‘เพื่อไทย’บี้รบ.เร่ง5มาตรการกระตุกศก. ขู่เกียร์ว่างเจอตรวจสอบโชว์ปชช.
1 มีนาคม 2563 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ และหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการพิเศษฯถูกตั้งขึ้นมา 3 เดือนก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ซึ่งเราได้เก็บข้อมูลการบริหารราชการของฝ่ายรัฐบาลมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และใช้ในการอภิปรายต่างๆ เราจะเห็นได้ว่าปัญหาใหญ่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ การบริหารบ้านเมืองที่ผิดพลาด ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้
นอกจากนี้ยังมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ จนทำให้นักเรียน นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันไม่พอใจกับกรณีดังกล่าว ส่งผลทำให้มีการออกมาแสดงความไม่พอใจ พร้อมทั้งประกาศจุดยืนของแต่กลุ่ม โดยแสดงให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของประชาชนที่จะนำไปสู่การล้มรัฐบาลได้ และผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมานั้นทางพรรคร่วมฝ่ายค้านตระหนักและรู้ดีอยู่แล้วว่าทางฝ่ายรัฐบาลมีจำนวนเสียง ส.ส. ในสภาฯ ที่มากกว่า จึงยากที่จะล้มรัฐบาลในสภาฯ และเปรียบเสมือนการลงเรือแป๊ะ ยังไงก็ต้องช่วยแป๊ะอยู่ดี
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ถึงจุดขาลงต่ำที่สุด เพราะการที่ไทยเราประสบกับปัญหาเศรษฐกิจที่แย่ลงอย่างต่อเนื่องยาวนานติดต่อกันมาหลายปี นั้น คงจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายนัก ต่อให้ไวรัสโควิด-19 หายไป ก็ยังทำให้ไทยสูญเสียรายได้หลายแสนล้านบาท แล้วรัฐบาลจะมีแนวทางนโยบายแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวอย่างไรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติกลับมาลงทุนได้อีก เพราะหากไม่มีการลงทุน งานก็ไม่เกิด เศรษฐกิจไทยก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ ดังนั้นตนจึงขอเสนอ 5 มาตรการทางออกที่รัฐบาลควรจะต้องรีบดำเนินการทำอย่างเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนี้
1.ลดราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊ส ลดค่าไฟฟ้า สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น โดยการใช้เงินกองทุนน้ำมันให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ประชาชน
2.ปรับค่าดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลดลง โดยปรับส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ ซึ่งเมื่อดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง ก็จะทำให้การลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยโตขึ้น 2.4% แต่ธุรกิจธนาคารกลับโตขึ้น 30.8% ซึ่งสวนทางเป็นอย่างมาก หากดัชนีการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศตกลง อัตราการเติบโตของธนาคารก็ควรที่จะต้องลดลงด้วย
3.ตัดงบประมาณกองทัพมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ เราคงไม่ไปสู้รบกับใครในเวลานี้ แถมอาวุธที่ซื้อมาก็ไม่ได้ทันสมัย พอจะไปรบกับใครก็คงลำบาก กองทัพควรเสียสละคืนเงินงบประมาณประเทศมาพัฒนาเศรษฐกิจก่อน ซึ่งในปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยตกต่ำมาหลายปีติดต่อกัน หากเศรษฐกิจไทยดีขึ้น กองทัพไทยก็จะมีงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับทำการวิจัยพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปซื้อจากประเทศอื่น
4.สนับสนุนการลงทุน โดยเฉพาะรักษาไม่ให้บริษัทที่มีอยู่ย้ายไปลงทุนที่ต่างประเทศ เพราะตอนนี้มีโรงงานผลิตสินค้าจำนวนมากที่เคยอยู่ไทยได้ย้ายไปต่างประเทศแล้ว เพราะหากยังไม่รีบเดำนินการแก้ไข จะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 5 แสนคน
5.สนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีของไทยให้เกิดขึ้นและดำรงอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากบริษัททางด้านเทคโนโลยีของเรายังไม่สามารถที่จะแข่งขันกับต่างประเทศได้ ประเทศไทยเราจะตกเทรนด์ และจะไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการของตลาดโลกได้ในอนาคต
“ดังนั้นรัฐบาลจึงควรที่จะยอมรับถึงจุดอ่อนของตนเอง โดยรีบวางมาตรการแก้ไขปัญหาที่จำเป็น อย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง ถ้ารัฐบาลยังไม่เริ่มดำเนินการใดๆ พรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบและจะไม่ทำให้คนไทยกว่า 7.92 ล้านคนที่เลือกเราต้องผิดหวังอย่างแน่นอน โดยทางพรรคมีคณะทำงานหลายคณะที่จะคอยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องจริงจัง และพร้อมที่จะนำความจริงออกมาเปิดเผยแสดงให้ประชาชนได้เห็นต่อไป” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี