เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลจำเป็นต้องดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่มาร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า โดยย้อยนถามว่า “ก็เขามาหรือไม่ เขาจะมาหรือไม่ ถ้าจะมาก็มา ถ้าสนใจก็มา เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมืองที่จะไปพูดคุยกัน”
เมื่อถามว่า หากพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้ามาร่วมรัฐบาล จะจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ หัวเราะในลำคอ พร้อมกล่าวว่า “ ไม่ใช่ ให้มาก่อน แล้วค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งมาต่อรองอะไรในวันนี้ ถ้ามาแล้วสัดส่วนการจัดครม.จะเป็นอย่างไร เพราะแต่ละพรรคมีโควตาอยู่ไม่ใช่หรือ จะมา 3-4-5-6 คนจะมากันอย่างไร อยู่กันตรงไหนไปว่ากันอีกที ก็ต้องไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะรัฐมนตรีเรามีอยู่จำนวนแค่นี้ ถ้าเข้ามาแล้วขอตำแหน่งรัฐมนตรีเลย แล้วจะทำอย่างไร คนเก่าจะไปอยู่ที่ไหน มันต้องไปคุยและตกลงกันก่อน เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะไปคุยกัน”
เมื่อถามว่าจะมอบหมายให้ใครเป็นผู้ประสานงานและเจรจา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ต้องมาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ผ่านแกนนำของพรรค ก็ต้องไปคุยกัน จะมาคุยอะไรกับตน ผมก็หวังว่าวันนี้ทุกพรรคจะมาร่วมกันทั้งหมด จะมากันหรือไม่ละ อย่างไรก็ตาม ที่มีข่าวว่าบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลพอใจหลังได้ร่วมกินข้าวกับผมนั่น คงไม่ใช่ เรื่องกินข้าวก็ส่วนเรื่องกินข้าว ส่วนจะมีการนัดพบปะกันทุกเดือนหรือไม่นั้น ต้องดูเวลาและความเหมาะสมของผม และที่ผมไปไม่ได้ไปจับตา หรือก้าวล่วงอะไรสักอย่าง เพียงแต่ไปทำความเข้าใจว่าผมเป็นอย่างไร ตัวผมคืออะไร และผมทำเพื่อใคร ทุกคนร่วมมือกันกับผมได้หรือไม่ หลายอย่างผมได้พูดไปว่า รัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งบางคนก็ยอมรับว่าไม่รู้เรื่อง ดังนั้นวันนี้เราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผมก็ฟังทุกคน อะไรที่ไม่เข้าใจก็ได้อธิบาย ก็ดูว่าเข้าใจกันมากขึ้น
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเข้าใจอารมณ์นักการเมืองมากขึ้นแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจไปด้วย อารมณ์ก็คงเหมือนผม อย่างผมบางทีอารมณ์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยเหมือนกัน แต่ผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน เพราะฉะนั้น อย่างอื่นผมไม่คิด และหวังว่าทุกคนจะคิดแบบผม รวมทั้งสื่อมวลชน อย่าไปพาดหัวข่าวตัวโตๆ ไร้สาระ ปัดโธ่เอ้ย”
เมื่อถามว่าวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเป็นนักการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่มั้ง แต่ผมก็มีหลักการของผม ไม่ใช่จะการเมืองอย่างเดียว การเมืองจะต้องครอบคลุมในเรื่องของการมีธรรมาภิบาล เป็นผู้นำที่มีหลักการ ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำเพื่อการเมืองอย่างเดียว ถ้าทำเพื่อการเมืองอย่างเดียว ประเทศชาติก็ติดหล่มเหมือนเดิม เพราะปัญหามีมากมาย”
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการออกกำลังกายว่า อยากให้ทุกคนออกกำลังกันให้มากขึ้น ส่วนตัวก็ใช้วิธีออกกำลังกายที่บ้านและคงไม่จำเป็นต้องมานำออกกำลังที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะเคยนำมาแล้ว 1-2 ปี ทำไมจะต้องมาสอนเดินกันตลอดเวลา ทุกคนก็ต้องออกกำลังกายกันเอง ถ้าจะให้มานำออกกำลังกายอีก เดี๋ยวจะถูกต่อว่าจากเจ้าหน้าที่ว่าเรียกมาทำไม จะต้องทำงาน ส่วนข้างนอกก็จะบอกว่าไม่มีงานทำอย่างไร ก็โดนทั้งขาขึ้นขาร่อง ถ้าเลิกวิพากษ์วิจารณ์กันได้ ก็คงทำงานได้สบายกว่านี้ ยังมีสิ่งที่อยากทำอย่างอิสระกับตัวเรา ที่สามารถจะนำไปสิ่งอื่นๆ ได้อีกมาก แต่ทุกคนล็อคมาที่ตนทั้งหมด แล้วจะมาต้องการอะไรจากเราอีก วันนี้มีแต่ความหวัง ความศรัทธาและความเชื่อมั่น ซึ่งวันนี้ตนเชื่อมั่นในประชาชน เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ยังไม่พอกันอีกหรือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี