ชง‘ชิมช้อปใช้’เฟส4
ดัน‘ไทยเที่ยวไทย’
ก.คลังงัดมาตรการ
กระตุ้นศก.สู้ไวรัส
“สมคิด”เผย ครม.เตรียมพิจารณา“ชิมช้อปใช้” เฟส 4 ผลักดันมาตรการจูงใจ “ไทยเที่ยวไทย” หลังปัญหาไวรัสโคโรนา ส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวต่างชาติ “อุตตม” ระบุคลังชงมาตรการภาษีชุดใหญ่ ลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเหลือ 0.20 บาท/ลิตร อุ้มสายการบินในประเทศ หักลดหย่อนภาษีเที่ยวไทยได้2เท่าสู้ไวรัสโคโรนา
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในระหว่างลงพื้นติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน“โครงการประชารัฐสร้างไทย พัฒนาปักษ์ใต้ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”ว่าเศรษฐกิจไทย เจอมรสุมหลายลูกทั้งปัญหาไวรัสโคโรนา กระทบต่อการท่องเที่ยว ปัญหางบประมาณปี2563 ยังไม่บังคับใช้ ปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่ไม่ใช่เวลาต้องมานั่งโทษใคร ทุกคนต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ แม้ จีดีพี จะขยายตัวลดลงไปบ้างแต่ไทยยังมีศักยภาพดีพอ
และยอมรับปัญหางบประมาณ เป็นพายุลูกใหญ่ ต้องหาทางผ่าทางตันไปให้ได้เร็วที่สุดจึงเตรียมหารือกับ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ รมว.คลังเพื่อหาทางออกร่วมกันเดียวกันนี้ รองรับการใช้จ่ายงบประมาณและระหว่างรอช่องทางใช้เงิน ต้องศึกษาดูว่าจำเป็นหรือไม่ ต้องมีแหล่งเงินมาใช้หมุนเวียนเพิ่มเติม
“กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการส่งเสริม“ไทยเที่ยวไทย”วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้เพื่อดูแลภาคท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไวรัสโคโรนา ผ่านโครงการ ชิมช้อปใช้ เฟส 4 เมื่อต่างชาติไม่เดินทางเข้ามาจึงต้องงัดมาตรการจูงใจคนไทยเที่ยวไทยหวังลดผลกระทบจากปัญหาโรคแพร่ระบาดและต้องดูแลน้ำใจนักท่องเที่ยวจีน เมื่อโรคระบาดคลี่คลาย จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งรวมทั้งปัญหางบประมาณ ทุกคนต้องเผชิญ ทุกคนจึงต้องช่วยกันหาทางออก”นายสมคิด กล่าว
รองนายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลจึงต้องเน้นสร้างเศรษฐกิจไทยในประเทศให้เข้มแข็ง จึงหวังใช้นโยบายประชารัฐสร้างไทย ทำให้ชุมชนเข้มแข็งพัฒนาสินค้าท้องถิ่น นำจุดแข็งท้องถิ่นมาปรับปรุงพัฒนา มาสร้างรายได้ให้ชุมชน เช่นสถาบันการเงินชุมชนหลายแห่งภาคใต้มีทุน20-30 ล้านบาทและยังเพิ่มขึ้นผ่านการบริหารกันเองในชุมชน เมื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสินร่วมกันดูแลให้เข้มแข็ง100-200 แห่งประเทศ ชาวบ้านจะมีแหล่งทุนในชุมชนเช่นผลิตภัณฑ์กระจูดวรรณี จ.พัทลุง สร้างรายได้ให้สมาชิกในชุมชนอย่างมาก แนวโน้ม ยังทำตลาดออนไลน์ได้เพิ่มเติม
“หากทุกจังหวัดชุมชนเข้มแข็งจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตจากข้างใน แต่ละจังหวัดผลิตสร้างรายได้ บริการเท่าใด เช่น จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองอันดับหนึ่ง ช่วยเพิ่มรายได้เติบโตถึงร้อยละ 4 ต่อปี หากรายได้ชุมชนเพิ่มต่อเนื่องจะไม่ต้องรอการส่งออกไปต่างประเทศ การใช้จ่ายภาครัฐ เมื่อ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ส่งเสริมให้ขายสินค้าออนไลน์ได้ บริษัท ไปรษณีไทยส่งสินค้าได้ การขายสินค้าสะดวกขึ้นการระเบิดจากข้างในตามแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงเป็นโอกาสต้องเร่งทำ จ.แพร่ น่าน เริ่มเติบโต หากผลักดันได้ครบทุกจังหวัดเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งแน่นอน”นายสมคิด กล่าว
ด้าน นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ คลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างรุนแรงประกอบด้วยการลดภาษีน้ำมันเครื่องบินจากที่เคยเก็บอยู่ 4.726 บาทต่อลิตร ลดลงเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร โดยให้ลดอัตราภาษีไปถึง 30 กันยายน 2563 ช่วยบรรเทาต้นทุนสายการบินที่บินภายในประเทศได้ส่วนหนึ่งซึ่งไม่กระทบการเก็บภาษีของประเทศมากเพราะปัจจุบันการเก็บภาษีน้ำมันเครื่องบินอยู่ที่ปีละ 1,000-2,000 ล้านบาท เท่านั้น
นอกจากนี้คลัง ยังจะเสนอมาตรการภาษีลดหย่อยให้ผู้ประกอบการที่ไปจัดงานสัมมนา หรืออบรม ท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ให้นำค่าใช้จ่ายจากที่พักโรงแรมมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ขณะที่ในส่วน โรงแรม ที่พัก หรือสถานท่องเที่ยวต่างๆ หากมีการปรับปรุงสถานที่ให้ดีขึ้นสามารถนำรายจ่ายมาหักลดหย่อยภาษีได้ 1.5 เท่า โดยมาตรการนี้มีผลถึง 31 ธันวาคม 2563
ขณะเดียวกัน คลัง ยังจะเสนอมาตรการขยายการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปี 2562 จากเดิมที่ต้องยื่นภาษีดังกล่าวภายในเดือน มีนาคม 2563 ให้ขยายเวลาออกไปอีก 3 เดือน โดยสามารถชำระและยื่นแบบภาษีไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อเป็นการบรรเทาให้กับผู้มีรายได้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและในช่วงนี้ จะได้มีเงินเหลือในการใช้จ่ายเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายอุตตมกล่าวว่าในส่วนของมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เฟส4 ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเสนอ ครม.เมื่อไหร่ ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ระหว่างขึ้นตอนการพิจารณาถึงรูปแบบการดำเนินการที่เหมาะสม
วันเดียวกัน ที่กระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังเป็นประธานในพิธีจับรางวัล“ชิมช้อปใช้ลุ้นโชคใหญ่” ครั้งที่ 6ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของโครงการโดยแจกรางวัลใหญ่รถยนต์ Toyota Altis (limo) มูลค่า 829,000 บาท และรถกระบะ Toyota Hilux Revo มูลค่า 595,000บาท ให้กับผู้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 ระหว่างวันที่ 27 กันยายน 2562-วันที่ 31 มกราคม 2563 จำนวนสิทธิ์ในการลุ้นรางวัลในครั้งนี้กว่า 12 ล้านสิทธิ์ จากยอดการใช้จ่ายกว่า 17,000 ล้านบาท
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าโดยตลอดระยะเวลาของโครงการ มียอดการใช้จ่ายกว่า 28,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าแรกประมาณ 11,500 ล้านบาท และผ่านกระเป๋า G–Wallet 2 กว่า 17,000 ล้านบาท จากประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ทั้งสิ้น 12.6ล้านคน และมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 170,000 ราย โครงการชิม ช้อป ใช้ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก จากยอดลงทะเบียนรับสิทธิ์ ทั้งเฟส 1-3 เปิดให้ลงทะเบียนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็เต็มตามจำนวนที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน โดยมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมีปริมาณมากเพียงพอครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมบริการ และกระจายทุกภูมิภาคของประเทศที่มีมากกว่า 170,000 ราย ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี