พปชร.ยันมีทติ้งพรรคร่วมรบ.
‘บิ๊กตู่’มาแน่
ร่วมวงกินข้าวกระชับสัมพันธ์
เผยตอบรับหมดทุกพรรค
นายกฯแนะดูสารคดีสงคราม
แล้วจะรู้ต้องมีทหารไว้ทำไม
แกนนำ พปชร.ยืนยัน“บิ๊กตู่”ตอบรับกินข้าวกระชับมิตรพรรคร่วมรัฐบาล 3 ธันวาคม “เสี่ยหนู” ไปแน่นอนเปรียบเทียบทำงานกับรัฐบาล เหมือนลูกอมรสน้ำผึ้งผสมมะนาว ขณะที่ นายกฯแนะดูสารคดีสงคราม แล้วจะรู้มีทหารไว้ทำไมแนะชูจุดขายประเทศไทย 3ด้าน‘ธรรมชาติสวย-อาหารอร่อย-ยิ้มสยาม’ด้าน’บิ๊กป้อม’ฮึ่ม’ธนาธร’อย่าปลุกม็อบขัด กม.ส่วนประธานวิปรัฐบาล โว4ธ.ค.สส.มาประชุม253 คน มั่นใจไม่สภาล่มรอบ3
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2ธันวาคม ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานเปิดตัว เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย (Thailand Responsible Business Network : TRBN) และงานสัมมนา ‘ถึงเวลา เติบโต ร่วมกัน’ โดยมี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมงาน
‘บิ๊กตู่’วอนช่วยทำประเทศสงบสุข
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า “วันนี้กฎหมายอาจจะออกยากสักนิด เพราะต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่มีปัญหาหรอก ถ้าทุกคนเข้าใจในเป้าหมายของเราว่า กำลังจะร่วมมือทำอะไร เราจะต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียวคงไม่ได้ มันต้องเอาผลประโยชน์ชาติเป็นสำคัญ ผมไปทุกประเทศเขาชื่นชมประเทศไทย บ้านเมืองมีเสถียรภาพ สงบเรียบร้อย แม้จะมีปัญหาทางการเมืองเป็นธรรมดา ขอฝากทุกคนที่เป็นคนไทย ช่วยทำให้บ้านเมืองสงบสุข มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่น อะไรไม่ใช่ปัญหาหลักปัญหาใหญ่ หยุดกันเสียบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าอะไรไม่ได้ ความขัดแย้งก็สูง ประชาชนก็ไม่เข้าใจ เดินอะไรไม่ได้สักอัน ได้อะไรมาก็ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์
ทุกวันใช้กม.ปกติ-อย่าขุดจบได้แล้ว
นายกฯกล่าวต่อว่า วันนี้ทุกประเทศใช้ภาคเอกชนในการนำพาประเทศทั้งสิ้น รัฐบาลไม่สามารถทำทั้งหมดได้พร้อมๆกัน มันทำให้เราช้าลง อย่างจะขุดคลองระบายน้ำไปไหนก็ทำไม่ได้ แต่ทุกคนก็ไม่ต้องการน้ำท่วม แต่จะให้มีน้ำใช้ ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เพราะต้องต่อเนื่องกัน นั่นแหละเรื่องอันตรายสำหรับประเทศไทย ทุกเรื่องมีปัญหาหมด ทุกคนต้องร่วมมือและคิดไปกับ ไม่อย่างนั้นมันทำไม่ได้ ไม่ว่าจะมาตรา 88มาตรา 99 วันนี้ไม่มีแล้ว มีแต่กฎหมายปกติ อย่ามาเรียกร้องอีก แก้ไปตั้งเยอะกับสิ่งที่แก้ได้ แต่ยังไม่จบสิ้นกันซักที ขณะที่การวางแผนงานเมื่อเกษียณทุกคนต้องเตรียมแผนงานไว้ ตนก็คิดแค่นั้นแหละ ยังคิดว่าเป็นนายพลก็เก่งแล้ว ไม่คิดจะมาเป็นนายกฯ วันนี้ก็ยังคิดมาเป็นได้อย่างไร แต่ก็ด้วยสถานการณ์ ดังนั้นทุกคนก็มีโอกาสด้วยกันทั้งสิ้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศและสังคมของเรา
ทหารมีไว้ทำไมให้ดูสารคดีสงคราม
นายกฯกล่าวอีกว่า ตนอยากให้ทุกคนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ มันไม่ใช่จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เช่นสงคราม ถ้ามันเกิดขึ้นก็จะแรงกว่าเดิม ตนดูในช่องสารคดีผ่านทางเน็ตฟลิกซ์ ถ้าย้อนกลับไปดูจะเห็นความน่ากลัว ความเสียหายที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ทั้งจากสงครามโลกครั้งที่1และ2 เกิดจากความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ ความขัดแย้งและเมื่อเกิดขึ้นในต่างประเทศก็จะเกิดการรวมกลุ่มขึ้นมา ทั้งฝ่ายตะวันตก อักษะ พันธมิตรและจะรบกันด้วยนิวเคลียร์ เรายังไม่มีปัญหาถึงขั้นขนาดนั้น แต่มันจะเกิดขึ้นที่อื่น เราก็ต้องเตรียมตัวของเราไว้ตรงนี้ เพราะเมื่อมันเกิดตรงอื่น ตรงนี้ก็จะเกิด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีทหารไว้ทำไม ‘สื่อก็อย่าไปขยายความขัดแย้งอีก พออ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็ท้อ แต่วันนี้ก็ต้องฮึดสู้ เพราะถ้าเราท้อ มันก็ไปต่อไม่ได้ เขาเชื่อมั่นให้ผมเป็นผู้นำ ก็ต้องทำให้ได้’ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
‘ธรรมชาติ-ยิ้มสยาม-อาหาร’จุดขาย
‘บ้านเรามีปัญหาหลายเรื่อง ทุกคนเลยต้องช่วยกัน เพิ่มการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ จึงขอฝากไว้ด้วย ผมไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง แต่เป็นนักธุรกิจปฎิบัติ เมื่อทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน บ้านเมืองก็ไปได้ หวังว่าไตรมาสแรกในปีหน้า เศษฐกิจจะดีขึ้น ประเทศไทยไม่เคยขัดแย้งกับใคร มีแต่ขัดแย้งกันเอง จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ให้ประเทศมาก่อน เพราะ3อย่างที่ต่างชาติชื่นชม คือ ธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อยและยิ้มสยาม นี่คือโอกาสที่ต้องชูจุดขายตรงนี้ ประเทศไทยไม่มีความขัดแย้งกับใคร มีแต่ความขัดแย้งกันเอง แต่ขอทุกคนให้ความร่วมมือกันให้ประเทศมาก่อน’นายกฯกล่าว
ยังกั๊กหม่ำข้าวกระชับมิตรรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนัดพบปะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล รับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันที่สนามกอล์ฟราชพฤกษ์ ในวันที่ 3ธันวาคม ว่า ขอดูก่อน กำลังดูอยู่ เมื่อถามว่าหากนายกฯไม่ไปจะมอบหมายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯไปแทนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไปอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า แต่พรรคร่วมต้องการให้นายกฯไปด้วย นายกฯ กล่าวว่า “ถ้าผมไปก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรหรอกมั้ง ถ้าไปเยี่ยม ไปอะไรหน่อยก็คงจะได้มั้ง” เมื่อถามอีกว่าตกลงจะไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ ก่อนจะเดินเข้าลิฟท์ไป
‘พุทธิพงษ์’ยันนายกฯไปแน่นอน
ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตัลเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 3ธันวาคมนี้ เวลา 18.00น.ที่สโมสรราชพฤกษ์ โดยการนัดครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาตร์พรรคพปชร.เป็นผู้ดำริและมอบหมายให้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร.เป็นผู้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯจะแวะไปทักทายพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลและได้ทำงานร่วมกันมา เบื้องต้นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลตอบรับหมดแล้ว
‘เสี่ยหนู’เปรียบน้ำผึ้งผสมมะนาว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันว่า จะไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่ติดธุระอะไร สถานการณ์พรรคร่วมรัฐบาลยังดีอยู่ ไม่มีปัญหาอะไร ขอสื่ออย่าทำให้มีเรื่อง ยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคนมาทำงาน การพบปะวันพรุ่งนี้จะทำให้การทำงานระหว่างพรรคร่วมดียิ่งขึ้นไปอีก เปรียบเสมือนฮอลล์รสน้ำผึ้งผสมมะนาว ชีวิตบางครั้งก็เปรี้ยวบางครั้งก็หวานปานน้ำผึ้ง
‘ป้อม’ฮึ่มธนาธรอย่าก่อม็อบขัดกม.
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.ลาออกจากคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 เพื่อปลุกม็อบชุมนุมบนท้องถนนว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของ นายธนาธร ตนจะไปรู้ได้อย่างไร แต่หากมีการปลุกม็อบ ก็อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน
ย้ำกองทัพใช้งบประมาณโปร่งใส
เมื่อถามว่า การที่ นายธนาธร ออกมาเปิดเผยการใช้เงินนอกงบประมาณกองทัพโดยไม่มีการตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กองทัพทำเรื่องของสวัสดิการให้ประโยชน์กับข้าราชการทหาร ประชาชนและข้าราชการที่มีรายได้น้อยทุกคน ทั้งนี้ คงไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม เพราะโปร่งใสอยู่แล้ว โดยมีผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ตรวจสอบอยู่ คนที่ดำเนินการจะไปโกงได้อย่างไร เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวและเปิดเผยเรื่องดังกล่าวมีเป้าประสงค์อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องการทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งกองทัพไม่มีอะไร ที่สำคัญกองทัพมีผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นตรวจสอบการใช้เงินอยู่แล้ว การจะใช้เงินออกไป มีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนจะชี้แจงรายละเอียดเพื่อป้องกันสังคมเข้าใจผิดหรือไม่นั้น ตนก็ชี้แจงอยู่ในตอนนี้ ถามว่าจะชี้แจงอะไรอีก
ส่วนประเด็นการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ พล.อ.ประวิตรระบุว่าเรื่องยุทโธปกรณ์ไม่ต้องพูดเนื่องจากกองทัพมีการวางแผนงานเป็นระยะ10-20ปี การจัดซื้อจัดหา มีคณะกรรมการดำเนินการทุกขั้นตอนทั้งคณะกรรมการจัดหาและคณะกรรมการตรวจรับ ไม่เช่นนั้นกองทัพคงไม่เป็นกองทัพมานานขนาดนี้เราทำตามระเบียบทุกอย่างทุกขั้นตอนไม่ต้องห่วง
กห.พร้อมปฏิรูปกองทัพโฉมใหม่
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงบางพรรคการเมืองเสนอแนวคิดยกเลิกเกณฑ์ทหารและเสนอพัฒนากองทัพให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมประเทศอื่นด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ทดแทนกำลังพล ว่า กองทัพก็พร้อมเปิดกว้าง รับแนวคิดต่างๆมาปรับปรุงสู่การเปลี่ยนแปลงกองทัพให้มีความทันสมัยขึ้น ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ด้วยกลไกรัฐสภา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและสถานะเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศในภาพรวม ซึ่งการเสนอแนวคิดการยกเลิกเกณฑ์ทหารและสรรหากำลังพลด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นแนวทางการปฏิรูประบบงานกำลังพลระยะยาว ที่กระทรวงกลาโหมมีอยู่เดิม โดยมีแผนงานต่อเนื่องในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาระบบกำลังสำรองและการฝึกวิชาทหาร
ย้ำเกณฑ์ทหารต้องมี-ยุโรปหันใช้อีก
พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาจากสถิติผู้สมัครใจเข้าเป็นทหาร ยังคงมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของกองทัพในแต่ละปี เช่นเดียวกับหลายประเทศที่เคยยกเลิกการเกณฑ์ทหาร กำลังเตรียมผลักดันให้กลับมามีการเกณฑ์ทหารเช่นเดิม โดยเฉพาะประเทศในยุโรป เนื่องจากยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจเยาวชนให้เข้าเป็นทหารได้มากเท่าที่จำเป็นและมองว่าเป็นโอกาสที่คนหนุ่มสาวจะได้ทำประโยชน์คืนแก่ประเทศและสังคม และเชื่อว่าเป็นความภาคภูมิใจของทุกคน ในภาพรวม จึงเร็วเกินไปที่จะปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดังกล่าว โดยจำเป็นต้องศึกษาถึงผลกระทบด้านความมั่นคงและประเด็นปัญหาต่างๆอย่างรอบด้าน เช่น การขาดแคลนกำลังพลสำรองซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นกำลังทางยุทธศาสตร์ของระบบเตรียมความพร้อมของประเทศยามวิกฤต การเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการพลทหารซึ่งเป็นเรื่องดี แต่อาจเป็นปัญหาภาระงบประมาณของประเทศระยะยาว ซึ่งอาจมีผลเชื่อมโยงต่อการปรับขยายฐานเงินเดือนและสวัสดิการของข้าราชการระดับต่างๆทั้งประเทศในอนาคต
‘สิระ’โร่ร้อง ปปช.เชือด‘เสรีพิสุทธ์’
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือถึง ปปช.เพื่อขอให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2กรณี คือ1.แต่งตั้งที่ปรึกษาประธาน กมธ.โดยอ้างมติลงวันที่ 20พ.ย.2562 แต่ นายวัฒนา เมืองสุข ผู้ได้รับการแต่งตั้ง กลับนำไปเผยแพร่ในวันที่ 18พ.ย.2562 ถือเป็นเอกสารเท็จ เพราะลงนามคำสั่งก่อนจะประชุม กมธ.ปปช.เป็นการแต่งตั้งไปก่อนโดยอ้างเป็นมติ กมธ.ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและปลอมแปลงเอกสารราชการ เนื่องจากมีตราครุฑด้วย อีกทั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า มีคำสั่งดังกล่าวจริงและลงนามจริง แต่ต่อมาได้มีคำสั่งยกเลิก
ชี้ผิด ม.157ปลอมเอกสารราชการ
นายสิระ กล่าวว่า กรณี กมธ.ปปช.ลงมติ 6ต่อ3 เรื่องจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจง กรณีเสนอร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ทั้งที่นายกฯและรองนายกฯยังไม่สามารถเข้ารับหน้าที่ได้ เนื่องจากถวายสัตย์ปฏิญาณฯไม่ครบถ้วน ทั้งที่มติที่ประชุม กมธ.ปปช.ให้ออกหนังสือเชิญมาเป็นครั้งๆ ไม่ใช่ออกคำสั่งเรียก ดังนั้นการออกคำสั่งเรียกดังกล่าว จึงไม่ใช่มติของที่ประชุมกมธ.ปปช.จึงถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายสิระ กล่าวอีกว่า ขอให้ ปปช.ไต่สวนและแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อดำเนินคดีและลงโทษตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายอาญามาตรา157,162(4),90,91และพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ต่อไป ยืนยันว่า กมธ.ปปช.ยังทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ประชาชนได้ หากเป็นเรื่องการดำเนินการที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดระเบียบข้อบังคับ กมธ.ปปช.ก็พร้อมจะตรวจสอบ
‘วิรัช’ยืนยันประชุมสภา4ธค.ไม่ล่ม
ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 4ธันวาคมนี้ จถอนญัตติที่ขอให้นับคะแนนใหม่ เรื่องญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตาม มาตรา44หรือไม่ ว่า ไม่มีการทบทวนมติเรื่องขอให้นับคะแนนใหม่ แต่จะหารือว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมครบ เพื่อให้โหวตลงมติได้ ยืนยันว่า ญัตติที่เสนอให้นับคะแนนใหม่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะข้อบังคับดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงที่มีผ่านมามีการใช้อยู่ตลอดและเขียนล้อตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสิ่งที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัยถูกต้องแล้ว
เชื่อสส.มา253คน-ขาด’ปู่ชัย’ป่วย
เมื่อถามว่า นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. ออกมาระบุว่า อย่าโทษพรรคปชป.เพียงพรรคเดียว ที่โหวตสวนมติวิปรัฐบาล นายวิรัตน์ กล่าวว่า ขอให้มาครบองค์ประชุมและมั่นใจว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 4ธันวาคม จะมีองค์ประชุมครบ 249เสียง คาดว่ารัฐบาลจะมีสส.มาร่วมประชุม 253คน ขาดเพียงคนเดียว คือ นายชัย ชิดชอบ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ป่วย
เมื่อถามว่า หากองค์ประชุมล่มครั้งที่3จะรับผิดชอบอย่างไร นายวิรัช กล่าวว่า ต้องดูเหตุผลที่องค์ประชุมไม่ครบว่าเพราะอะไร เป็นหน้าที่สส.ทุกคนที่ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยกัน ถ้าไม่ครบผู้ใหญ่ก็ต้องมีมาตรการออกมา แต่ยังไม่มีการพูดถึงว่าจะเป็นแบบใด
พท.โวยปล่อยข่าวใส่ร้าย’หญิงหน่อย’
ขณะที่ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธาน สส.ภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์กรณีมีการปล่อยข่าวจากผู้ไม่หวังดีว่า สส.อีสานไม่พอใจการทำงาน ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค พท.ว่า ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นการให้ข่าวเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ร่วมกับสส.อีสานทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ต่างชื่นชมถึงความทุ่มเท ความเสียสละ ที่คุณหญิงทำให้กับพรรคและคนอีสานก็รัก คุณหญิงสุดารัตน์ ดังนั้นขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า1.คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นผู้บริหารพรรค ได้ทุ่มเททำงานอย่างหนัก สส.อีสานทุกคนขอเป็นกำลังใจให้คุณหญิงสุดารัตน์และจะยืนเคียงข้างทำงานให้ประชาชนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี