เพื่อไทย ปลื้ม!ชื่นชม‘ชวน’ติงเสียบบัตรแทนกัน ห่วง‘วิษณุ’ทำสังคมสับสน‘ยุติธรรม’

เพื่อไทย ปลื้ม!ชื่นชม‘ชวน’ติงเสียบบัตรแทนกัน ห่วง‘วิษณุ’ทำสังคมสับสน‘ยุติธรรม’

วันเสาร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563, 11.17 น.

“ชุมสาย”​ ชี้​ การเสียบบัตรแทนกัน​ คือเจตนาทุจริต มีความผิดและมีโทษ​ทุกกรณี​ ห่วง “วิษณุ”​ ใช้อภินิหาร ชี้ถูกผิด ทำสังคมสับสนกระทบกระบวนการยุติธรรม 

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2563 นายชุมสาย​ ศรียาภัย  รองโฆษกพรรคเพื่อไทย​ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ส.ส. พรรคหนึ่งเสียบบัตรแทนกันในการลงมติ​ร่าง​ พรบ.งบประมาณ​ฯ พ.ศ.​ 2563​ และมีความพยายาม ทั้งจากฝั่ง​ ส.ว. และ​ ส.ส.แสดงความเห็นว่า ทำได้ไม่ขัดต่อกฎหมายนั้น​ ตนเห็นว่า โดยหลักบัตรประจำตัว​ ส.ส. คนใดคนนั้นเท่านั้นมีอำนาจ​ สิทธิในการออกเสียงเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของ​ สส. คนเดียว ไม่มีสิทธิมอบให้ผู้อื่นใช้สิทธิแทนได้ ดังนั้น​ ต้องถือว่า การเสียบบัตรแทนกันทำไม่ได้มีความผิดในทุกกรณี​ จึงขอวิงวอนว่า​ อย่าพยายามหาทางออกแบบศรีธนญชัยตีความให้ผิดไปจาก เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และหลักความสุจริต ตามวิถีทางในครรลองประชาธิปไตย​ เรื่องนี้ถือว่าผู้กระทำมีเจตนาทุจริต​ มีความผิดและมีโทษ​ตาม​กฎหมาย และถือว่าตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ​ มีผลเป็นโมฆะตาม​ รธน.​มาตรา​ 148 วรรคหนึ่ง​ (1) ซึ่งเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ในอดีตได้เคยถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวางหลักเป็นบรรทัดฐานไว้อย่างมั่นคงแล้ว​ในคดี​เลขที่ 3-4/2557 


“ผมขอชื่นชมความเห็นของท่านชวน​ หลีกภัย​ ประธานรัฐสภา ที่บอกว่า ไม่ว่า จะเสียบแทนกันในกรณีใดก็ทำไม่ได้  แม้เครื่องลงคะแนนมีไม่พอก็ตาม​ ถือว่า มีความผิดทั้งสิ้น” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว 

นายชุมสาย กล่าว ต่อว่า​ การที่นายวิษณุเครืองาม รองนายกรัฐมนตรี​ ด้านกฎหมาย  ที่มักจะออกมาให้ความเห็นทำนองชี้ถูกผิดตามกฎหมายในประเด็นคดีทางการเมือง​ ทั้งที่เป็นอำนาจตุลาการ​ ซึ่งคดียังไม่ไปสู่ศาลและยังไม่มีคำวินิจฉัย​ ทั้งในกรณีนี้ และหลายกรณีที่ผ่านมา จะโดยอาศัยหลักกฎหมายหรือใช้อภินิหาร​นั้น จะถือเป็นการไม่สมควรที่ไปก้าวล่วงดังกล่าวหรือไม่  ซึ่งอาจเป็นการชี้นำ​ และทำให้สังคมเกิดความสับสน​ได้​ เพราะได้กล่าวว่า การเสียบบัตรแทนกันไม่ถือเป็นการเสียหาย ทั้งยังกล่าวว่า เอาบรรทัดฐานในอดีต ตัดสินปัจจุบันไม่ได้ 

“นักกฎหมายเราโดยทั่วไปทราบดีว่า  ความยุติธรรมของประเทศต้องไม่มีอภินิหาร ศาลท่านจะวินิจฉัยคดีตามข้อเท็จจริงข้อกฎหมายและ พยานหลักฐาน​  บรรทัดฐานที่ถูกวางหลักไว้ก็เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม​  และไม่ได้ผูกพันเฉพาะคดีใดคดีหนึ่งเท่านั้น​ แต่ถือว่าเป็นการผูกพันในทุกคดี ที่มีข้อหาและข้อเท็จจริง เช่นเดียวกัน และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคู่ความฝ่ายใดหรือของใคร แต่เพื่อประโยชน์ ของประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก” นายชุมสาย กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top