ขุดบันทึกที่ประชมกมธ.
ไร้มติรองรับ
เชิญ‘บิ๊กตู่’แจงตามม.129
สิระเดินหน้าชนเสรีพิศุทธ์
แนะให้ไขก๊อกก่อนถูกปลด
นิด้าโพลสนับสนุนคนนอก
นั่งปธ.ศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ
“สิระ”ท้า“เสรีพิศุทธ์”เปิดบันทึกประชุมกมธ.ป.ป.ช.ยันไร้มติให้ใช้มาตรา 129 กรณีเรียก“บิ๊กตู่”แจงรอบที่ 4 หากทำผิดจริงแนะลาออก ก่อนถูกปลดฟ้าผ่า พร้อมสะกิดบิ๊กตู่ อย่าใส่ใจหนังสือเชิญผิดกม. ด้าน“ธนกร”วอนอนาคตใหม่ อย่าปลุกม็อบดิ้นรนจมปลักกับอดีต ด้านนิด้าโพลชี้ประชาชนร้อยละ 59 หนุนคนนอกนั่งปธ.กมธ.ศึกษาแก้รธน.ไม่ใช่คนของพรรคการเมือง
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 17พฤศจิกายน ที่ห้องรับรอง กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับนายทาโร่ โคโนะ รมว.กลาโหมญี่ปุ่น ได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯพร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยว่าด้วยความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางทหาร จากนั้นเวลา 10.00 น.นายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับนายมาร์ค เอสเปอร์ (Mark Esper) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา พร้อมลงนามแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมไทย-สหรัฐฯค.ศ. 2020
เวลา 12.00น.หลังเสร็จสิ้นภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชูมือทำสัญลักษณ์“ไอเลิฟยู” ทักทายสื่อมวลชน แต่ทันทีที่ได้ยินคำถามกรณีรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ว่าได้พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิไทย(ภท.) แล้วหรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมโบกมือแล้วขึ้นรถกลับไปทันที
‘สิระ’ปักหลักท้าชน’เสรีพิสุทธิ์’
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน ใช้อำนาจรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.คำสั่งเรียก เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงปมถวายสัตย์ไม่ครบและไม่มีอำนาจเสนอกฎหมายงบประมาณว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีพฤติกรรมใช้อำนาจเกินขอบเขต ซึ่งไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากว่าในวันประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติที่ประชุม 6 ต่อ 3 เห็นด้วยที่จะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงต่อคณะกมธ.อีกครั้ง แต่ไม่ได้มีมติเห็นด้วยที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 129 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 ประกอบมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพ.ศ.2554
ไม่ได้มีมติรับรองให้ใช้ม.129
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลงนามในหนังสือเชิญโดยไม่ผ่านมติของที่ประชุม นั่นหมายความว่า ผู้ลงนามต้องรับผิดชอบเรื่องที่ทำหนังสือฉบับดังกล่าว การกระทำที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ผมไม่ไว้วางใจที่จะให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปฎิบัติหน้าที่เป็นประธาน กมธ.ชุดนี้อีกแล้ว ผมอยากให้สังคมดูพฤติกรรมและการกระทำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่ากำลังใช้หัวโขนประธาน กมธ.มาเป็นเครื่องมือในเรื่องความแค้นส่วนตัวหรือไม่”นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ตนเป็นกรรมาธิการในชุดนี้ด้วยขอฝากไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่ต้องสนใจจดหมายเรียกเชิญดังกล่าว เพราะตนมั่นใจว่าหนังสือเรียกฉบับนี้ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะการจะออกหนังสืออะไรก็ตามในชั้นกรรมาธิการ ต้องผ่านมติที่ประชุมกรรมาธิการในทุกเรื่อง ไม่ใช่เอาความคิดของผู้ที่เป็นประธาน มายัดใส่ว่ากรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย ทั้งนี้ ตนขอท้าให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอดเทปบันทึกการประชุมในวันดังกล่าว และนำมาเปิดเผย เพื่อพิสูจน์ว่ามีการขอมติที่ประชุมที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 129 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 หรือไม่ หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กระทำเกินขอบเขต ไม่ตรงกับเทปบันทึกการประชุมในวันนั้น ตนขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลาออกจากการเป็นประธานด้วยตนเอง ก่อนที่จะถูกมติที่ประชุมปลด เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเสนอปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นายสิระ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าเสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวประธาน ขอให้ติดตามดูในวันพุธที่ 20 พ.ย.นี้ ตนจะเป็นคนเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว
เตือน’อนค.’อย่าหวังปลุกม็อบ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่จัดงาน”อยู่ไม่เป็น”ว่า การจัดงานระดมพลต่างๆ อย่างสร้างสรรค์สามารถทำได้ แต่ขออย่างเดียวว่าอย่าปลุกม๊อบลงถนนอีก เพราะบ้านเมืองมีความสงบแล้ว อย่าหวนไปสู่จุดเดิมอีก ประชาชนต้องการให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข การใช้คำว่าอยู่ไม่เป็นถือเป็นเพียงวาทกรรมอย่างหนึ่งที่ต้องการปลุกกระแสเพื่อกลบผลการกระทำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังประสบอยู่ใช่หรือไม่ เป็นชะตากรรมของนายธนาธรที่เกิดจากผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นมาใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มีการนำพี่น้องประชาชนมาเป็นเกราะป้องกัน
นายธนกร กล่าวอีกว่า สังคมไทยเป็นประเทศแห่งรอยยิ้ม ประชาชนชอบให้เมืองเมืองสงบ ไม่อยากให้การเมืองสร้างความขัดแย้งในสังคมอีก วันนี้ประชาชนมีความสุข บ้านเมืองสงบ รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย อย่าพยายามบิดเบือนโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมอีกเลย เพราะพล.อ.ประยุทธ์รักประเทศ รักประชาชน พรรคการเมืองเมื่อผ่านการเลือกตั้งมาแล้วมีปัญหาอะไรก็นำเข้าสู่กลไกรัฐสภา แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ยอมเดินไปข้างหน้า จมปลักอยู่กับอดีตมากเกินไป อยากให้หันมาร่วมกันพัฒนาประเทศตามระบอบประชาธิปไตย บางสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ทำมันสวนทางกับความเป็นไปของสังคมไทย วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ถูกต้องพี่น้องคนไทยตาสว่างแล้ว
โพลล์ชูคนกลางนั่งปธ.ศึกษาแก้รธน.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,257 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-14พ.ย.2562 โดยเรื่องที่มาของประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่าประชาชนร้อยละ 59.11 ระบุว่า ควรมาจากคนนอกที่ไม่ใช่ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านและรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 16.63 ระบุว่า ควรมาจากตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร้อยละ 12.89 ระบุว่า ควรมาจากตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวคิด/พฤติกรรมเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญที่ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญพึงมี พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.07 ระบุว่า เป็นคนที่ไม่ได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ อย่างชัดเจนจากรัฐธรรมนูญ 2560 รองลงมา ร้อยละ 21.32 ระบุว่า เป็นคนที่สนับสนุน รัฐธรรมนูญ 2560 อย่างชัดเจน ร้อยละ 15.19 ระบุว่า เป็นคนที่เคยร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน
เมื่อถามถึงระยะเวลาในการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 46.22 ระบุว่า ไม่เกิน 6 เดือน รองลงมา ร้อยละ 32.06 ระบุว่า ไม่เกิน 1 ปี ร้อยละ 11.14 ระบุว่า ไม่ควรมีกำหนดระยะเวลา ร้อยละ 6.29 ระบุว่า ไม่เกิน 2 ปี ร้อยละ 2.94 ระบุว่า ไม่เกิน 3 ปี ร้อยละ 0.32 ระบุว่า ไม่เกิน 5 ปี และร้อยละ 1.03 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เลือกซ่อมวัดพลังรบ.-ฝ่ายค้าน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต7 ขอนแก่นว่า ถ้ากกต.สามารถบริหารจัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม แข่งขันกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ตรงไปตรงมา เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลาง ไม่มีการใช้กลไกอำนาจรัฐเข้าไปแทรกแซง ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทุจริตการเลือกตั้ง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับผลการเลือกตั้งที่ดี 5ปีที่ผ่านมาผลงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งตอนเป็นรัฐบาลทหาร หรือรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ไม่มีอะไรใหม่ ประชาชนอยู่กันอย่างยากลำบาก ปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่ง ค่าครองชีพสูง รายได้ต่ำ เอสเอ็มอีพัง สตาร์ทอัพไม่ได้เกิด ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ คนตกงานเฉพาะบัณฑิตจบใหม่ก็สูงถึง 500,000 คน ปัญหายาเสพติด ปัญหาความเหลื่อมล้ำ คุณภาพชีวิต คุณภาพสังคม ลดต่ำลง การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จึงเป็นการพิสูจน์ศรัทธาประชาชนว่า จะมอบคะแนนให้ฝ่ายค้านไปตรวจสอบรัฐบาล หรือมอบคะแนนไปเพิ่มความมั่นใจให้ฝ่ายรัฐบาลว่าการทำงานที่ผ่านมาประชาชนพึงพอใจ ประชาชนคนขอนแก่นตัดสินใจได้และตัดสินใจแล้ว
นายอนุสรณ์กล่าวว่า โอกาสครั้งสำคัญที่ประชาชนชาวขอนแก่นจะได้ทำหน้าที่แทนคนไทยทั้งประเทศ ในการเลือกฝ่ายค้านเข้าไปตรวจสอบ กระตุกความเข้าใจผิดของพล.อ.ประยุทธ์กลับมา ถ้ารัฐบาลแพ้เลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีสารพัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา เพราะกลัวว่าภัยจะลามมาถึงตัว กลัวจะมีสารพัดม็อบมาขับไล่ไม่สามารถอยู่ยาวอย่างที่ใจต้องการได้ ที่สุดประชาชนจะได้ประโยชน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี