“เทพไท” ชี้ดัชนีความโปร่งใสของไทยร่วงลง 3 ปีติดสะท้อน “รธน.ปราบโกง” แค่วาทกรรม - กระทุ้ง “บิ๊กตู่” ใช้โอกาสนี้กวดขันปรับปรุงการทำงานในการปราบปรามการทุจริต
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประกาศดัชนีความโปร่งใส หรือดัชนีคอร์รัปชั่นล่าสุด ประจำปี 2562 ประเทศไทยร่วงไปอยู่อันดับ 101 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตของประเทศ ต้องตระหนักและเร่งปรับปรุงการทำงานที่เกี่ยวกับการตรวจสอบ และปราบปรามการทุจริตให้มีความรัดกุม รอบคอบ และจริงจังมากขึ้น เพราะการที่ดัชนีความโปร่งใสของประเทศตกต่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ในปี2560 อยู่ในอันดับที่96 ปี2561 ตกลงมาอยู่ที่ลำดับ99 และปี2562ที่ผ่านมา ตกลงมาที่อันดับเลข3หลัก คืออันดับที่101 ได้36คะแนน จากคะแนนเต็ม100 ถดถอยลงมา5อันดับในรอบ3ปี แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลชุดนี้
“นับตั้งแต่ คสช. เข้ามาควบคุมอำนาจเพื่อบริหารประเทศ โดยมีข้ออ้างเรื่องสาเหตุการทุจริตของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เมื่อ คสช.บริหารประเทศเสียเอง การทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่มีแนวโน้มว่า จะลดลง กลับแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ไม่มีการตรวจสอบ และถ่วงดุลใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่ง คสช. ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ และประกาศว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง สร้างความหวังให้กับผู้คนในสังคมที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง อยากเห็นประเทศไทยใสสะอาด ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ในที่สุดหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาแล้ว3ปี ดัชนีความโปร่งใสของประเทศถดถอยลง 3 ปีติดต่อเช่นกันจึงเป็นบทพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงนั้น เป็นเพียงแค่วาทะกรรม หรือการโฆษณาชวนเชื่อ หวังผลเพื่อให้ประชาชนคนไทยลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เท่านั้น เป็นการสร้างกระแสการปราบโกงเพื่อกลบเกลื่อน เบี่ยงเบนกระแสการสืบทอดอำนาจของ คสช. ที่กำลังถูกต่อต้านอย่างหนัก” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่มีความจำเป็นต้องรื้อโครงสร้างของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับกลไกการปราบโกง และประเด็นอื่นๆที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสนับสนุนให้คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้พิจารณาศึกษาจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องทบทวนหมวดที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และโครงสร้างเกี่ยวกับการตรวจสอบ ถ่วงดุลขององค์กรอิสระ และเพิ่มการตรวจภาคประชาชนให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศ
“อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ ใช้โอกาสนี้เข้ามาปรับปรุง กวดขัน ตรวจสอบการทำงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล เพื่อทำให้ดัชนีความโปร่งใสของประเทศอยู่ในลำดับที่ดีขึ้น จะได้ไม่เป็นที่อับอายต่อประชาคมโลกอีกต่อไป” นายเทพไท กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี