เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อย่ามาอ้างว่ารัฐบาลจีนไม่ยอมให้รัฐบาลไทยส่งเครื่องบินไปรับคนไทยกลับประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากไวรัสโคโรนา เพราะสื่อต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้สหรัฐได้ส่งเครื่องบินไปรับประชาชนและเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากอู่ฮั่นแล้วนับร้อยคน ถ้าสหรัฐทำได้ แล้วทำไมรัฐบาลประยุทธ์ทำไม่ได้
ทั้งนี้ อยากถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เป็นห่วงคนไทยหรือยังไง ทำไมจึงไม่รีบส่งเครื่องบินไปรับ ทั้งที่กองทัพอากาศและการบินไทย จัดเตรียมเครื่องบินไว้พร้อมแล้ว รอแค่คำสั่งไฟเขียวจากรัฐบาลประยุทธ์เท่านั้น ทำให้ขณะนี้ คนไทยตั้งคำถามกันมากว่า เหตุใดรัฐบาลสหรัฐจึงรีบช่วยเหลือประชาชนของเขาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลประยุทธ์ ทำงานอย่างเชื่องช้า ในการรับมือกับปัญหาไวรัสโคโรนา รัฐบาลไทยอาจประเมินสถานการณ์ของโรคต่ำเกินไป ทั้งที่ขณะนี้ ประเทศไทยมีคนติดเชื้อไวรัสโคโรนามากที่สุดในโลก รองจากจีน ก็สมควรแล้วทีมีการตั้งแฮชแท็ก รัฐบาลเฮงซวย ซึ่งถือว่าเป็นคำวิจารณ์ที่เบาเกินไปด้วยซ้ำ เมื่อเทียบความบกพร่องและเชื่องช้า ในการปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแดน อันที่จริงต้องบอกว่า # รัฐบาลยิ่งกว่าเฮงซวย ด้วยซ้ำ
ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลประยุทธ์ไม่ควรหวังพึ่งแค่การคัดกรองผู้ติดเชื้อที่สนามบินเท่านั้น แต่ต้องกระตุ้นให้คนกลุ่มเสี่ยงเป็นฝ่ายเข้ามารายงานตัวเพื่อให้ข้อมูล หรือที่เรียกว่า Self Report ซึ่งจะประหยัดเวลาและงบประมาณ รัฐบาลต้องกำหนดศูนย์กลางการติดต่อว่า ให้ไปรายตัวที่ไหนอย่างไร ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของชาติตะวันตกระบุว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แม้จะไม่แสดงอาการของโรค และเชื้อไวรัสมีระยะฟักตัวราว 2 สัปดาห์ การคัดกรองที่สนามบินอาจไม่สามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อได้ 100% แต่เชื้อไวรัสโคโรนาสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จึงถือว่าน่าเป็นห่วงมาก โดยรัฐบาลต้องรายงานความคืบหน้าต่าง ๆให้ประชาชนทราบผ่านโซเชียลมีเดียด้วย เช่น เฟซบุ๊ก ไม่งั้นประชาชนอาจเข้าไม่ถึงข้อมูลต่างๆ ของรัฐบาล
"ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลงมานั่งบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง อย่าปล่อยให้เป็นแค่เรื่องของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เท่านั้น แต่ต้องบูรณาการการทำงานของหลายกระทรวงเพื่อรับมือ โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ตัวเลขคนไทยในอู่ฮั่นมีจำนวนเท่าไหร่ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยและแนวทางรักษาโรคกับรัฐบาลต่างประเทศ เพราะมีรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มแบบก้าวกระโดดถึง 150,000 - 350,000 ราย หลังจากชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคน เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากไปท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนหลายสัปดาห์
พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลกับรัฐบาลจีนว่า รายงานของสื่อต่างประเทศเป็นความจริงหรือไม่ เพื่อให้คนไทยทราบสถานการณ์ที่แท้จริง ไม่อย่างนั้น จะทำลายความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะไทยเป็นประเทศที่ชาวจีนนิยมมาท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ และส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจีนก็เดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถไฟฟ้าปะปนกับคนไทย ซึ่งบนรถไฟฟ้าก็มีการเบียดเสียดกันชนิดเนื้อแนบเนื้อ จึงอาจกระทบความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ดังนั้น รัฐบาลประยุทธ์ต้องสร้างความมั่นใจว่ามีมาตรการที่จะรับมือไวรัสโคโรนาที่ชัดเจน หากสถานการณ์ของโรคดังกล่าวลุกลามบานปลายในอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลไทยก็ต้องควบคุมการบริโภคสัตว์ป่า ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคประหลาดๆ มาสู่คนด้วย เพราะขณะนี้ทางการจีนสั่งห้ามการเปิบพิสดารดังกล่าวแล้ว" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี