‘ไพบูลย์’ชี้เรียกสอบบิ๊กตู่
จงใจกลั่นแกล้ง
จี้กมธ.‘เสรีพิศุทธ์’วางมือ
ถลำลึกไปอาจขัดรธน.
ฝ่ายค้านนัดสรุปซักฟอก
‘อนาคตใหม่’ดิ้นสั่งลา
เรียกแขกลุ้นคดี‘ธนาธร’
“ไพบูลย์”ชี้ กมธ.ชุด“เสรีพิศุทธ์”ออกหนังสือเรียกนายกฯ ชี้แจง ส่อขัดรธน. ซัด 16 คำถาม ตั้งใจกลั่นแกล้งด้านฝ่ายค้านตามรุกต่อสัปดาห์หน้านัดทีมงานสรุปญัตติซักฟอก ด้านสนามเลือกตั้งขอนแก่น 7 พลังประชารัฐตีตราจอง ในขณะที่เพื่อไทยพร้อมสู้ ส่วนอนาคตใหม่จัดงาน จัดงาน ‘อยู่ไม่เป็น’เรียกแขกรอลุ้นคดีธนาธร
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย กรณีที่ตนได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาวินิจฉัยเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา13 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา129 นั้น
นายไพบูลย์ เห็นว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.)สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ.0019.05/945เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงต่อ กมธ.ป.ป.ช.ในวันพุธที่ 20พ.ย.2562ในประเด็นข้อซักถามระบุไว้16 ข้อซึ่งเนื้อหาในหนังสือระบุว่าอาศัยอำนาจตามมาตรา 129 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ประกอบมาตรา6แห่ง พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554โดยหนังสือระบุไว้มุมบนขวาว่า กมธ.(บค.)1แสดงว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ดำเนินการออกหนังสือฉบับดังกล่าวตามแบบ กมธ.(บค.)1เป็นไปตาม พรบ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการฯ มาตรา 6
“ผมได้ตรวจสอบพบว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 129เนื่องจากได้บัญญัติให้คณะกรรมาธิการมีอำนาจสอบสวนซึ่งเป็นการขัดต่อเอกสารหลักฐานความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญ มาตรา129ที่อธิบายไว้ว่า เจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญวางหลักการใหม่ให้คณะกรรมาธิการไม่มีอำนาจสอบสวนแต่ให้มีอำนาจเพียงสอบหาข้อเท็จจริงเท่านั้น จึงทำให้พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกมธ.มาตรา 6 ซึ่งปรากฏให้คณะกรรมาธิการมีอำนาจสอบสวน จึงขัดต่อความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา129 เช่นเดียวกับพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของ กมธ.มาตรา5มาตรา8และมาตรา13ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นไปแล้วว่ามาตราดังกล่าว ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา129 ”นายไพบูลย์ ย้ำ
ซัด16คำถามจงใจกลั่นแกล้ง ผิดม.157
นายไพบูลย์ยังระบุว่าการออกหนังสือเรียกให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงครั้งล่าสุด ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นอกจากขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ในหนังสือฉบับดังกล่าวยังระบุเรื่องที่ขอให้ชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงคำถามจำนวน16 ข้อที่ไม่อยู่ในกรอบอำนาจของ กมธ.ป.ป.ช.เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่ามีเจตนาจงใจกลั่นแกล้งผู้ที่ต้องไปชี้แจงแถลงข้อเท็จจริง จึงอาจเข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157และประกอบกับกรณีดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของ กมธ.ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา129 แล้ว
แนะตีกลับคืน นส.-เตือนกมธ.จ่อผิด
“ผมจึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรปฏิเสธไม่ไปชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช.ตามหนังสือที่ สผ.0019.05/945 หรือ พิจารณาส่งคืนหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเหตุที่เป็นการออกหนังสือโดยมิชอบด้วยกฏหมายหลายประการและ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ควรเร่งขอยกเลิกหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ” นายไพบูลย์ กล่าวย้ำ
เทพไทหนุน’ชวน’โยน กมธ.แก้ปัญหา
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งและความวุ่นวายใน กมะ.ปปช.ว่าเห็นด้วยกับความเห็นของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่าความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับตำแหน่งประธาน กมธ.เป็นเรื่องภายในของคณะ กมธ.นั้นๆเพราะการโหวตเลือกตำแหน่งต่างๆของคณะกมธ.เป็นการลงมติในที่ประชุมคณะกมธ.ทั้งสิ้น ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีระบุการสิ้นสุดของประธานคณะกรรมาธิการ ส่วนที่มีกมธ.ปปช.ในสัดส่วนพรรครัฐบาลยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนฯให้พิจารณาการทำหน้าที่ประธาน กมธ.ปปช.นั้น เชื่อว่าเมื่อประธานสภาฯรับหนังสือดังกล่าวแล้ว อาจจะมอบให้คณะกรรมาธิการกิจการสภาดำเนินการ เหมือนกับข้อขัดแย้งของคณะกรรมาธิการบางคณะที่คณะกรรมาธิการกิจการสภา พิจารณาแก้ปัญหาจบแล้ว
แนะอย่าใช้อคติส่วนตัวยุ่งงาน กมธ.
นายเทพไท ระบุว่า ยอมรับว่าสภาชุดนี้มีส.ส.หน้าใหม่ เข้ามาจำนวนมากในคณะกรรมาธิการบางคณะ มีกมธ.ที่เป็น ส.ส.ใหม่เกือบทั้งคณะ บางคณะมีประธานคณะ กมธ.เป็นส.ส.สมัยแรก ยังขาดประสบการณ์ในการทำหน้าที่ ไม่เคยผ่านงานด้าน กมธ.มาก่อนก็จะทำให้เกิดความขลุกขลักในการทำงานช่วงแรกๆเชื่อว่าเมื่อผ่านการทำงานไปได้สักระยะหนึ่ง ทุกอย่าง จะเข้าที่เข้าทาง ดำเนินการไปด้วยดีได้อย่างแน่นอน อยากให้สส.ทุกคนได้ตระหนักการทำหน้าที่ในคณะ กมธ.ว่าทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชน
“ในคณะกมธ.จะไม่มีความเป็นพรรคการเมือง ทุกคนมีสถานะเป็น กมธ.มีหน้าที่ต้องทำงานร่วมกันตามบทบาทหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนฯไม่ควรอาความเป็นพรรคการเมืองหรือขั้วการเมืองหรือความมีอคติไม่พอใจส่วนตัว มายุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในคณะกมธ.หรือหากไม่มีการลดราวาศอก ซึ่งกันและกันก็จะทำให้การทำงานของคณะกมธ.แต่ละคณะไม่ประสบความสำเร็จตามเจตนารมณ์ของข้อบังคับการประชุมสภาและเจตนารมณ์ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน” นายเทพไท ย้ำ
พปชร.มั่นใจ”สมศักดิ์”ชนะแน่
ทางด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ขอนแก่น เขต7ว่าพรรค พปชร.มีความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มาก ทราบจากนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.ขอนแก่นว่าพรรคจะส่งนายสมศักดิ์ คุณเงิน ลงสมัครในเขตนี้ เนื่องจากที่ผ่านมานายสมศักดิ์แพ้เพียงไม่กี่คะแนน ที่สำคัญคือนายสมศักดิ์ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาตลอด เกาะติดพื้นที่ ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความมั่นใจอย่างมากว่าจะได้รับชัยชนะเมื่อสมัครเสร็จแล้วแกนนำพรรคจะยกทัพหลวงไปช่วยหาเสียงทันทีและจากการที่ได้พูดคุยกับนายเอกราชและนายสมศักดิ์ต่างมั่นใจมากว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
เชื่อปชช.ต้องการส.ส.ซีกรัฐบาล
โฆษกพรรค พปชร.ยังระบุว่าส่วนคู่แข่งพรรคเพื่อไทยนั้นเราไม่กังวลอะไร เชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ต้องการได้ ส.ส.ที่เป็นรัฐบาล เนื่องจากจะสามารถผลักดันผลงานให้กับพี่น้องประชาชนได้คล่องตัวกว่าส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินโครงการต่างๆมากมายโดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนอีกทั้งชาวบ้านยังเห็นถึงความตั้งใจจริงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศอีกด้วย
ฝ่ายค้านสัปดาห์หน้าชัดยื่นซักฟอก
ขณะที่น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการคัดสรรตัวแทนของพรรคเพื่อไทยที่จะเข้าไปทำหน้าที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560ว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะสรุปรายชื่อเพื่อเสนอให้หัวหน้าพรรคฯพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า โดยพรรคเพื่อไทยจะคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านกฎหมายและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่าในสัปดาห์หน้าตนในฐานะที่ปรึกษาวิปฝ่ายค้านและนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน จะประสานงานกับ ส.ส.ของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะอภิปรายเพื่อประมวลและจัดลำดับข้อมูลให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสรุปเป็นการเขียนญัตติยื่นอภิปรายว่าจะยื่นประเด็นใดบ้างและอภิปรายรัฐมนตรีท่านใดบ้าง คาดว่าจะเสนอได้ไม่เกินช่วงต้นเดือนธันวาคม ส่วนผู้อภิปรายจะเป็นใครบ้างนั้น จะประชุมและสรุปกันอีกครั้ง
มั่นใจปชช.ให้โอกาสรักษาที่นั่งอีก
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7แทน นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการสรรหาผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมแทนนายธวัธ ซึ่งมั่นใจว่าคณะกรรมการสรรหาของพรรคจะดำเนินการคัดสรรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและเหมาะสม เนื่องจากเวลาที่จำกัด ดังนั้น พรรคเพื่อไทย คงต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในหาเสียงโดยเมื่อได้ตัวผู้สมัครแล้ว พรรคจะระดมสรรพกำลังลงไปรณรงค์หาเสียงภายใต้กติกาที่กฎหมายกำหนดอย่างเต็มที่และมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะให้โอกาสตัวแทนของเราเข้าไปทำหน้าที่อีกครั้ง นอกจากนี้ เราจะจับตาการหาเสียงของฝ่ายตรงข้ามอย่างใกล้ชิดและมั่นใจว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะสามารถจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ปล่อยให้มีใครทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างแน่นอน
อนค.พร้อมหลีก พท.ลงเลือกซ่อม
นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อมเขต 7 จ.ขอนแก่นว่าส่วนตัวเชื่อว่าพรรคเราจะไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพราะโดยมารยาทของฝ่ายค้านที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม พรรคเพื่อไทย ได้หลีกทางให้กับพรรคอนาคตใหม่มาแล้ว แต่อย่างไร แล้วขึ้นอยู่กับมติของพรรค เนื่องจากขณะนี้คะแนนของพรรคที่จะเอาคืนมาไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล การที่ให้พรรคเพื่อไทยได้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 7 จ.ขอนแก่น ก็เห็นว่าเพื่อไทยจะส่งนายอดิศร เพียงเกษ ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแทน เป็นอดีตส.ส.เก่า มีประสบการทางการเมืองจะมาช่วยสนับสนุนของนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้านซึ่งเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับวิปฝ่ายค้าน คิดว่าพรรคฝ่ายค้านน่าจะมีการคุยกันในเร็วๆ นี้ เพราะการเลือกตั้งซ่อมใกล้เข้ามาแล้ว
ภท.รอเคาะส่งเลือกซ่อมขอนแก่น
ขณะที่ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม จ.ขอนแก่น เขต 7ว่าพรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครหรือไม่ รอให้ผู้บริหารของพรรคได้หารือก่อน ยังมีเวลาที่จะปรึกษาภายในพรรคเพื่อให้การตัดสินใจมีความรอบคอบมากที่สุดเพราะผลการเลือกตั้งมีความสำคัญทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน
ชี้แก้รธน.ภาคปชช.ต้องมีส่วนร่วม
ส่วนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะพิจารณาญัตติสัปดาห์หน้านั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ยืนยันมาตลอดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคืออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้องก็พร้อมที่จะพิจารณา เราเห็นว่าประเด็นไหนที่ประชาชนเห็นด้วย ก็ต้องทำให้เป็นเรื่องหลัก ประเด็นไหนที่ประชาชนไม่เห็นด้วย ก็จะเป็นเรื่องรองลงมา ส่วนการตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายต่างๆได้หารือถึงทางออกร่วมกัน แต่ต้องไม่ลืมที่จะถามประชาชนด้วย เพราะทุกคนมาจากเสียงประชาชน การศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภาคประชาชนต้องมีส่วนร่วมด้วย
พปชร.อัด’ธนาธร’ให้ข้อมูลไม่ชัด
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แถลงข่าวอ่านคำแถลงปิดคดีกรณีการถือหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัดก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดความเป็นส.ส.สิ้นสุดลงหรือไม่ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ที่ระบุว่าศาลฎีกาใช้คนละมาตรฐานกับศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการกล่าวข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนเพราะศาลฎีกาพิจารณากรณีของผู้สมัคร ส.ส.นายภูเบศว์ เห็นหลอด ในประเด็นคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) แต่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณี ส.ส.พรรคฝ่ายร่วมรัฐบาล 41คนที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ร้องนั้น
ในประเด็นที่ ร้องขอให้ ส.ส.ทั้ง 41คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นการพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรค2ว่าหากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้อง มีกรณีตามที่ถูกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สมาชิกผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยซึ่งเป็นคนละเหตุกับของผู้สมัครส.ส. นายภูเบศว์ การแถลงให้ข้อมูลว่าศาลฎีกาและศาลรัฐธรรมนูญใช้คนละมาตรฐานนั้น ไม่น่าจะถูกต้อง การเทียบเคียงที่แตกต่างกันว่าจะต้องเหมือนกันนั้น เป็นการใช้ตรรกะเหตุผลที่ผิด และสำหรับคำอธิบายว่าบริษัทวีลัคมีเดีย ไม่ได้เป็นบริษัทเกี่ยวกับสื่อ เพราะเลิกพิมพ์หนังสือไปแล้วนั้น ก็ขอให้พิจารณากรณีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ นายทวีป ขวัญบุรี ที่ถูกตัดสิทธิสมัคร ส.ส.แม้จะหยุดการพิมพ์หนังสือไปแล้วกว่า20ปี มาเทียบเคียง
ตอกยับหยุดชี้นำสังคมให้สับสน
และว่าวันที่ทำการซื้อขายโอนหุ้นระหว่างนายธนาธรและมารดาสังคมเกิดความสับสนในให้ข้อมูลที่ขัดกันเองของนายธนาธรเพราะที่ผ่านมานายธนาธรกล่าวยืนยันและแสดงหลักฐานการโอนหุ้นว่าทำขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562แต่จากคลิปการแถลงปิดคดีประมาณนาทีที่17 เป็นต้นไปนายธนาธรกลับกล่าวเองชัดเจนว่าโอนเมื่อวันที่ 6 มกราคม2562ทำให้ประชาชนที่เชื่อในบรรทัดฐานว่าความจริงพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม เกิดความสงสัยว่าทำไมนายธนาธรถึงพูดแตกต่างกัน ความเครียดความกดดันใดทำให้พูดออกมาแตกต่างกันอีกแล้ว อีกประเด็นที่สำคัญคือ การกล่าวอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคนละฉบับ คนละมาตราที่แตกต่างกันมาสนับสนุนว่าตัวเองไม่ผิดนั้น ประชาชนที่ฟังการแถลงมีความสงสัยว่านายธนาธรทำไปเพราะเข้าใจผิดหรือต้องการชี้นำสังคมให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง
‘อนาคตใหม่’จัดงาน ‘อยู่ไม่เป็น’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น.ที่ห้องกำแพงเพชรชั้น 6 JJ Mall ถนน กำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พรรคอนาคตใหม่จัดกิจกรรม “อยู่ ไม่ เป็น”ภายในงาน จัดนิทรรศการ บูธนำเสนองานพรรคในรูปแบบ”อยู่ไม่เป็น”ประกอบด้วย5บูธหลักอาทิ บูธ “ท.ทหาร ทันสมัย”สมัครใจไม่บังคับ นำเสนอ 8 มาตรการสร้างกองทัพทันสมัย เป็นต้นและอีก 1 บูธสำคัญ “แอพพลิเคชัน พรรคอนาคตใหม่” ที่จะดึงคนที่เข้ามาร่วมงานโหลดแอพพลิเคชัน เพื่อส่งเรื่องร้องเรียนต่างๆ
โดยมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานกว่า 1,800 คนเนื่องจากทางพรรคอนาคตใหม่ มีการเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อแลกรับของที่ระลึก และเปิดให้ลงทะเบียนบริเวณหน้างาน พร้อมทั้งเปิดรับสมัครสมาชิกพรรบริเวณด้านหน้างานอีกด้วย
ส่วนกิจกรรมบนเวที จะเริ่มขึ้นในเวลา 14.00 น. เปิดตัวด้วยการอภิปรายการอยู่ไม่เป็นของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นการอภิปรายของนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ ในเวลา 17.00 น.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายปิดเวที
เปิดถล่มฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ปราศรัยบนเวทีกิจกรรม”อยู่ไม่เป็น”ว่า ตนขอพูดในประเด็นการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งจากการคำนวณหากตนเรียนจบออกมาแล้วเป็นนายพลเลยจะมีเงินในบัญชี 35 ล้านบาท แต่เมื่อไปส่องดูในบัญชีพบว่านายพลหลายคนอาจมีเงินในบัญชีเป็น 100 ล้านบาท ทำให้คิดถึงสโลแกนที่ว่าเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีของไทยทั้งหมด 29 คน ก็มาจากทหารถึง 11 คน และอยู่ดีๆ ก็อาจจะมีการต่อสายให้มาเป็น ส.ว.อีก 250 คน รวมทั้งตำแหน่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และบอร์ดรัฐวิสาหกิจอื่นๆ อีก
นายวิโรจน์ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่เคยบอกว่าไม่ต้องมีทหาร แต่เราต้องการทหารที่ทำหน้าที่ทหารอย่างแท้จริง ไม่ใช่งานเหมือนไพร่ทาส เลี้ยงไก่ เลี้ยงนก ซักผ้าเหมือนที่เป็นอยู่ จึงเห็นว่าควรยกเลิกการเกณฑ์ทหารเปลี่ยนมาเป็นรับสมัครทหารด้วยความสมัครใจดีหรือไม่ แล้วให้เงินเดือนอย่างสมศักดิ์ศรี ชาวอนาคตใหม่เราต้องการทหาร แต่ไม่ต้องการให้ทหารไปรับใช้ใครอีกต่อไปเท่านั้นเอง วันนี้เราใช้งบประมาณเป็นเงินเดือนทหารเกณฑ์ถึงปีละ 2.4 หมื่นล้านบาท แต่กลับต้องไปเลี้ยงไก่ เลี้ยงนกให้นายพล เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า ดังนั้นวันนี้เราจึงต้องเปลี่ยรความคิดที่ประชาชนเป็นไพร่พล และเราต้องสร้างสังคมที่ประชาชนมีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียมกัน เราไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร แต่ขอให้ช่วยกันคิดเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและขอให้ทุกคนมาอยู่ไม่เป็นด้วยกัน
โจมตีกลุ่มทุนชั้นสูง
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำ เป็นเรื่องที่หลายสังคมต้องเจอ แต่ประเทศไทยไม่ได้กำลังสู้อยู่แค่กับกลุ่มทุน แต่ยังมีอำนาจการเมือง ที่ต้องการจะข่มระบบแบบเดิมต่อไปได้ ชนชั้นสูงถูกยกระดับให้สูงขึ้นไปอีก บริษัทขนาดใหญ่คือหน้าเดียวกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โครงสร้างเศรษฐกิจส่วนบนกระจุกตัว จนทำให้เอสเอ็มอีที่อยากเข้าไปแข่งขันแทรกตัวเข้าไปไม่ได้
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ความเหลื่อมล้ำในสังคม แสดงให้เห็นว่า มีเงินมาก เท่ากับมีโอกาส ซึ่งเป็นโอกาส ที่ทุกคนควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน เพราะรัฐ ไม่ได้หยิบหยื่นให้อย่างเท่าเทียมกัน แต่กลับผูกขาดกับนายทุนขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้วก็ยังต้องอยู่กับธุรกิจผูกขาด คือ ธุรกิจลอยอังคาร ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจจากกองทัพไทยที่ให้บริการโดยกองทัพเรือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี