปมถวายสัตย์-พ.ร.บ.งบฯ ฮึ่มฟันอาญา หากไม่มา ขณะที่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย“นวัธ”สิ้นสมาชิกภาพ สส.ชี้โทษประหารหนักกว่าจำคุก ไม่ต้องรอคดีถึงที่สุด สั่ง 13 พฤศจิกายน ตำแหน่งว่าง นับถอยหลังเลือกซ่อม 45 วัน
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลเกิดความขัดแย้ง ซึ่งอาจกระทบต่อเสียงโหวตในสภาหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ไม่มี ไม่เห็น และตนไม่ทราบข่าว ส่วนหากพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ยกมือโหวตให้ตนนั้น ถือเป็นสิทธิของแต่ละคน ประชาธิปไตยก็แบบนี้ แต่เท่าที่ตนเห็นทุกคนยังพูดคุยกันดี ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร น่าจะเป็นเรื่องที่พูดกันในโซเชียลมีเดียมากกว่า
‘จะมั่นใจในพรรคร่วมหรือไม่ ผมบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว และเรื่องของพรรคเล็กที่จะมาต่อรองไม่มีอยู่แล้ว ผมไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะผมทำงานของผมอย่างดีที่สุด พยายามตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ใครจะว่ายังไงก็แล้วแต่ เพียงแต่อยากถามว่าถ้านำการเมืองมาเกี่ยวทุกเรื่องประเทศจะไปทางไหน ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ อยากให้ประชาชนช่วยกันดูด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
‘บิ๊กตู่’ไม่สนเสียงโหวตพรรคเล็ก
เมื่อถามถึงกรณี 5พรรคเล็กเริ่มเคลื่อนไหวต่อรองอีกครั้งว่า หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ จะโหวตสวนรัฐบาลว่า ก็แล้วแต่เขา ประเทศชาติอยู่ตรงไหนตนก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้เขามองประเทศชาติอยู่ตรงไหนล่ะ จะเดินเกมการเมืองกันอย่างเดียวก็ตามใจท่าน ประชาชนก็จะรู้เองว่า เลือกกันมาแล้ว ทำประโยชน์กันบ้างหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่า ดูเหมือนเป็นพฤติกรรมต่อรองทุกครั้งในการใช้เสียงรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีหรอก มาต่อรองอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่กังวลอะไรกับเรื่องเหล่านี้ ผมทำงานของผมให้ดีที่สุด แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยอมรับมัน ประเทศก็ต้องรับไปด้วย ประชาชนก็เดือดร้อนไปด้วย ผมก็ทำของผมดีที่สุดแล้วแหละ”
‘บิ๊กป้อม’มั่นใจพปชร.ตอบได้หมด
ด้าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปลายเดือนพฤศจิกายน ว่า ไม่ต้องห่วง พรรคพปชร.ต้องพร้อมอยู่แล้ว ยืนยันตอบได้หมด ไม่ต้องห่วง เมื่อถามว่า ยังมั่นใจในเสียงของรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ หลัง 5พรรคเล็กรวมตัวกันในนามกลุ่มนักชน ประกาศพร้อมโหวตสวน หากรัฐบาลชี้แจงการอภิปรายไม่ได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก ผมมั่นใจ”
‘สนธิรัตน์’เคารพจุดยืน5พรรคเล็ก
ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการเตรียมการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ขอนแก่น ว่า พรรค พปชร.มีความพร้อม ส่วนตัวผู้สมัครนั้นได้เตรียมการไว้แล้ว เพียงแต่ขอให้ทุกอย่างมีความชัดเจนเสียก่อน พรรค พปชร.พร้อมที่จะดำเนินการ และจะเปิดตัวผู้สมัครเมื่อมีกำหนดการเลือกตั้งที่ชัดเจน เมื่อถามถึงกรณีที่ 5พรรคเล็กรวมตัวตั้งกลุ่ม นักชน ประกาศพร้อมโหวตสวนมติรัฐบาล หากรัฐมนตรีไม่สามารถตอบในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ถือเป็นจุดยืนของแต่ละพรรค เราก็ต้องเคารพกันในการทำงานร่วมกัน
เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นรอยร้าวที่ค่อยๆปริตัวหรือไม่ เพราะดูเหมือน 5พรรคเล็กพยายามต่อรอง หลังจาก 2พรรคออกไปแล้ว นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คงไม่ และอย่าเรียกว่าการต่อรองเลย ต่างพรรคต่างทำหน้าที่อย่าไปมองเป็นความขัดแย้ง ทุกพรรคย่อมมีจุดยืนและจุดยืนแต่ละพรรคไม่ได้ผิดอะไร ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เป็นเรื่องที่ดำเนินการตามกลไกรัฐธรรมนูญและรัฐบาลพร้อมชี้แจง
‘บิ๊กช้าง-ประสาน’ชี้แจง’กมธ.ปปช.’
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานซึ่ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรีและนายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.จากพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมประชุมครั้งแรก ในฐานะกมธ.ฯ ซึ่งเป็นการพิจารณากรณีการเสนอร่าง พรบ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลัง ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ โดย พล.อ.ประยุทธ์ มอบให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นตัวแทนนำหนังสือมาชี้แจง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกฯมาชี้แจง เป็นที่น่าสังเกตว่า นายธีระพงษ์ วงษ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและนายเดชาภิวัฒน์ ณสงขลา ผอ.สำนักงบประมาณ มาร่วมรับฟังการชี้แจงด้วย
ถวายสัตย์’จบแล้ว-พรบ.งบทำถูกแล้ว
โดย พล.อ.ชัยชาญ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงว่าได้รับมอบหมายให้มาชี้แจง ซึ่งนายกฯไม่ได้ฝากอะไรมาเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามเอกสารที่ชี้แจงตามข้อเท็จจริงไม่มีอะไรน่ากังวล ด้าน นายประสาน กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการถวายสัตย์เราคงไม่ชี้แจง เพราะถือว่าจบแล้ว สำหรับเรื่องของงบประมาณยืนยันว่า ครม.ได้เสนอไปตาม พรบ.วิธีการงบประมาณทุกอย่าง
‘ปารีณา’เปิดศึกปะทะ’เสรีฯ’เดือด
สำหรับบรรยากาศในการชี้แจงนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่ากมธ.มีอำนาจเรียกบุคคลมาชี้แจงในประเด็นที่มีข้อสงสัยตามที่รัฐธรรมนูญ 60 ระบุไว้ ซึ่งก็ให้ทุกคนได้ชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริง ที่จริงนายกฯ และรองนายกฯ ควรมาชี้แจงแต่เมื่อมอบหมายและให้คนนำเอกสารที่ลงนามมามอบ ตนก็ยินดีที่จะรับไว้และรับได้ ระหว่างนั้น น.ส.ปารีณา ได้ยกมือขอชี้แจง แต่ถูกตัดบทโดยให้ตัวแทนของนายกฯและพล.อ.ประวิตรได้ชี้แจงก่อน ซึ่งพล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า การกำหนดให้บุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริงอยู่ในอำนาจของประธาน แต่เรื่องถวายสัตย์ถือว่าจบไปแล้วและไม่อยู่ในอำนาจสอบสวนขององค์กรใด สภาไม่อาจตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องงบประมาณก็ผ่านขั้นรับหลักการสภาไปแล้วและอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา ซึ่งทั้ง 2เรื่องไม่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ ทำให้ไม่ให้อยู่ในอำนาจตามข้อบังคับ ตามอำนาจหน้าที่ของ กมธ.
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวว่า”คำสั่งของศาล ไม่ได้เป็นข้อวินิจฉัย และ ถ้าทำไม่ถูกต้อง ผมก็ไม่รับฟัง”สิ้นเสียง ทำให้ น.ส.ปารีณา ยกมือขึ้นประท้วงทันที กล่าวว่า“เห็นประธานเปิดรัฐธรรมนูญอ่าน พร้อมกับให้ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร มาตอบเอง เป็นการใช้อำนาจเกิดขอบเขต จริงอยู่ที่มีอำนาจ แต่การเชิญถือเป็นการขอความร่วมมือ จะมาหรือไม่มา ก็ได้ ไม่ใช่บังคับให้มา ถือว่าทำผิดกฎหมาย”
ขู่ถึงขั้นติดคุก-‘ปู’ก็ไม่มาแจง
พล.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบโต้ว่า”ผิดกฎหมาย ก็รับผิดชอบ” ซึ่ง น.ส.ปารีณา กล่าวย้อนว่า”ท่านอาจจะติดคุกก็ได้” พล.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็พูดสวนเสียงดังว่า”คุณขู่ผมหรือๆคุณจบอะไรมา ตอนผมมอบหมายงานคุณยังไม่รับเลย”และน.ส.ปารีณา กล่าวอีกว่า”ท่านต้องเข้าใจกฎหมายด้วยว่า แม้แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯโดนเรียกมา แล้วไม่มา ก็มอบคนอื่นมา ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ สส.ใหม่ ไม่รู้เรื่อง ทำให้ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ รีบตัดบททันที ทำให้ทุกคนในที่ประชุมต่างนั่งเงียบ ก่อนประธานที่ประชุมจะให้ นายประสาน ชี้แจงต่อ โดย นายประสาน ยืนยันว่าต้องแยกเป็น2ประเด็น คือเรื่องถวายสัตย์และงบประมาณ ในส่วนของการถวายสัตย์ถือเป็นพระราชอำนาจ ส่วน พรบ.งบประมาณถือว่า ผ่านขั้นตอนและอยู่ในขั้นตอนของสภาไปแล้ว
มติ6ต่อ3 เรียกแจงรอบสี่ 20พย.
ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แถลงหลังประชุมกมธ.ฯว่า หลังจาก กมธ.เชิญ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร มาชี้แจงประเด็นการถวายสัตย์ฯไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ โดยทั้ง 2ไม่มาและมอบหมาย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาชี้แจงแทน ซึ่งท่านระบุว่า เรื่องถวายสัตย์ฯ จบแล้ว เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย จึงไม่ควรเชิญนายกฯมาชี้แจงอีก แต่กมธ.เห็นแย้งว่า การที่ศาไม่รับวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวไม่ใช่คำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กร โดยวันนี้ กมธ.ได้ลงมีมติ 6ต่อ3เสียง ให้เชิญบุคคลทั้ง 2 มาให้ถ้อยคำต่อกมธ.เป็นครั้งที่ 4 ในวันที่ 20พฤศจิกายน เวลา 10.00 น.และ11.00น.ตามลำดับ หากยังไม่มา จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมกมธ.ฯอีกครั้งว่า จะดำเนินคดีอาญาหรือไม่ ตามพรบ.คำสั่งเรียกของกรรมาธิการของสส.และสว.พ.ศ.2554 อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนี้ตนไม่สามารถตัดสินใจเพียงคนเดียวได้
สัปดาห์หน้าสอบซื้อจยย.ไทเกอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาช่วงที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ มาชี้แจงต่อกมธ.กรณีปัญหาการใช้งบประมาณของสำนักพระพุทธศาสนาไม่ถูกต้องนั้น ปรากฏว่า น.ส.ปารีณาได้ลุกเดินออกจากห้องประชุม ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถามว่า“คุณปารีณา จะรีบไปไหน เห็นว่า จะมาตรวจสอบโครงการจัดซื้อจักรยานยนต์ไทเกอร์ไม่ใช่หรือ” น.ส.ปารีณา ตอบกลับว่า ติดภารกิจต้องไปก่อน ส่วนเรื่องจักรยานยนต์ไทเกอร์เดี๋ยวสัปดาห์หน้าจะขอตรวจสอบ จากนั้นได้เดินออกจากห้องประชุมไป
‘ชวน’ปัดเตะถ่วงตั้งกมธ.แก้รธน.
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ท้วงติงว่าการจัดระเบียบวาระการประชุมสภาฯมีปัญหาทำให้ญัตติเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเลื่อนออกไป ว่า ญัตติดังกล่าวไม่ได้ถูกเลื่อน เพราะขณะนี้มีระเบียบวาระการประชุมสภาฯอยู่ตามลำดับ ซึ่งสภาฯสมัยนี้สามารถบริหารระเบียบวาระและญัตติได้ดีที่สุด โดยญัตติที่ค้างการประชุมสภาฯเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นญัตติทั่วไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่คนบางคนเอาตามอำเภอใจ แต่บังเอิญมีเรื่องอื่นที่กฎหมายบังคับ เช่น วาระเพื่อทราบที่ต้องใช้เวลา ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ใช้เวลาพิจารณาวาระเพื่อทราบถึง 2วัน โดยวันนี้มีวาระเพื่อทราบ 7วาระ
เ ตรียมขยายเวลาทำงานในวันศุกร์
นายชวน กล่าวอีกว่า หากจะไม่ให้สมาชิกได้พูดถือว่า เป็นเรื่องผิดปกติ ดังนั้นเราจึงเปิดโอกาส อย่างไรก็ตาม วาระที่เข้ามาก็เป็นไปตามปกติไม่ได้ล่าช้าหรือมีปัญหาแต่อย่างใด เพียงแต่พวกที่อยากให้เข้าวันนั้นวันนี้ก็จะเอาตามอำเภอใจ ซี่งมันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จะเชิญแต่ละฝ่ายมาหารือร่วมกันว่า จะใช้เวลาพิจารณาแต่ละญัตติมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้บริหารจัดการเวลากันได้ รวมถึงจะขยายวันประชุมไปในวันศุกร์ปลายเดือนนี้ด้วยและอาจขยายเวลาเพิ่มวันประชุมวันศุกร์เดือนละครั้ง เพื่อพิจารณาวาระต่างๆ
ศาลวินิจฉัย’นวัธ’สิ้นสภาพสส.แล้ว
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา82 ว่า สมาชิกภาพ สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ของ นายนวัธ เตาะเจริญสุข สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา101(6) ประกอบมาตรา98(6) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายนวัธ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101(6) ประกอบมาตรา98 (6) เนื่องจากการต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่นลงโทษประหารชีวิต (คดีจ้างวานฆ่าอดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขอนแก่น) และถูกคุมขังโดยศาลอุทธรณ์ภาค4 ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ และฎีกานั้น ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า โทษประหารชีวิตหนักกว่าโทษจำคุก แม้อาจมีการลดหย่อนแต่ก็จะยังได้รับโทษจำคุกอยู่ดี ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดเหตุแห่งการสิ้นสมาชิกภาพความเป็น สส.เนื่องจากเหตุจำคุกไว้หลายกรณี จึงไม่จำเป็นต้องรอคดีถึงที่สุด
เลือกซ่อมใน45วัน-นับจาก13พย.
ทั้งนี้ นายนวัธ ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลจึงมีคำวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของนายนวัธ สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 16ต.ค.2562 ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และให้ถือเอาวันที่ 13พ.ย. 2562 ที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีทราบโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นวันที่ตำแหน่ง สส.ว่างลงและต้องตรา พรฎ.การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างตามรัฐธรรมนูญ มาตรา102 ประกอบมาตรา105 (1) ภายใน 45วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี