กมธ. ดีอีเอส จัดประชุมผ่านทางไกลครั้งแรก ถกมาตรการที่ผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตช่วยเหลือรัฐและประชาชนในภาวะวิฤตไวรัสโควิด-19 เผยพบอุปสรรคทั้งข้อบังคับฯ ที่ไม่รับรอง ประกาศของกระทรวงดีอี ที่ไม่สามารถครอบคลุมการทำงานของสภาฯ ได้
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกมธ. ซึ่งได้ทดลองใช้การประชุมผ่านวีดีโอทางไกล (เทเลคอนเฟอเรนซ์) เป็นครั้งแรกเพื่อขับเคลื่อนการทำงาน ตามมาตรการ work from home ลดการรับหรือแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวได้เชิญตัวแทนของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าร่วมประชุมในห้อง กมธ. และมีวีดีโอทางไกล ของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ร่วมประชุม นอกจากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ พร้อมคณะทำงานได้เข้าสังเกตการณ์การประชุมดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมนายฐากร ได้รายงานต่อกมธ.ฯถึงมติของ กสทช. เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ต่อมาตรการที่ผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตช่วยเหลือรัฐและประชาชนในภาวะวิฤตไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้เสนอเรื่องไปยังรัฐบาล อาทิ การใช้งบประมาณของ กสทช. ส่วนของค่าประมูลคลื่นความถี่ มูลค่า 100 ล้านบาท เพื่อจ่ายค่าซื้อแพคเกจอินเตอร์เน็ตในครัวเรือน ให้กับ 500 ครัวเรือนที่ซื้อแพคเกจอินเตอร์เน็ตราคาถูกและไม่เต็มประสิทธิภาพ, และงบประมาณ จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 3เดือน คือ เดือนละ 400 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้กับผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือแบบเติมเงิน จำนน 50 ล้านเลขหมาย เพื่อเพิ่มจำนวนการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถืออีก 10 กิกะไบต์
“จากที่หารือกับผู้ให้บริการ 5 ผู้ประกอบการ กสทช. จะขอให้ผู้ประกอบการส่งสัญญาเพื่อตรวจสอบแพคเกจอินเตอร์เน็ตครัวเรือนและบนมือถอืให้กสทช. ตรวจสอบก่อนดำเนินมาตาการที่หารือ นอกจากนั้นแล้วจะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการอย่าลดสปีดการใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือจ่ายสปีดอินเตอร์เน็ตให้เต็มประสิทธิภาพ หากพบว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงและเอาเปรียบประชาชนจะใช้มาตรการตามกฎหมายดำเนินการทันที” นายฐากร กล่าว
นายฐากร กล่าวด้วยว่าขณะที่การให้บริการแจ้งข่าวสารไปยังประชาชนนั้น ได้ให้ความร่วมมือกับกรมประชาสัมพันธ์ และกรมควบคุมโรค เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนผ่านข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) วันละ 2 รอบ คือ ช่วง 7.00 น. และ 14.00น. โดยใน 1 ชั่วโมงสามารถส่งข้อความ ได้ 1 แสนเลขหมาย โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคือ คนที่กักตัวและกลุ่มนักท่องเที่ยว เพื่อเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันการส่งข้อมูลผ่านข้อความสั้นนั้นผู้ให้บริการแต่ละเครือข่ายจะทยอยส่งไปยังผู้ใช้บริการ แต่จะงดการส่งช่วง 21.00 น. เพื่อป้องกันการรบกวนผู้ใช้บริการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุมกมธ.ฯ ยังมีการหารือถึงการจัดประชุมผ่านเทเลคอนเฟอเร็นซ์ ที่พบว่า มีปัญหาเรื่องเสียงและสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึงข้อบังคับการประชุมกมธ.ที่ยังไม่รองรับการประชุมลักษณะดังกล่าวของสภาฯ ที่มีกติกาและข้อบังคับที่ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งน.ส.กัลยา ได้ฝากนายชวน ซึ่งร่วมสังเกตการณ์ให้พิจารณาแก้ไขข้อบังคับเพื่อรับรองการทำงานผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยและลดความเสี่ยงต่อการแพร่หรือรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่นายชวน กล่าวให้กำลังใจการทำงานของกมธ.ฯ พร้อมระบุว่าการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการประชุมกมธ.ฯ อาจมีปัญหาไม่มาก แต่หากจะนำไปใช้กับการประชุมสภาฯ ที่มีจำนวนคนประชุม 500 คนอาจต้องหารือกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อบังคับการประชุมกมธ.ฯ ที่ไม่รองรับนั้น เพราะข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่มีข้อกำหนด ขณะที่ประกาศของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่เกี่ยวข้องระบุว่าการประชุมผ่านทางไกล ทำได้ แต่ผู้มาประชุมที่ต้องนับเป็นองค์ประชุมต้องใช้เสียง 1 ใน 3 และต้องนั่งในสถานที่เดียวกัน ห้ามประชุมนอกราชอาณาจักร ขณะที่การลงมติใดๆ ต้องใช้เสียง 1 ใน 2 อย่างไรก็ตามในการประชุม กมธ.ฯ ของสภาฯ นอกจากมีกมธ.ฯ ร่วมประชุมแล้ว จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ อาทิ เจ้าหน้าที่ชวเลข, ผู้ชี้แจง, ฝ่ายเลขานุการของกมธ., เข้าร่วมด้วย รวมถึงหากจะลงมติใดๆ จะมีผลผูกพันตามกฎหมายด้วย ทำให้การใช้ประกาศของกระทรวงดีอี ไม่สามารถครอบคลุมการทำงานของสภาฯ ได้ และหากสภาฯ จะแก้ไขข้อบังคับหรืองดเว้นการใช้ข้อบังคับ จำเป็นต้องขออนุมัติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี