“ศรีสุวรรณ” จี้กกต.เร่งดำเนินคดีอาญา “ธนาธร” พ่วงเอาผิดพยาน10ปาก “ภรรยา-มารดา” โดนด้วย ฐานเบิกความเท็จต่อศาล ลุยยื่นศาลรธน.เอาผิด“พ่อฟ้า”ปากดีวิจารณ์เสียดสีไม่รับคำวินิจฉัย
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้เร่งดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของนายธนาธรสิ้นสุดลง เนื่องจากถือหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชัดเจนและตามกฎหมายถือเป็นเด็ดขาดผูกพันทุกองค์กร
จึงอยากให้ กกต.ดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 151 ที่กำหนดว่าบุคคลที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วยังมาลงสมัครต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี โดยยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งโดยเร็ว
นอกจากนี้ ขอให้ กกต. ดำเนินการตรวจสอบพยาน 10 ปากที่ศาลเรียกไต่สวนในคดีนี้เนื่องจากทั้งหมดเป็นพยานฝ่ายนายธนาธร ซึ่งจากคำวินิจฉัยของศาลในคดีนี้ชี้ให้เห็นว่าการให้ถ้อยคำของพยานทั้งหมดต่อศาลในชั้นไต่สวนไม่ได้เป็นไปตามข้อเท็จจริงอาจจะเป็นการเบิกความเท็จต่อศาลได้ ซึ่งก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เดือนหรือปรับไม่เกิน 1หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น หาก กกต.เห็นว่าละเมิดจริงก็ขอให้เร่งดำเนินการส่งฟ้องตามกฎหมาย
นายศรีสุวรรณ ยังเห็นว่ากรณีของนายธนาธร ยังไม่ขั้นทำให้ต้องยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้จะมีผู้มองว่า กกต. สามารถเอาผิดได้ตามมาตรา 132 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. แต่ตนก็มองว่ากฎหมายมาตราดังกล่าวกำหนดลักษณะการกระทำที่ กกต. พบก่อนการเลือกตั้ง แต่กรณีของนายธนาธร กกต.พบหลังเลือกตั้งไปแล้ว อย่างไรก็ตามยังมีหลายคำร้องที่มีน้ำหนัก ซึ่งตนยื่นขอให้พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ เช่น กรณีนายธนาธร ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายศรีสุวรรณ ก็ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ดำเนินการกับนายธนาธร ฐานละเมิดศาลจากกรณีหลังศาลมีคำวินิจฉัยในคดีนี้แล้วนายธนาธรให้สัมภาษณ์ในลักษณะไม่ยอมรับคำวินิจฉัย โดยมีการะบุว่า ศาลยึดข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์ในการวินิจฉัย รวมทั้งที่มีการระบุว่า ศาลไม่เคยทำธุรกิจจึงไม่เข้าใจรสนิยมในการลงทุน ซึ่งนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ถ้อยคำลักษณะดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายเป็นการเสียดสี ตามมาตรา 38 วรรคท้ายและมาตรา 39ของพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบข้อ10 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ศาลดำเนินการตรวจสอบ
“ที่นายธนาธรอ้างว่า ไม่ได้ใช้คำหยาบคาย แสดงความเห็นโดยสุจริต เรื่องนี้นายธนาธร ไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่า คำพูดของตัวเองเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นศาลหรือไม่ ต้องให้ศาลในฐานะผู้ถูกกระทำเป็นผู้วินิจฉัยตามหลักเกณฑ์ข้อ 10 ของข้อกำหนดศาลฯ หรือไม่” นายศรีสุวรรณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี