“พรเพชร”โว 5 เดือน ส.ว.ผลงานไม่ล้มเหลว แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ ฉุนพวกจ้องโละ แจงไม่ใช่ไส้ติ่ง ย้อน 87 ปีประชาธิปไตยมีแค่สภาฯเดียวตอนไหน ชี้งบกมธ.ส.ว.มากกว่ากมธ.ส.ส.ไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุยกันได้ ส่วนตั้ง ส.ว.นั่งกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิทธิส่วนตัว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น กรุงเทพฯ คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา จัดกิจกรรม “วุฒิสภาพบสื่อมวลชน” เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับสื่อมวลชน พร้อมทั้งเปิดตัวจุดแถลงข่าวของวุฒิสภา ที่ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสุขประพฤติ โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา , นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง และโฆษกคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เข้าร่วมงาน
นายพรเพชร กล่าวช่วงหนึ่งว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจในกิจกรรม การดำเนินงานครั้งนี้วุฒิสภาต้องการลบล้างสิ่งที่คนบอกว่าเราไม่มีผลงาน เพราะเรามีผลงาน แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ จึงได้กระจายงานประชาสัมพันธ์ให้กับโฆษกของแต่ละคณะกรรมาธิการฯ ที่รับผิดชอบ วันนี้จะไม่เอาวิธีการทำงานแบบเก่าที่ให้สื่อต้องมาถามหาจากตน แต่ไปถามโดยตรงกับกรรมาธิการฯ ที่เกี่ยวข้องได้เลย วุฒิสภาพร้อมที่จะเดินหน้าเผยแพร่ผลงานเพื่อไม่ให้ประชาชนสงสัยว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่
นายพรเพชร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หลังพบว่าเงินงบประมาณของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้น้อยกว่าของกรรมาธิการวุฒิสภาว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าสำนักงานงบประมาณได้จัดสรรอย่างไร แต่น่าจะเป็นการคำนวณงบฯตามภารกิจที่ทำและจำนวนสมาชิก ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่า ภาระงานส.ว.น้อยกว่าของส.ส.หรือไม่นั้น เชื่อว่ามีภาระงานเท่ากัน ต่างกันที่จำนวนคณะกรรมาธิการฯ เท่านั้น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สามารถพูดคุยกันได้
สำหรับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ควรจะมีส.ว.เข้าร่วมด้วยหรือไม่นั้น นายพรเพชรกล่าวว่า ในทางปฏิบัติเมื่อเป็นญัตติของสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องมีสัดส่วนจากฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี จะไม่มีองค์ประกอบของส.ว. ถ้าอยากให้มีส.ว.ก็ต้องเสนอเป็นญัตติพิจารณาร่วมกันของรัฐสภา อย่างไรก็ตาม หากมีการเชิญส.ว.เข้าร่วมด้วยก็เป็นสิทธิของส.ว.คนนั้น ตนคงไปบังคับไม่ได้ แต่จากกระแสข่าวที่มีชื่อส.ว. 2 คนอาจจะไปร่วมด้วยนั้น ก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้ว และยังไม่ได้มีการติดต่อมาที่ตนแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ของส.ว.ขึ้นมาศึกษาควบคู่กับของกมมาธิการฯ ของสภาฯ เนื่องจากญัตติของสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้เป็นไปเพื่อการศึกษา ไม่ใช่เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรมีการแก้ไขในส่วนของที่มาส.ว.ด้วยหรือไม่นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ถ้าพูดว่าไม่ควรมีส.ว. หรือส.ว.เป็นไส้ติ่ง ตัดทิ้งไปนั้น อยากถามว่า ตลอดระยะเวลา 87 ปีของประชาธิปไตยนั้น เรามีแค่สภาฯ เดียวตอนไหน ตอบได้หรือไม่ และอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ เพราะที่ผ่านมามี 2 สภาฯ มาโดยตลอด ทั้งนี้ 5 เดือนที่ผ่านมาของส.ว.ชุดนี้ เราตั้งกรรมาธิการฯ ได้ในเวลาที่เร็วพอสมควร เข้ามาก็ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย พิจารณาร่างพระราชกำหนดต่างๆ ไปตามปกติ รวมถึงวางโครงการวุฒิสภาพบประชาชนด้วย เรียกว่าชัดเจนกว่าสมัยสนช.ด้วยซ้ำ เพียงแต่ประชาชนไม่เห็น ซึ่งอาจเป็นเพราะได้สัมผัสกับผู้ที่ทำงานน้อยไป แต่ยืนยันว่า ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ล้มเหลว และได้ผลงานเป็นที่พอใจ
สำหรับกรณีที่ส.ว.ถูกมองว่าชอบออกมารับลูกรัฐบาลนั้น นายพรเพชรกล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ต่างเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ชาติโดยตำแหน่ง ดังนั้น ต้องมีส่วนร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ชาติด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้มีการรับลูกอะไร เมื่อกฎหมายปฏิรูปหรือกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติเข้าสู่การพิจารณา ก็จะได้เห็นการทำหน้าที่ของส.ว.อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี