"นายกฯตู่"สั่งพลิกตำรา-กรณีศึกษาตปท.แก้ฝุ่นPM2.5โดยด่วน ห่วง"ยาแรง"กระทบเป็นลูกโซ่-สร้างปัญหาใหม่ เซ็งฝ่ายค้านแค่ลูกไม้ตีกินหวังถล่มรัฐบาล ถามกลับถ้าใช้กม.เคร่งครัดจริง"พท.-อนค."รับผิดชอบไหวไหม
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ของรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เล็งเห็นมาตลอดว่า ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 โดยไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวัง เตรียมหาแนวทางรับมือ ตลอดจนมาตรการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมจากกรณีศึกษา และการแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ ที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเป็นยาแรง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หากมีการใช้มาตรการยาแรงบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นที่เสนอกันมา อาทิ การจับรถควันดำทุกประเภทห้ามวิ่ง , จับรถบรรทุกไม่มีผ้าคลุมฝุ่น หรือโคลนติดล้อ , จัดการรถทะเบียนเลขคู่ - คี่ ให้วิ่งเฉพาะพื้นที่ หรือวันคู่วันคี่ รวมทั้งห้ามใช้รถอายุเกิน 10 - 15 ปี , ปิดโรงเรียนแล้วเปิดสอนทดแทนช่วงปิดเทอม ที่สถานการณ์ฝุ่นบรรเทาลง , สั่งปิดโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นเกินมาตรฐานทันที , ห้ามรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซลวิ่ง โดยบังคับให้ใช้เฉพาะน้ำมัน B5 วิ่ง , สั่งหยุดราชการ ปิดโรงเรียน ปิดศูนย์การค้า หรือจำกัดวันเพื่อลดการใช้รถ , หยุดการก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกชนิดเป็นการชั่วคราว และการเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะ ทั้ง ขสมก.หรือแท็กเป็นรถไฟฟ้า เป็นต้น ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน และจะกระทบต่อเป็นลูกโซ่อีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งหลายเรื่องก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ นายกฯ ก็เข้าใจเหตุผลความจำเป็น และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปวางมาตรการที่ค่อยเป็นค่อยไป จากเบาไปให้หนัก เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนมากเกินไป
"ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ยาแรง เป็นแค่ลูกไม้ตีกินทางการเมืองเท่านั้น เพราะรู้ดีว่า ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ไม่สามารถผลักดันมาตรการยาแรงให้เกิดขึ้นได้จริง และหากว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจใช้ยาแรงจริง ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่น โดยเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจ ก็คงถูกหยิบเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาลอย่างแน่นอน ตรงนี้ต้องถามกลับว่าพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอนาคตใหม่ จะร่วมกันรับผิดชอบหรือไม่ และประชาชนรับยาแรงขนานใดได้บ้าง ซึ่งแต่ละภาคส่วน แต่ละสาขาอาชีพ ก็ย่อมเห็นไม่ตรงกันอีก และจะมีผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนที่ตามมา ซึ่งคนเป็นรัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างรอบคอบระมัดระวัง ไม่แก้ปัญหาหนึ่งไปสู่อีกหลายปัญหา" แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี