"บิ๊กตู่"ยันไม่เอื้อประโยชน์ฝ่ายใด ดันลุงทุนรถไฟความเร็วสูง เหตุต้องการเป็นเจ้าของเส้นทาง
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ว่า จำเป็นต้องลงทุนเพื่อให้เกิดการจ้างงาน ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลทำไมทำไม่ได้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน โดยปี 2567 จะมีเครือข่ายทางรถไฟกว่า 4,400 กิโลเมตร การขนส่งทางถนน มีการขยายโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเพิ่มขึ้นอีก 525 กิโลเมตรในปี 2566 จากปี 2557 ที่มีเพียง 165 กิโลเมตร และจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครกว่า 400 กิโลเมตรในปี 2569
ส่วนรถโดยสารประจำทางอยู่ระหว่างการเร่งปฏิรูปจัดการเดินรถแบบใหม่ สำหรับการขนส่งทางอากาศ ก็มีปัญหาเกี่ยวกับการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและขยายท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 2 และการเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานทั่วประเทศ โดยจะมีขีดความสามารถรับได้ 169.8 ล้านคนต่อปี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็ต้องทำทุกที่ ปัญหารัฐบาลก่อนหน้านี้ก็ต้องมาตามแก้ ซึ่งก็ต้องดูแลประชาชน เช่นเดียวกับในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยชี้แจงการยกพื้นที่ให้ต่างชาติ 100 ปีนั้น เป็นกฎหมายเดิมซึ่งเป็น 50 ปีบวก 49 ปี หากเห็นสมควร แต่ที่ดินยังเป็นของประเทศไทย ไม่สามารถซื้อไปได้ เป็นการสัมปทานเท่านั้น ส่วนสิทธิประโยชน์ BOI ไม่ได้ให้เฉพาะต่างประเทศ แต่คนไทยก็ได้ด้วย ซึ่งประเทศ อื่นๆ ให้สิทธิประโยชน์มากกว่า แต่ประเทศไทยนั้นคำนึงถึงกฎหมายด้วย และขอให้ทุกคนช่วยสร้างความเชื่อมั่น
ส่วนการทำงานแผนปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาตินั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ดูมาตลอดตั้งแต่ต้น ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใด พร้อมชี้แจงว่าประเทศไทยพยายามจะลงทุนเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง เพื่อเป็นเจ้าของเส้นทางเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูงเอง ส่วนการจัดการปัญหาขยะพลาสติกก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้วโดยมีรถมาตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2573 ซึ่งบริษัทห้างร้านก็ให้ความร่วมมือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี