686องค์กรจ่อฟ้องสุริยะ
ยื่นศาลปกครองเอาผิด
ปมพลิกมติแบน3สาร
“มนัญญา”แจงที่ประชุมสว.ยันทำตามนโยบายรัฐบาล แต่ข้องใจมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เลื่อนแบน2 สาร “พาราควอต – คลอร์ไพริฟอส”จำกัดใช้ไกลโฟเซต รมว.อุตฯยังไม่เซ็นประกาศเป็นทางการ ไม่มีผลทางกฎหมาย โยนถามสุริยะในฐานะประธานฯ ด้านเครือข่ายหนุนแบน 3 สารพิษฯ 686 องค์กร ประกาศฟ้อง “สุริยะ” ต่อศาลปกครอง อัดกระบวนการลงมติ 27 พ.ย.62มิชอบ
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามของนพ.อำพล จินดาวัฒนะ และ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล ส.ว. เรื่อง การยกเลิกการใช้การวัตถุอันตราย 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต
โดย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงการยกเลิกใช้ 3 สารเคมีดังกล่าวว่า ตนมีหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล สำหรับการดำเนินการเฉพาะสารเคมีทางการเกษตร ซึ่งอยู่ในพ.ร.บ.วัตถุอันตรายนั้น ขณะนี้ยังไม่ประกาศลงนามโดย รมว.อุตสาหกรรม ตนจึงไม่อาจคาดการณ์ และนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติได้ ซึ่งรมว.เกษตรฯตั้งคณะทำงานโดยมีปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธานเพื่อรองรับการดำเนินการไว้แล้วซึ่งการจำกัดการใช้จะเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ ถ้าตัวเองยังได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรอยู่
ทั้งนี้คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมเมื่อวันที่ 27พฤศจิกายนรายละเอียดเป็นไปตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวและยังไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด จึงยังไม่อาจชี้แจงยืนยันมติดังกล่าวได้ สำหรับกระทรวงเกษตรฯเสนอห้ามใช้วัตถุอันตรายไปแล้ว 89 ชนิด แต่การประกาศยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าวต้องอาศัยอำนาจตามมาตรา 18 ของพ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535ที่มีรมว.อุตสาหกรรมเป็นประธาน
“ขอบคุณ ส.ว. ที่มีความห่วงใยสุขภาพของประชาชน เนื่องจากสารเคมี 3 ชนิดนี้หลายประเทศเลิกการใช้แล้ว เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกษตรกรมีสิทธิได้รับสิทธิต่างๆที่กระทรวงเสนอให้ ดังนั้น จะดำเนินการเร่งรัดเรื่องนี้” น.ส.มนัญญา กล่าว
ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความเห็นต่างกรณียกเลิกใช้ 3 สารเคมีของพรรคร่วมรัฐบาลว่า สิ่งที่ควรเร่งให้เกิดขึ้นคือพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 3พรรค ต้องเร่งเดินหน้าพูดคุยกันว่าจะมีมาตรการใดช่วง 6 เดือนที่เลื่อนแบนสารเคมี ต้องคุยกันให้ชัดเจน เพราะทั้งสองฝ่ายจะไม่หยุด เมื่อชะลอการแบนสารเคมีไป 2 ตัวแล้ว แต่ยังเหลืออีกตัวหนึ่งที่ไม่มีการแบน ฝ่ายที่อยากให้แบนก็ต้องสู้ต่อ ส่วนฝ่ายเกษตรกรที่ไม่อยากให้แบนก็สู้ต่อเช่นกัน เพราะต้องการควบคุมสารเคมีทั้ง 3 ตัว โดยไม่ให้แบน หากฝ่ายการเมืองยังไม่มีข้อสรุปลงตัวชัดเจน สุดท้ายจะเกิดความขัดแย้งในภาคประชาชน จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีน่าจะเรียกทั้ง 3 ฝ่ายมาคุยกันว่าจะทำอย่างไรต่อ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรกลับมติ ควรยืนยันการแบนสารเคมีทั้ง 3 ตัว โดยให้มีบทเฉพาะกาลช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือน กำหนดมาตรการผ่อนผันหาทางออกให้เกษตรกรปรับตัว และทุกอย่างจะราบรื่นมากขึ้น
นพ.ระวียัง เสนอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วน ตั้งคณะกรรมการร่วมศึกษาวิจัยหาความจริงโดยมีตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายเก็บตัวอย่างทั้งน้ำและดินหรือสุ่มตรวจขี้เทาของเด็กแรกเกิดว่ามีสารพิษตกค้างจริงหรือไม่ และให้มีคนกลางอย่างแพทยสภาและควรศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศว่าทำไมสามารถแบนสารพิษได้โดยไม่มีการประท้วง เพราะมีกระบวนการทำความจริงให้ปรากฏที่ค่อนข้างชัดเจน
“ส่วนตัวแล้วต้องการให้แบนสารเคมีภาคเกษตรกรรมทุกชนิดและต้องการให้ทำเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบซึ่งกรรมาธิการ เคยเชิญหน่วยงานทางการเกษตรและผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ตัวแทนมารายงานข้อมูล พบผลที่น่าตกใจว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์อยู่นิดเดียว มีนาข้าวสูงสุดที่หลักแสนไร่ ส่วนที่เหลือเป็นหลักพันและหลักหมื่นไร่เท่านั้น” นพ.ระวี กล่าวย้ำ
พร้อมยังขอเสนอให้รัฐบาลตั้งเรื่องเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติกำหนดโซนนิ่งปลูกเกษตรอินทรีย์ให้ชัดเจน มีฝ่ายการตลาดทำตลาดให้พื้นที่เกษตรอินทรีย์คาดว่าจะทำให้พื้นที่เกษตรอินทรีย์มีจำนวนมากขึ้นทุกปี หากทำแบบนี้เกษตรกรจะมีโอกาสปรับตัวและจะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตอาหาร แต่หากประกาศแบนทันที ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะมีข้าวโพดกินไหม จะมีผักกินพอหรือไม่เพราะเกษตรกรปลูกผักด้วยสารเคมีจากความเคยชิน หากประกาศแบนทันทีอาจกระทบ ไม่ได้ผลิตผล ซึ่งตนเองทำมา 30 ปี การจะทำให้เกษตรอินทรีย์ได้ผลต้องเตรียมดินอยู่ 2-3 ปี ต้องอดทนที่มันจะขาดทุนไปก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี