วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'ช่อ'แนะรัฐสื่อสารช่วงวิกฤต'โควิด-19'  มุ่ง4ประเด็นต้องแก้ไข

'ช่อ'แนะรัฐสื่อสารช่วงวิกฤต'โควิด-19' มุ่ง4ประเด็นต้องแก้ไข

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563, 20.35 น.
Tag : น.ส.พรรณิการ์ วานิช อนาคตใหม่ อยู่ไม่เป็น โควิด19
  •  

"ช่อ" แนะรัฐสื่อสารช่วง "วิกฤตโควิด-19" 4 ประเด็นต้องแก้ไข ช่องทางถูกต้องรวมศูนย์- ครอบคลุมครบถ้วน- หยุดไล่ฟ้อง ปชช. - สร้างโอเพ่นดาต้า

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงแนวทางการสื่อสารของภาครัฐ และการรับสารของประชาชน ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า ในช่วงเวลาที่อยู่ในภาวะวิกฤตสาธารณะสุขที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ในการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ไม่ได้มีเพียงปัญหาด้านสาธารณะสุขเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ด้านการจัดการในด้านสาธารณะสุขนั้นก็คือ การจัดการด้านการสื่อสาร วันนี้ อยากจะแสดงความคิดเห็นเล็กน้อย เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในด้านการสื่อสารจากรัฐไปถึงประชาชน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับชีวิตของประชาชนคนไทยในการรักษาตนเองให้รอดจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีอยู่ 4 ประเด็นในการสื่อสารระหว่างรัฐกับประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตเช่นนี้


น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ประเด็นแรกการสื่อสารในห้วงวิกฤต ไม่ใช่การสื่อสารตามระบบราชการปกติ แต่ปัจจุบันหากประชาชนจะหาข้อมูลอัพเดทที่เที่ยงตรงแม่นยำเรื่องโควิด-19 กลับไม่มีใครนึกออกว่าควรไปดูที่ช่องทางไหน มีทั้งเพจชัวร์ก่อนแชร์ เพจศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากการติดเชื้อโควิดและเว็บไซต์กรมควบคุมโรค แถลงทางการจากกระทรวงสาธารณสุข แถลงจากนายกรัฐมนตรี คำถามง่ายๆ หากเดินไปถามประชาชนคนไทย ถ้าคุณอยากจะติดตามข่าวสารไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเที่ยงตรง ไม่บิดเบือน เป็นข้อมูลที่ดีที่สุด คุณจะไปดูที่ไหน ตนเชื่อว่าไม่มีใครตอบได้หรือไม่มีคำตอบที่ตรงกัน นี่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในห้วงที่เกิดวิกฤตเช่นนี้ แต่ว่าการสื่อสารของภาครัฐในช่วงนี้ ไม่ได้เป็นการสื่อสารในช่วงวิกฤต แต่เป็นการสื่อสารในระบบราชการทั่วๆ ไป เราจึงจะเห็นได้ว่ามีแถลงการณ์ จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสนไม่รู้ว่าจะเชื่อข่าวจากทางไหนกันแน่ ซึ่งบางข้อมูลขัดแย้งกัน อย่างเพจชัวร์ก่อนแชร์ มีข้อมูลที่ดีมาก แต่อินโฟกราฟฟิกเข้าใจยาก ทำให้เข้าไม่ถึงประชาชน

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลมากที่สุด อย่างกรมควบคุมโรค ประชาชนเข้าถึงน้อยมาก ในขณะที่แถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรีที่เป็นโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ก็ไม่ใช่ข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอ และยากต่อการทำความเข้าใจ ซึ่งช่องทางหลักของการสื่อสารควรรวมเป็นแหล่งเดียว ออก 2 ช่องทาง คือทีวี และออนไลน์ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศยังเข้าถึงทีวีมากที่สุด ในขณะที่ออนไลน์มีลักษณะอัพเดทรวดเร็ว ไวต่อสถานการณ์ แถลงการณ์ของกรมควบคุมโรคควรเป็นแถลงออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และมีตัววิ่งทางทีวี ควบคู่กับการอัพเดทออนไลน์ ตัวอย่างเช่น ไต้หวัน ในแต่ละวันมีการออกมาตรการต่างๆ โดยรัฐถึง 4-5 รายการ แต่ก็ไม่ได้สร้างความสับสน เพราะมีการสื่อสารแบบรวมศูนย์โดยศูนย์บัญชาการโควิดที่เดียวอย่างเป็นระบบ

"เว็ปไซต์ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนกลับไม่มีใครเข้าไปดู ประชาชนไม่รู้ว่าต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ใดถึงจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด ในขณะเดียวกันแถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรีที่ส่งถึงประชาชนมากกว่า 95 % หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีข้อมูลที่จำเป็นสำหรับประชาชนมากพอ แต่กลับเป็นข้อมูลที่ไปถึงประชาชนในระดับกว้างที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น การสื่อสารควรจะรวมศูนย์เป็นช่องทางเดียว เป็นการสื่อสารที่เป็นทางการ รวดเร็ว ฉับไว และมีข้อมูลที่ครบถ้วน" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ 3 รัฐใช้ศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์ รับมือกับข่าวสารผิด บิดเบือน ข่าวปลอม ในกรณีโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าการจัดการข่าวปลอมเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกและการเผยแพร่ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการรับมือโรคระบาด แต่ปัญหาคือ การสื่อสารที่ไปไม่ถึงประชาชน ทำให้เกิดช่องว่าง ประชาชนกระหายข้อมูลที่ฉับไวรวดเร็ว เพราะกำลังกังวลเรื่องโรคระบาด จึงไม่แปลกที่จะเกิดข้อมูลข่าวสารมากมายจากช่องทางไม่เป็นทางการ วิธีการที่ดีที่สุดในการต้านข่าวปลอมในช่วงเวลานี้ จึงเป็นการทำให้ข้อมูลข่าวสารจากรัฐ ไปถึงประชาชนอย่างรวดเร็วและกว้างขวางที่สุด

"นี่คือครั้งแรกที่โลกเผชิญกับภัยพิบัติโรคระบาดที่แพร่กระจายทั้งโลกในยุคโซเชียลมีเดีย ในยุคที่ผู้คนกระหายข้อมูลอย่างมาก เนื่องด้วยความกังวลว่าจะติดโรคระบาด สิ่งที่รัฐจะทำได้เพื่อยุติเฟคนิวส์หรือทำให้เฟคนิสว์เหลือน้อยที่สุดนั่นก็คือ การให้ข้อมูลที่รวดเร็วและเที่ยงตรงกับประชาชน ถ้ารัฐย่นระยะช่องว่างระหว่างความต้องการข่าวสารกับความสามารถที่รัฐจะให้ข่าวได้ ยิ่งลดได้มากเท่าไร ยิ่งเหลือพื้นที่สำหรับเฟคนิวส์น้อยเท่านั้น อย่ามัวแต่ไปไล่ฟ้องคนที่ให้ข่าว ซึ่งบางครั้งอาจไม่ใช่เฟคนิวส์ แต่อาจเป็นข่าวที่ไม่เป็นทางการเท่านั้นเอง" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว 

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นสุดท้าย การใช้ open data และเปิดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลอย่างฉับไว ทั้งข้อมูล travel log หรือบันทึกการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ของผู้ติดเชื้อ และที่จัดจำหน่ายหน้ากาก เจลล้างมือ ชุดตรวจโรค รวมถึงข้อมูลจำเป็นทั้งหมดอย่างเป็นระบบ จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่เฟส 3 ที่การระบาดของโรคแพร่ไปมากแล้ว ตอนนี้มีความพยายามทั้งจากรัฐและเอกชน ในการจัดทำข้อมูลเช่นนี้ แต่ปัญหาคือ ในขณะที่เอกชนทำอินเตอร์เฟซแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ได้ดี แต่ก็ขาดข้อมูลที่มากพอ ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลมากในฐานะรัฐ แต่ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการข้อมูลให้ดูง่าย เข้าใจง่ายสำหรับประชาชนทั่วไป การร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนเพื่อทำเว็บไซต์หรือแอพฯที่ทั้งข้อมูลครบถ้วนและเข้าใจง่าย เริ่มขึ้นแล้ว แต่ยังล่าช้าไม่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เราควรเร่งให้เกิดเว็บไซต์หรือแอพฯรวบรวมข้อมูลที่เข้าใจง่ายและเที่ยงตรงเช่นนี้โดยเร็วที่สุด หากไทยเข้าสู่เฟส 3 จะได้สามารถรับมือสถานการณ์ และสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง\'อัจฉริยะ\' คดีหมิ่น\'จุรินทร์\'ปมกักตุนหน้ากากอนามัย อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง'อัจฉริยะ' คดีหมิ่น'จุรินทร์'ปมกักตุนหน้ากากอนามัย
  • \'สมศักดิ์\' ขออย่าตื่นตระหนกโควิด-19 รายใหม่ เริ่มลดลง 'สมศักดิ์' ขออย่าตื่นตระหนกโควิด-19 รายใหม่ เริ่มลดลง
  • เตือน! สัปดาห์เดียวป่วยโควิด พุ่ง 8,000 ราย ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า เตือน! สัปดาห์เดียวป่วยโควิด พุ่ง 8,000 ราย ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า
  • \'จตุพร\'ฟันธง! ยุบ\'ก้าวไกล\'ไม่ต่างอนาคตใหม่ เชื่อปชช.ไม่ทุกข์ร้อน จนอำนาจนิยมฮึกเหิมใจ 'จตุพร'ฟันธง! ยุบ'ก้าวไกล'ไม่ต่างอนาคตใหม่ เชื่อปชช.ไม่ทุกข์ร้อน จนอำนาจนิยมฮึกเหิมใจ
  •  

Breaking News

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved